ขอเวลาคิด

1462 Words
“คุณย่าครับผมไม่อยากทำตามพินัยกรรมเลย” ทินภัทรพูดกับคุณย่าอรุณีเมื่อทนายธีระและอาวศินขับรถออกจากบ้านไปแล้ว “ย่าก็ไม่เห็นด้วยกับพินัยกรรมนั้นเลยนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง” “คุณย่าว่ามันมีทางอื่นที่เราจะไม่ต้องทำตามพินัยกรรมไหม” “มันเป็นไปได้ยากคุณธีระเป็นทนายที่ตรงฉินมากๆ และท่านคงไม่ยอมแน่ๆ ถ้าหากทินจะไม่ทำตามพินัยกรรมที่คุณปู่เขียนไว้” “ครอบครัวของปู่อำนาจที่เขาเป็นใครเหรอครับคุณย่า” “ปู่อำนาจกับปู่สุทัศน์เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว ทางบ้านของปู่อำนาจเปิดร้านทองและค่อนข้างจะมีเงินช่วงนั้นปู่ของทินกำลังต้องการเงินทุนมาเปิดบริษัทก็ได้ปู่อำนาจนี่แหละที่ยื่นมือเข้ามาช่วยทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันตลอด” “เหรอครับ” “ใช้จ้ะ ปู่ของทินพูดกับย่าเสมอว่าถ้าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากเพื่อนรักในวันนั้นก็อาจจะไม่มีกิจการใหญ่โตเหมือนอย่างทุกวันนี้” “แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องให้ผมไปแต่งงานกับหลานสาวของเขา ผมอยากรู้จริงๆ ว่าทำไมปู่ถึงคิดจะทำแบบนี้” “ทานก็คงอยากจะตอบแทนบุญคุณฝั่งนั้น” “ถ้าคุณปู่อยากจะตอบแทนบุญคุณจริงๆ คุณปู่ก็ให้เงินเขาไปก็ได้นี่ครับ เงินทองคุณปู่มีตั้งเยอะแยะหรือจะให้ที่ดินเขาสักผืนก็ยังได้เลยแต่นี่อะไรให้ผมไปแต่งงานกับหลานสาวของเขา” ยิ่งพูดทินภัทรก็ยิ่งโมโห “แล้วทินจะเอายังไงล่ะลูกจะยอมทำตามพินัยกรรมไหม” “ผมมืดแปดด้านไปเลยครับคุณย่าไม่รู้ว่าจะหาทางเปลี่ยนพินัยกรรมได้หรือเปล่าตอนนี้ผมยังให้คำตอบอะไรคุณย่าไม่ได้ ผมขอคิดดูก่อนนะครับ” “ทินอย่าหาว่าย่าบังคับหลานเลยนะ ย่ารู้ว่าหลานลำบากใจกับเรื่องนี้มากๆ แต่สมบัติของคุณปู่ก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยถ้ามันไม่หนักหนาอะไรขึ้นก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไม่มีลูกกับเธอหรือก็ทำให้เธอหย่าหลังจากแต่งงานครบหนึ่งปี แต่ถ้าแต่งแล้วทินกับเธอรักและเข้าใจกันและอยากจะใช้ชีวิตด้วยกันย่าก็จะไม่ว่าอะไรเลย” คุณอรุณีพูดกับหลานชายด้วยเสียงอ่อนลง เธอเคยเจอกับหลานสาวของปู่อำนาจมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนและคิดว่าถ้าทินภัทรได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นเขาก็อาจจะยอมตกลงแต่งงานด้วยก็เป็นได้ “คุณย่าอยากให้ผมแต่งงานจริงๆ เหรอครับ” เขาถามทั้งที่เห็นท่าทางของท่านก็พอจะรู้คำตอบแล้ว “ถ้าถามความเห็นของย่า ย่าก็อยากให้ทินทำตามพินัยกรรมแต่ย่าจะไม่บังคับหรอก ย่าว่าวันมะรืนนี้ลองเชิญคุณอำนาจและกับครอบครัวของเขามาทานข้าวที่บ้านเรา ทินกลับบ้านเร็วหน่อยนะมาทานข้าวที่บ้านมาทำความรู้จักกันไว้ก่อน ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงย่าจะให้ทินเป็นคนตัดสินใจอีกที” “เอาแบบนั้นก็ได้ครับคุณย่า คุณย่าคิดว่าฝั่งนั้นเขาจะยอมแต่งงานกับผมไหม” “ย่าก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ถ้าหากเขาไม่ยอมแต่งปัญหาก็จะเกิดขึ้นแน่ๆ ผมว่าพินัยกรรมนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะ คุณปู่บอกให้ผมต้องแต่งงานกับหลานของปู่อำนาจแล้วถ้าเกิดหลานของปู่อำนาจไม่ยอมแต่งงานกับผมขึ้นมาผมไม่ต้องเสียมรดกของคุณปู่ไปฟรีๆ เหรอครับคุณย่า” “นั่นสินะย่าก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยเพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำให้ฝ่ายนั้นยอมแต่งงานกับทินด้วยนะ” “ยิ่งพูดผมยิ่งปวดหัวครับคุณย่า” “ย่าเองก็ปวดหัวมากๆ เหมือนกัน” “เย็นนี้ผมขอออกไปดื่มกับเพื่อนนะครับคุณย่า คิดว่าคงไม่กลับมานอนที่นี่” “ไม่มานอนที่นี่เราจะไปนอนที่ไหนล่ะคงไม่ไปนอนห้องผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม” “ใครเขาจะทำแบบนั้นครับย่า ผมจะไปนอนที่คอนโดนั่นแหละ ตอนเช้าตื่นไปทำงานจะได้ใกล้หน่อย” “ถ้าอย่างงั้นก็ตามใจขับรถก็ระวังด้วยนะ” “ครับคุณย่า” หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับคุณย่าอรุณีแล้วทินภัทรก็อาบน้ำแต่งตัวและโทรศัพท์นัดเพื่อนให้ไปเจอกันที่ผับซึ่งพวกเขาไปใช้บริการเป็นประจำ ชายหนุ่มไปถึงที่ผับเป็นคนแรกเขาเดินไปโซนวีไอพีชั้นสองจากนั้นก็นั่งดื่มรอเพื่อนอยู่ตามลำพัง ไม่นานนักเพื่อนของเขาอีกสองคนก็เดินขึ้นมา “เฮ้ย! ทำไมนั่งอยู่คนเดียวไม่ได้ไม่เรียกเด็กมานั่งด้วยล่ะ” ภูวเดชแปลกใจเพราะปกติเวลามานั่งดื่มเพื่อนจะเรียกเด็กของทางร้านมาคอยชงเครื่องดื่มให้เสมอ “ฉันมีเรื่องจะปรึกษาพวกนายสองคนน่ะ” เขาอยากถามความเห็นของเพื่อนว่าจะเอายังไงกับพินัยกรรม “เรื่องอะไรเรื่องพินัยกรรมใช่ไหมล่ะ” อรรณพซึ่งเป็นลูกชายของคุณธีระถามอย่างรู้ทัน “เออก็เรื่องนั้นแหละนายก็รู้ข้อความในพินัยกรรมด้วยใช่มั้ยล่ะ” “รู้สิ พ่อฉันเพิ่งบอกตอนที่กลับมาจากบ้านนายนั่นแหละว่าแต่นายจะเอายังไงต่อล่ะ” “เดี๋ยวก่อนนะ นี่จะคุยกันแค่สองคนใช่ไหมเล่าให้ฉันฟังก่อนสิว่ามันเรื่องอะไรแล้วพินัยกรรมของใคร” “ก็พินัยกรรมของปู่ไอ้ทินน่ะสิ” “นี่คุณปู่ยกสมบัติให้นายทั้งหมดเลยเหรอ” “ใช่ปู่รักฉันมากเลยว่ะ ท่านก็เลยยกสมบัติให้ฉันทั้งหมด” ทินภัทรพูดแล้วหัวเราะก่อนจะยกแก้วเหล้าข้างหน้าขึ้นดื่ม “ก็ดีแล้วนี่ได้สมบัติทั้งหมด แล้วทำไมหน้านายดูเครียดๆ ล่ะทิน” “ก็ในพินัยกรรมระบุไว้ไงว่าถ้าไอ้ทินถิ่นมันอยากได้สมบัติทั้งหมดมันก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณปู่หาไว้ให้และมีลูกกับลูกผู้ชายกับเธอ หรือถ้าไม่มีลูกด้วยกันก็จะต้องแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันห้าปีแล้วสมบัติทุกอย่างของคุณปู่ก็จะเป็นของไอ้ทิน แต่ถ้าไอ้ทินมันไม่ทำตามคุณปู่ท่านก็จะยกสมบัติทั้งหมดให้กับฝ่ายหญิง” “เฮ้ยอย่าไปยอมนะทินปู่นายสมบัติตั้งกี่พันล้านจะยกให้คนอื่นได้ยังไง” “ก็เพราะเหตุผลนี้ไงฉันถึงต้องเครียดและไม่รู้จะทำยังไง” “ไม่เห็นจะต้องคิดมากอะไรเลย นายก็รีบแต่งงานจากนั้นก็จัดการปั๊มลูกแค่นั้นเองพอลูกคลอดก็เลิกกับเธอซะมันง่ายมากเลยนะ” “ไอ้พูดน่ะมันพูดง่ายแต่มันทำยากนะสิ ตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่ฉันจะต้องแต่งงานด้วยหน้าตาเป็นยังไง” “นี่ไม่เคยเจอกันเลยเหรอ” “ไม่หรอกแต่อีกสองวันข้างหน้าคุณย่าจะนัดมาเจอ” “ฉันหวังว่าหน้าตาเธอคงสวยถูกใจนายนะทิน” ภูวเดชให้กำลังใจเพื่อน “ณพนายเคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ไหม” “ไม่เคยเห็นหรอกคุณพ่อบอกว่าเธอไปเรียนที่ต่างประเทศเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน” “เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกแบบนี้ฉันว่าไอ้ทินคงได้ของมือสองแล้ว เผลอๆ ฝั่งนั้นอาจจะย้อมแมวขายก็ได้” “เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอกภู สมัยนี้หาบริสุทธิ์ยากจะตาย แต่ที่สนใจก็คือเธอจะหน้าตาเป็นยังไงหุ่นเป็นแบบไหน ต่างหากล่ะถึงแม้จำเป็นจะต้องแต่งงานกันจริงๆ ก็ขอคนที่หน้าตาๆ หุ่นดีๆ หน่อยก็แล้วกัน” “หน้าตาดีแบบนั้นพอได้ไหมวะ” ภูวเดชพยักหน้าไปทางด้านล่างซึ่งตอนนี้ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามากับกลุ่มเพื่อนเธอดูเด่นสะดุดตากว่าทุกคน “โอ้โหถ้าได้แบบนั้นนะกูจะปั๊มลูกเช้าปั๊มลูกเย็นเอาให้ท้องตั้งแต่เดือนแรกกันเลยทีเดียว” ทินภัทรมองผู้หญิงที่เพื่อนบอกด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เธอคนนั้นหุ่นดีตรงใจเขามากผิวขาวขนาดมองไกลๆ ยังรู้สึกได้เลยว่ามันเนียนนุ่มน่าสัมผัส รูปร่างของเธอก็สูงโปร่งแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้หญิงตั้งมากมายเธอก็ยังโดดเด่นจนเขาละสายตาไม่ได้เลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD