ไม่รู้จะเลือกทางไหน

1337 Words
“แล้วนั่นนายจะไปไหนทิน” ภูวเดชถามเมื่อจู่ๆ ทินภัทรก็ลุกขึ้นและทำท่าเหมือนจะเดินลงไปชั้นล่าง “ก็จะไปทำความรู้จักกับเธอคนนั้นหน่อยไงล่ะ” “เฮ้ยนายกำลังจะแต่งงานนะ” อรรณพร้องห้าม “กำลังจะแต่งไม่ใช่แต่งตอนนี้สักหน่อย ก่อนจะแต่งงานก็อยากจะหาความสุขใส่ตัวบ้าง ผู้หญิงคนนั้นน่ะสเปกของฉันเลยนะ” “แค่ทำความรู้จักก่อนก็พอนะอย่าเพิ่งลากขึ้นเตียงล่ะ” ภูวเดชตะโกนไล่หลัง “เออน่าดูท่าทางแล้วเธอก็คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก คืนนี้ก็อาจจะทำความรู้จักกันก่อนแต่คืนต่อไปมันก็ไม่แน่นะ” เขาพูดก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่างซึ่งตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังนั่งดื่มอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ตามลำพัง “ขอผมนั่งด้วยคนนะครับ” “เชิญค่ะ” หญิงสาวหันมายิ้มอย่างเป็นมิตร “มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ” ชายหนุ่มแกล้งถามทั้งที่รู้แล้วว่าเธอมากับเพื่อนกลุ่มใหญ่แต่ตอนนี้เพื่อนของเธอกำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานอยู่กับฟลอร์ของร้าน “มากับเพื่อนค่ะ นั่นไงคะพวกเขากำลังเต้นกันอยู่เลย” “แล้วทำไมคุณไม่ไปเต้นกับเขาล่ะ” “ฉันไม่ถนัดเต้นเท่าไหร่คะ ถนัดนั่งดูมากกว่า คุณล่ะคะมาคนเดียวเหรอ” “ผมมากับเพื่อนครับพวกผมนั่งกันอยู่โซนวีไอพีชั้นสองคุณอยากขึ้นไปนั่งกับพวกเราไหมล่ะ” “ไม่ดีกว่าค่ะฉันมากับเพื่อน ถ้าฉันหายไปพวกเขาจะต้องสงสัยกันแน่ๆ” “คุณมาเที่ยวที่นี่บ่อยเหรอครับ” “ไม่หรอกค่ะ นานๆ ถึงจะรวมกลุ่มกันมาทีคุณคงมาเที่ยวบ่อยใช่มั้ย” “ก็ประมาณหนึ่งตามประสาผู้ชายนั่นแหละ จะเป็นไรไหมถ้าผมจะถามชื่อคุณ” “ฉันชื่อชัญญ่าค่ะ คุณล่ะ” “ผมชื่อทินครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณชัญญ่า” “เช่นกันค่ะ ถ้าฉันจะแทนชื่อตัวเองว่าชัญญ่าจะได้ไหมคะเพราะปกติก็เรียกแทนตัวเองกับเพื่อนๆ แบบนี้” “ไม่เลยผมว่าถ้าแทนตัวเองด้วยชื่อมันก็ดูเป็นกันเองดีนะ ผมอยากชวนคุณไปนั่งคุยกันที่อื่นเพราะที่นี่เสียงเพลงดังมากสะดวกไหม” ทินภัทรรู้สึกถูกชะตาและอยากจะทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้นเพราะรู้สึกว่าเธอคุยเป็นธรรมาชาติมาก “คืนนี้ชัญญ่าคงไม่สะดวกเท่าไหร่ค่ะ ชัญญ่ามากับเพื่อนก็คงต้องกลับพร้อมกับเพื่อนๆ ค่ะ” “คุณพูดว่าคืนนี้มากับเพื่อนที่งั้นก็หมายความว่าถ้าเป็นคืนอื่นที่ไม่ได้มากับเพื่อนคุณก็สะดวกที่จะออกไปฟังเพลงกับผมใช่มั้ย” “ก็ต้องดูก่อนค่ะว่าตอนที่คุณชวนชัญญ่าว่างหรือเปล่า” “ขอโทษนะครับคุณชัญญ่าทำงานอะไรผมขอถามได้ไหม” “ชัญญ่าช่วยกิจการของครอบครัวค่ะ เป็นธุรกิจเล็กๆ แล้วคุณทินล่ะคะ” “ผมก็ทำกิจการของครอบครัวเหมือนกันครับทำพวกอสังหา” “อสังหาเหรอคะ มีพวกคอนโดแนะนำบ้างไหม ชัญญ่าสนใจอยากจะซื้อคอนโดค่ะแต่ก็ไม่รู้จักใครที่นี่ เพื่อนๆ ก็ไม่ใครทำงานทางด้านนี้ คุณทินพอจะมีคอนโดดีๆ แนะนำหน่อยไหมคะ” “มีครับ แต่คุยกันในนี้คงไม่สะดวกเอาเป็นว่าเรานัดคุยกันข้างนอกดีมั้ย” “ได้ค่ะ แต่ช่วงกลางวันชัญญ่าไม่สะดวกนะคะเพราะต้องทำงานค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นเป็นช่วงเย็นดีไหมผมก็เลิกงานพอดีเราจะได้มีเวลาคุยกันแบบไม่เร่งรีบ” “ก็ดีนะคะ แล้วคุณจะนัดไปเจอที่ไหนคะ” “เป็นร้านอาหารดีไหม จะได้ทานอาหารเย็นด้วยกัน ชัญญ่าอยากไปทานร้านไหนล่ะ” “ชัญญ่าไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารเลยค่ะ ชัญญ่าเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นานถ้ายังไงรบกวนคุณทินร้านแนะนำอาหารไทยอร่อยๆ แล้วเรานั่งคุยกันเรื่องคอนโดดีไหม” “ตกลงตามนั้นครับแล้วผมจะติดต่อคุณได้ยังไงล่ะ” “แอดไลน์สิคะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาจากนั้นทั้งสองก็แอดไลน์กันก่อนที่เธอจะขอตัวไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อส่วนทินภัทรก็กลับขึ้นไปหาเพื่อนที่อยู่ด้านบน “ทำไมกลับขึ้นมาล่ะ ปกติคุณทินภัทรสุดหล่อเวลาไปคุยกับผู้หญิงก็จะพากันออกไปต่อที่อื่นไม่ใช่เหรอ” “ก็อยากพาไปนะภู แต่เธอบอกว่ามากับเพื่อนก็เลยนัดเจอกันวันอื่นนะ” “นี่จะจริงจังเลยเหรอทิน” อรรณพถามเพราะรู้ว่าอีกไม่นานชายหนุ่มก็ต้องแต่งงานตามพินัยกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สมบัติมากมายขนาดนั้นถ้าหากเป็นตัวเขาก็คงต้องยอมทำตามพินัยกรรมไปก่อน “ก็อยากจะจริงจังนะ ฉันได้คุยกับเธอแค่แป๊บเดียวก็รู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่คุยสนุกเปิดเผยดีแล้วก็เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศด้วย” “นายจะจริงจังกับใครไม่ได้นะทินอย่าลืมว่านายจะต้องแต่งงานกับหลานของคุณอำนาจ” “รู้แล้วการแต่งงานมันคือหน้าที่แต่คนเรามันก็ต้องหาความสุขใส่ตัวบ้างไม่ใช่เหรอ” “นี่นายคิดจะมีเมียน้อยตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานเลยเหรอวะ” “ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกนะภูแต่พอนายพูดขึ้นมาฉันก็คิดว่า ถ้าฉันแอบคบเธออย่าเงียบๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะผู้หญิงคนนั้นก็คงจะแต่งงานไปตามหน้าที่เหมือนกัน” “ฉันละสงสารผู้หญิงที่จะแต่งงานกับนายจริงๆ ขนาดยังไม่แต่งงานนายยังมอบตำแหน่งเมียหลวงไว้ให้เธอแล้ว” “ก็ในพินัยกรรมไม่ได้ระบุไว้นี่ว่าห้ามฉันมีคนอื่น ฉันจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ได้” “แต่ถ้านายมัวแต่เอากระสุนจริงไปยิงเป้าปลอมแล้วเมื่อไหร่นายจะมีลูก อย่าลืมนะทินว่าถ้าไม่มีลูกต้องแต่งงานกับหลานของคุณอำนาจนานถึงห้าปี” “ไม่ลืมหรอกน่า ฉันก็แค่อยากหาความสุขให้กับตัวเองบ้างแต่ถ้าเธอทนไม่ไหวขอหย่าก็น่าจะดีนะ” “แล้วนายจะเลือกวิธีไหนเพื่อรับมรดกล่ะ” “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันถ้าเลือกวิธีมีลูกกับผู้หญิงคนนั้นระยะเวลาก็คงไม่นานแต่จะเลือกแต่ถ้าจะให้รอถึงห้าปีฉันก็คงทรมานมากๆ แน่เลย ฉันว่าทางที่ดีที่สุดคือทำให้เธอขอหย่า” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้คิ้วของทินภัทรก็ขมวดเข้าหากันชายหนุ่มยังหาทางออกกับตัวเองไม่ได้เลยว่าจะเลือกของทางไหนแต่ทางที่เขาคิดว่าน่าสนใจที่สุดก็คือทำนิสัยแย่ๆ เพื่อให้เธอขอหย่า “ถ้าคิดไม่ออกว่าจะเลือกวิธีไหนก็ลงไปปรึกษาหลวงพ่อดูสิ” ภูวเดชแนะนำให้ชายหนุ่มไปปรึกษาบิดาของเขาซึ่งตอนนี้บวชเป็นพระอยู่ที่วัดในต่างจังหวัด “ฉันไม่อยากเอาเรื่องเครียดไปรบกวนหลวงพ่อหรอก หลวงพ่อท่านตัดจากทางโลกไปนานแล้ว” “นั่นสินะฉันก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย แต่ไม่ว่านายจะตัดสินใจเลือกทางไหนก็ขอให้เป็นทางที่นายมีความสุขก็แล้วกันนะ” “ฉันจะมีความสุขได้ยังไงวะในเมื่อฉันถูกบังคับแต่งงาน” “เอาน่าอย่างน้อยมันก็มีความสุขนิดหนึ่งหนทางข้างหน้ามันคือสมบัติของคุณปู่นะคิดไว้แบบนี้สิจะได้สบายใจขึ้น” “ฉันจะพยายามคิดแบบนี้ก็แล้วกันนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD