"วิ้ด วิ้ว!!!"
เสียงโห่แซวของผู้ชายคณะวิศวะที่นั่งเรียงกันอยู่ตรงเก้าอี้ข้างตึกคณะ เป็นที่รู้กันว่าหากผู้หญิงคนไหนอยากโดนแซว ต้องแกล้งเดินผ่านมาตรงนี้ และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น
โบวี่สาวสวยคณะนิเทศศาสตร์ ที่สะดุดตาหนุ่มหล่อคณะวิศวะฯ เป็นหนึ่งในหนุ่มหล่อที่อยู่ในกลุ่มที่กำลังแซวเธอตอนนี้ด้วย แต่ทว่าเขาไม่ใช่คนที่แซวเธอ
เขาคือไฟ ผู้ชายที่ท่าทางสุดแสนจะเย็นชา ชอบนั่งเล่นโทรศัพท์เงียบ ๆ ไม่สนใจสิ่งรอบตัว แต่นั่นก็คือจุดสนใจที่ทำให้เธออยากค้นหาผู้ชายที่แสนเงียบขรึมคนนั้น เธออยากรู้เหลือเกินว่าเห็นนิ่ง ๆ แบบนี้ ลีลาบนเตียงจะขนาดไหน แค่คิดก็รู้สึกมดลูกเธอสั่นขึ้นมาทันที
"เดินผ่านทางนี้ทุกวัน ไม่ทราบว่าน้องโบวี่ติดใจใครแถวนี้หรือเปล่าครับ"หนึ่งในผู้ชายที่แซวเธอถามขึ้น คงจะเป็นเพื่อนในกลุ่มของไฟ ผู้ชายที่เธอชอบและอยากได้
"ถ้าฉันบอกไป พวกพี่จะช่วยหรือเปล่าคะ"
"หูยยย แรงมากน้อง แล้วผู้ชายคนไหนที่ทำให้น้องอยากได้ล่ะครับ"
นิ้วเรียวยกขึ้นชี้หน้าผู้ชายที่กำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจใคร
"ไอ้ไฟเหรอ?"
"ใช่ค่ะ ฉันชอบพี่เขาค่ะ"เสียงหวานที่เปร่งออกมา ทำให้ชายหนุ่มเงยใบหน้าขึ้น พร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยที่ยิ้มให้เขาอย่างยั่วยวน
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นเธอ แต่เขาแค่ไม่สนใจผู้หญิงที่ใส่ชุดนักศึกษารัดจนแทบปริ หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่บึ้มออกมา กระโปรงที่นอกจากจะผ่าแล้ว ยังสั้นจนเกือบเห็นแก้มก้น ไม่อยากนึกภาพหากเธอก้มลงหยิบของอะไรสักอย่าง คงแทบไม่ต้องจินตนาการเลยว่าอะไรของเธอจะโผล่ออกมาบ้าง
"ไอ้นี่มันตายด้านนะน้อง เปลี่ยนใจเถอะ"เพื่อนคนหนึ่งของเขาเอ่ยแซวออกมา
"สัดวิน มึงหุบปากไป"เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงของเขา มันเพราะเสียเหลือเกิน ทำให้ความอยากได้ที่มีต่อเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก
"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีว่าฉันชอบอะไรที่ดูมีความท้าทาย"
"วู้ววว!!!"เสียงโห่แซวของเพื่อนเขาดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ไฟจะลุกขึ้นเดินหนีออกมา เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้ที่สุด ไม่อยากเป็นจุดสนใจของใคร แต่ทว่าผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งตามเขามาจนถึงหลังตึกคณะที่ไร้ผู้คนพลุกพล่าน
"เดี๋ยวสิพี่"
"ตามฉันมาทำไม"
"พี่ก็รู้แล้วนิว่าเพราะอะไร"
ไฟหันหน้ามามองหญิงสาวที่ขยับเข้ามาหาเขาจนตัวแทบจะติดกับเขา"เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหน ถึงได้ประกาศให้คนอื่นรู้ว่าต้องการผู้ชาย ไม่อายตัวเองบ้างหรือไงว่ะ"
"ทำไมต้องอายด้วย ฉันต้องการก็พูดไปตรง ๆ จะโกหกเพื่ออะไร พี่เองก็เหมือนกัน ทำไมต้องทำหน้าเหมือนคนแบกโลกไว้ทั้งใบด้วยค่ะ"
"ฉันจะทำหน้าแบบไหน แล้วมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนไม่ทราบ"
“เกี่ยวสิคะ เกี่ยวมากด้วย”โบวี่แกล้งยกมือขึ้นลูบตรงแผงอกแกร่งของเขา น่าแปลกที่เขายืนเฉยให้เธอทำแบบนั้น โดยไม่ได้ขัดขืนเหมือนกับหน้าตาที่เฉยชาของเขา เป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เธออยากค้นหาเขามากขึ้น ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้เธอคลั่งโดยที่เขายังไม่ได้ทำอะไรกับเธอเลย หรือว่านี่คือวิธีการล่อลวงผู้หญิงของเขา เพราะตอนนี้มันทำให้ใจดวงน้อยของเธอสั่นรัวไปหมด
“รู้ไหมคะ? ว่าถ้าพี่ไม่ขัดขืน ฉันจะคิดไปไกลแล้วนะคะ”
เสียงอ่อนเสียงหวานของผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้สร้างความรำคาญให้กับเขาเหมือนที่เขาบอก แต่ตอนนี้มันกำลังทำให้เลือดลมในกายชายหนุ่มปั่นป่วนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงปากจะบอกไปว่าไม่ชอบผู้หญิงแบบเธอหรือแม้แต่ความคิดของเขาที่ไม่อยากเข้าใกล้เธอไปมากกว่านี้ แต่เมื่อมือเธอลูบไล้แผงอกของเขา ก็ทำให้อะไรบางอย่างในกางเกงกำลังเริ่มตื่นตัวขึ้นมา
แต่ทว่าเขาก็ต้องหลับตาข่มความรู้สึกเอาไว้ และใช้มือจับไหล่ของเธอแล้วผลักออกให้ห่างจากตัวเขาทันที“อย่ามายุ่งกับฉันอีก ถ้าเธออยากมาก มันคงพอมีผู้ชายที่เขาอยากได้ของฟรีแบบเธออยู่หรอก”
พูดจบร่างสูงก็เดินหนีไปทันที ทิ้งให้โบวี่ยืนกำมือเข้าหากันแน่น ด้วยความเจ็บใจที่เขาดูถูกเธอถึงขนาดนี้ แต่ใช่ว่าเธอจะหมดความพยายามเพียงแค่นี้ อยากน้อยวันนี้ก็มีบางอย่างคืบหน้าจากเดิม ก็คือเธอสัมผัสได้ว่าใจของเขาเต้นแรงผิดปกติ แต่ที่ทำปากเก่งเป็นด่าเธอเมื่อกี้ คงกำลังกลบเกลื่อนความรู้สึกต้องการของตัวเองอยู่
“ขอเบอร์เพื่อนพี่ได้ไหมคะ”โบวี่เดินกลับมาที่หน้าตึกวิศวะฯ ที่ยังมีกลุ่มเพื่อนของไฟนั่งอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่เห็นคนตัวสูงนั่งอยู่ด้วย เป็นโอกาสดีที่เธอจะขอช่องทางการติดต่อของเขาจากเพื่อนเขาซะเลย
“แล้วเพื่อนพี่ไปไหนซะล่ะครับ”หนึ่งในเพื่อนของเขาถามขึ้น แต่ก็รับโทรศัพท์ที่เธอส่งให้เอาไปถือไว้
“ไม่รู้สิคะ คงจะกลัวฉันล่ะมั้ง ถามจริงเถอะค่ะ เพื่อนพี่นี่ยังเวอร์จิ้นหรือเปล่าคะ”
“ฮ่า! ฮ่า! ถ้าอยากรู้น้องก็ต้องลองเองแล้วแหละ พี่พูดมากไม่ได้หรอก”เพื่อนเขากดเบอร์แล้วก็ส่งคืนโทรศัพท์มาให้เธอ แต่ที่เธออยากรู้คือเรื่องที่เพื่อนเขาหัวเราะคำถามของเธอมากกว่า มันดูเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในคำตอบนั้น
“พี่เขาเคยมีแฟนหรือเปล่าคะ”
“เบอร์พี่ก็ให้ไปแล้วนะ น้องไปโทรหามันเองก็แล้วกัน”
พี่คนนั้นตัดบทและไม่สนใจเธออีก ทำเหมือนกับไม่อยากพูดมากเรื่องของเพื่อนอย่างนั้นแหละ เธอเลยตัดใจไม่ถามอีก เดินออกมาจากตรงนั้น เป้าหมายคือลานจอดรถของคณะวิศวะฯ
และใช่เธอยอมเดินเป็นกิโลฯ เพื่อมาจอดรถคณะที่ห่างกับเธอขนาดนี้ แต่ทว่าลงทุนขนาดนี้แล้ว เธอก็ยังไม่มีวี่แววจะได้เห็นขาอ่อนของเขา ผู้ชายอะไรท่ามากเป็นบ้า กว่าจะได้กินเธอคงไม่ต้องถึงขั้นแก้ผ้าต่อหน้าเขาหรอกนะ
เดินหงุดหงิดมาจนถึงรถของตัวเองที่จอดอยู่ ก็เหมือนกับโลกใบนี้ก็ไม่ได้ใจร้ายกับเธอซะทีเดียว เมื่อเธอเหลือบไปเห็นชายหนุ่มที่เธออยากได้เขาที่สุด กำลังยืนพิงประตูรถคุยกับใครบางคนอยู่ แต่ทว่าเธอมองจากตรงนี้ ไม่เห็นคู่สนทนาของเขา
จะเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่านะ ถ้าเธอจะขยับเข้าไปใกล้กว่านี้ แต่ขาของเธอก็เร็วกว่าความคิดเสมอ เมื่อมันพาเธอเดินมาแอบอยู่หลังรถอีกคัน และได้ยินบทสนทนาอย่างชัดเจน
"กูนึกว่ามึงได้กินไปแล้วเสียอีก"
"หึ ก็ให้ท่ากูหนักอยู่ แต่มึงก็รู้กูไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้น"
"มึงพูดเหมือนรู้มานานแล้วว่าที่เธอเดินผ่านหน้าคณะทุกวันเพราะชอบมึงเหรอว่ะ"
ในบทสนทนานั้น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงเธออยู่ แต่น่าแปลกที่ไฟผู้ชายที่เธอชอบ ปกติดูเหมือนจะเป็นคนเงียบ ๆ แต่คำพูดของเขานั้น ก็ช่างบั่นทอนกำลังใจของเธอเหลือเกิน
"ไม่รู้สิแปลก"
"แม่ง!!! ฉลาดว่ะ กูเห็นนั่งเล่นโทรศัพท์ตลอด คิดว่าไม่สังเกตุเสียอีก"
"บอกตรง ๆ ไม่กล้าจิ้มว่ะ ใส่ถุงยางกูยังคิดหนักเลย"
กึก!!!
คำพูดที่เหมือนเสียดแทงเข้าตรงความรู้สึกของคนที่ได้ยิน ขาเรียวเล็กพยายามก้าวออกจากตรงนั้น แต่ทว่ามันรู้สึกเจ็บปวดทุกย่างก้าวที่เดิน ก่อนหน้าที่เธอคิดว่าเขาใจสั่นเพราะเธอ แสดงว่าเธอคิดไปเอง ต่อให้เธอเสนอตัวว่าต้องการเขาแค่ไหน ที่เขาไม่เอาก็เพราะเขารังเกียจเธอนี่เอง
โบวี่รีบเดินขึ้นไปนั่งในรถ แล้วฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยร้องไห้ออกมาทันที เธอผิดมากเหรอที่ต้องการเขา เธอไม่ได้คิดจะบังคับฝืนใจเขาเสียหน่อย ที่ผ่านมาเธอก็แค่วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เขา เพิ่งจะมีวันนี้ที่ได้พูดคุยกับเขา แต่ทว่าก็เป็นวันที่เธอรู้สึกเจ็บปวดมากเพราะคำพูดของเขา