ตอนที่ 2 ความฝัน (2)
เฟยหลงพึมพำพรางครุ่นคิด เกรงว่าความฝันนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องในนิยายของเธอที่แต่งขึ้น เพราะเธอมั่นใจว่าการจัดวางตัวละครนั้นเธอจัดให้ฮองเฮาและสนมรัก ช่วยเหลือกันและเป็นวังหลังที่ดี แต่ทำไมในความฝันนี้กลับแปลกประหลาดไปหมดราวกับว่าตัวละครในนี้กำลังมีชีวิตเป็นของตัวเอง
เฟยหลงยังคงฝันต่อเนื่องทั้งอย่างนั้น โดยที่ตัวของเธอเองก็ไม่รู้เลยว่าเธออยู่ส่วนไหนของความฝันกันแน่ ไร้ซึ่งตัวตน ไร้ซึ่งรูปร่าง แต่กลับมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น
“หรือเพราะเราเครียดและกดดันกับนิยายเรื่องนี้กันนะ จิตใต้สำนึกถึงพาให้ฝันประหลาดแบบนี้”
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ใช้ความคิดไปมากกว่านั้น ภาพในห้วงฝันได้ตัดกลับมายังกระท่อมหลังน้อย หญิงผู้นี้ยังคงง่วนอยู่กับตำรายา และเหมือนสวรรค์จะรู้ว่าเมื่อจิตใจของเฟยหลงใคร่รู้ว่าแม่นางผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่กันแน่
ก็เป็นดั่งใจนึกทุกประการ ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับว่าเธอนั้นเป็นกล้องที่กำลังถ่ายวิดีโอและซูมเข้าซูมออกได้ตามใจ ราวกับเธอสามารถควบคุมความฝันนี้ได้อย่างอิสระอย่างไรอย่างนั้น
“ฝันคืนนี้จะว่าไปก็สนุกดีแหะ”
แม่นางผู้นั้นยังคงนั่งปรุงยาหลากหลายชนิด บางหม้อแม่นางปรุงแล้วชิม ชิมและปรุง มีเพียงหม้อดินเผาสีดำทะมึนน่ากลัวเพียงใบเดียวเท่านั้นที่ไม่แม้แต่จะเปิดดูหรือใยดี นางเพียงแค่สุมฟืนเพิ่มเข้าไปเพียงเท่านั้น
หลี่เฟยหลงนึกอยากลองชิมยาในหม้อตามนางสักครั้ง อยากรู้ว่าที่นางกำลังปรุงนั้นคือยาอะไร เพราะที่แห่งนี้ก็เป็นเพียงแค่ความฝันที่เกิดจากจินตนาการของเธอฉากหนึ่งเท่านั้น
“ยาแก้ไข้ แก้ไอ หรือยาบำรุงกำลังกันนะ”
เธอกำลังสะกดจิตตัวเองให้ขยับไปด้านหน้าเพื่อลองชิมยานั้น แต่แล้วบรรยากาศรอบตัวของเฟยหลงเกิดเปลี่ยนไป รอบตัวเธอนั้นเริ่มมีลมพายุพัดมารวมกันที่กระท่อมหลังนี้
“เดี๋ยวสิ เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วเนี่ย”
ความรุนแรงนั้นราวกับว่ามันสามารถทำให้กระท่อมน้อยหลังนี้ปลิวหายไปได้ในพริบตา แต่ที่น่าแปลกใจคือหญิงผู้นั้นกลับไม่ได้รู้สึกตกใจหรือสะทกสะท้านในเหตุการณ์นี้เลยแม้แต่น้อย หลี่เฟยหลงยังคงจ้องมองนางยังใจจดใจจ่อ แม้รอบตัวนางจะมีลมพัดโหมเพียงใดแต่ใบหน้าของนางยังคงจดจ่ออยู่กับหม้อยาเหล่านั้นด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นราวกับสนามรบที่ถูกระเบิด ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวสดใสเมื่อครู่ สาดเส้นแสงสีขาวกระจายทั่วไปทั้งผืนฟ้าเป็นระยะ กลับกลายเป็นตัวของเฟยหลงเองที่เป็นคนกังวลจนเรียกได้ว่าจิตแทบตก
เปรี๊ยง!!
“กรี๊ด!!!”
เธอนั้นเป็นคนที่กลัวเสียงฟ้าผ่าเป็นที่สุด ยิ่งบรรยากาศรอบตัวเธอเป็นเช่นนี้แม้จะในความฝันเธอก็ไม่ยินดีรับ ความหวาดกลัวเริ่มกัดกินเข้ามาในหัวใจเธอเชื่องช้า ไม่ว่าจะพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นเพียงไร เธอก็ไม่สามารถตื่นจากความฝันได้เสียที และไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด สายตาของเฟยหลงกลับเอาแต่จดจ้องมองไปยังหญิงผู้นั้นไม่กระพริบ
“อะไร ก..เกิดอะไรขึ้นอีก”
เธอจดจ้องและเพ่งมองไปที่นางอีกครั้ง หลี่เฟยหลงเองที่เห็นว่าหญิงตรงหน้านั้นนางกำลังใช้สายตาจ้องมองมาที่เธอเช่นกัน ราวกับว่านางก็เห็นว่าตรงนี้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญกำลังแอบดูนางอยู่
ยังไม่ทันที่เฟยหลงจะได้หายตกใจ บรรยากาศจากที่สว่างไสวกลับมืดสนิทลงอย่างทันตาเห็น มีเพียงแสงจากตะเกียงในกระท่อมที่ถูกจุดขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้ หญิงผู้นั้นยังคงจ้องมองมาที่เธอด้วยใบหน้าที่ไม่ได้ตกใจเลยแม้แต่นิด
เฟยหลงจ้องมองไปที่คนผู้นั้น เห็นได้เลยว่านางทำท่าพูดอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ยิน ท้องฟ้าที่ดูเหมือนจะสงบไปแล้วเกิดแปรปรวนและกระหน่ำเกิดเสียงฟ้าร้องดังลั่นอีกหลายครั้ง
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
“กรี๊ด!”
พร้อมกับแสงสีขาวที่สว่างวาบจนแสบตา ทำให้ภาพในความฝันนี้กลายเป็นสีขาวโพลน..
“นามของข้า..เพ่ยเพ่ย”
“ฮื่อ..”
“เจ้า.. ช่วยน้องชายของข้าด้วย”