ทินภัทรออกจากผับก็ขับรถตรงมายังคอนโดมิเนียมของเขาซึ่งที่นี่เป็นเสมือนเซฟโซนเพราะมันเป็นที่ส่วนตัวชายหนุ่มไม่เคยพาใครมาที่นี่เลย ทุกครั้งที่รู้สึกเครียดหรืออยากอยู่คนเดียวเงียบๆ เขาก็จะเลือกมานอนพักที่นี่
อันที่จริงแล้วทินภัทรก็อยากจะใช้ชีวิตอิสระเหมือนกับคนอื่นๆ แต่เขาก็ต้องดูแลคุณย่าแทนบิดาซึ่งไปท่านไปบวชได้หลายพรรษาแล้ว การจะทิ้งให้คนอายุเจ็ดสิบกว่าปีอยู่บ้านกับเด็กรับใช้ตามลำพังนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเลย ถึงแม้ว่าอยากจะอยู่ตัวคนเดียวแค่ไหนแต่เมื่อนึกถึงตรงนี้ทินภัทรก็ไม่สามารถทำได้
คุณปู่ของเขาเสียชีวิตไปเมื่อหนึ่งปีก่อนอีกและเมื่อวานเป็นวันที่เปิดพินัยกรรม ทินภัทรไม่คิดเลยว่าพินัยกรรมของคุณปู่จะออกมาในลักษณะนั้น ก่อนหน้าที่คุณปู่จะเสียชีวิตท่านก็เคยคุยกับเขาอยู่ว่าอยากให้เขาแต่งงานมีครอบครัวแต่ชายหนุ่มก็พยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอด
เขาอยากใช้ชีวิตอิสระแบบนี้ไปก่อนและยังไม่เคยมองถึงเรื่องการแต่งงานแต่ตอนนี้ก็คงจะบิดพลิ้วหรือปฏิเสธสิ่งที่คุณปู่สั่งไว้ในพินัยกรรมไม่ได้ แต่เขาก็มองในแง่ดีว่าถ้าหากแต่งงานแล้วอาจจะมีชีวิตที่อิสระมากขึ้นก็ได้ถ้าหากจะให้ผู้หญิงที่แต่งงานด้วยคอยดูแลคุณย่าอยู่ที่บ้านส่วนตัวเขาก็ย้ายออกมาอยู่ที่คอนโด
การทำแบบนั้นอาจจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเบื่อและขอแยกทางกับเขาก็ได้และถึงตอนนั้นคนที่ได้ประโยชน์ก็คือตัวเขาเอง สมบัติทั้งหมดที่คุณปู่ของเขา พ่อของเขารวมถึงตัวเขาช่วยกันหามามันก็จะไม่ต้องไปเป็นของคนอื่น ส่วนเรื่องการจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นท้อง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทางหนึ่งการนอนกับผู้หญิงโดยไม่ป้องกันก็คงจะท้องได้ไม่ยาก
ทินภัทรนอนคิดเรื่องนี้อยู่นานกว่าจะหลับและตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าของวันใหม่
ชายหนุ่มไปทำงานเหมือนปกติทุกวันจนกระทั่งเวลาบ่ายก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองนัดกับชัญญ่า เขาให้เลขาหาร้านอาหารไทยที่อยู่ใกล้คอนโดจากนั้นก็ส่งจะไลน์ไปบอกหญิงสาว
คอนโดมิเนียมที่เขาจะแนะนำให้นั้นเป็นคอนโดมิเนียมใน โครงการที่บริษัทของเขาเป็นเจ้าของอยู่ ห้องถูกขายออกไปหมดทุกยูนิตแล้วแต่ที่แนะนำก็เพราะเขาเองเป็นเจ้าของอยู่สามยูนิต ถ้าหากเธอสนใจจริงๆ เขาก็อาจจะแบ่งขายให้แต่นั่นก็ต้องดูท่าทางของเธอก่อนว่าสนใจอยากจะดูคอนโดจริงๆ หรือสนใจในตัวเขากันแน่
ชายหนุ่มไม่ชอบผู้หญิงที่เข้าหาผู้ชายเพื่อหวังผลประโยชน์เพราะที่ผ่านมาเขาเจอผู้หญิงแบบนี้มามากและส่วนใหญ่ก็คุยกับเขาได้ไม่นานพอเขารู้ทันเขาก็จบความสัมพันธ์
เมื่อถึงเวลานัดทินภัทรก็ขับรถมารอหญิงสาวที่ร้านอาหารก่อนเวลาเล็กน้อย เขาสั่งอาหารรอหญิงสาวเพราะเธอบอกให้เขาสั่งไว้รอ
พอถึงเวลานัดชัญญ่าก็เดินเข้ามาที่หน้าประตู เมื่อชายหนุ่มโบกมือให้หญิงสาวก็ยิ้มก่อนจะเดินตรงเข้ามา
“สวัสดีค่ะคุณทินรอนานไหมคะ”
“ไม่เลยครับคุณมาตรงเวลามาก”
“แต่ก็ยังช้ากว่าคุณนะคะ”
“ผมกลัวรถติดก็เลยออกจากที่ทำงานเร็วกว่าปกติน่ะ”
“ชัญญ่าเกรงใจจังที่คุณต้องมารอ”
“ผมมาก่อนเวลาเองนี่ครับ คุณก็มาตรงเวลา”
“การมาตรงเวลามันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอคะ แต่ทำไมคุณทินดูแปลกใจจัง”
“ก็ปกติแล้วเวลาผมนัดกับผู้หญิงคนไหนพวกเธอจะมาช้าอย่างน้อยก็สิบนาทีเป็นอย่างต่ำ ผมก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันนะว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น”
“แต่ชัญญ่าพอจะรู้ค่ะ”
“เพราะอะไรเหรอครับ”
“ก็เพราะเขาอยากให้คุณรอแล้วเขาจะดูสำคัญมากๆ ถ้าหากมาช้านิดหน่อย คุณก็จะมองเวลาที่เธอเดินสวยๆ เข้ามา”
“แล้วทำไมคุณถึงมาตรงเวลาล่ะ”
“ชัญญ่าไม่เห็นประโยชน์ในการจะทำแบบนั้นค่ะ เวลานัดใครก็อยากจะไปให้ตรงเวลาที่สุด เพราะเราไม่รู้เลยว่าเขานัดกับเราแล้วเขามีธุระจะต้องไปทำอย่างอื่นอีกหรือเปล่า ชัญญ่าไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่มัธยมปลายค่ะก็เลยติดนิสัยของคนที่นั่นมา”
“ผมว่ามันเป็นนิสัยที่ดีเลยนะ หิวไหมผมสั่งอาหารไว้รอแล้วนะ ไม่รู้คุณจะชอบหรือเปล่าแต่ผมถามทางร้านแล้วว่าอาหารเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่”
“ไม่มีปัญหาหรอกค่ะขอให้เป็นอาหารไทยชัญญ่ากินได้หมดนั่นแหละ”
“ถ้างั้นเรากินข้าวกันก่อนดีไหมแล้วค่อยคุยเรื่องธุระ”
“ได้ค่ะ”
ทินภัทรพยักหน้าพนักงานก็ทยอยเอาอาหารมาเสิร์ฟ
“น่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ”
ระหว่างรับประทานอาหารทินณภัทรก็แอบมองหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง เขารู้สึกสนใจในความเป็นธรรมชาติของผู้หญิงคนนี้มาก เธอทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยไม่เหมือนกับหลายๆ คนที่เข้านัดเจอ แม้จะเพิ่งจะนัดออกมาเจอกันครั้งแรกแต่เธอก็รับประทานอาหารจริงๆ ไม่ใช่ทานกับเขาแค่พอเป็นพิธีแล้วก็บอกว่าอิ่ม เมื่อทานอาหารคาวอิ่มแล้วหญิงสาวก็สั่งไอศกรีมกะทิสดมาทานอีกหนึ่งถ้วยเล็กจากนั้นก็เริ่มคุยเรื่องคอนโด
“ผมขอถามแบบตรงไปตรงมาเลยนะชัญญ่า”
“ได้ค่ะ คุณทินถามชัญญ่ามาได้เลย”
“ราคาคอนโดคุณกำหนดไว้ไหมว่าอยู่ประมาณเท่าไหร่”
“ชัญญ่ายังไม่รู้ว่าราคาคอนโดที่นี่มันเริ่มต้นเท่าไหร่แต่ชัญญ่ามีงบไม่เกินสิบห้าล้านบวกลบได้นิดหน่อยค่ะ”
“ถ้าราคาขนาดนั้นคุณซื้อบ้านเดี่ยวได้เลยนะ”
“บ้านเดี่ยวราคานี้น่าจะไม่ได้อยู่ในเมืองใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ”
“คือชัญญ่าอยากได้คอนโดที่อยู่ในเมืองติดกับรถไฟฟ้าก็ยิ่งดีค่ะ เพราะชัญญ่าไม่ค่อยถนัดขับรถในเมืองเท่าไหร่”
“ถ้าเป็นคอนโดนั่นล่ะครับ” ชายหนุ่มชี้ไปยังถนนฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่เขาอาศัยอยู่
“ก็ดีเลยสิคะ อยู่ใจกลางเมืองการเดินทางน่าจะสะดวกมากเลยค่ะ”
“แล้วตอนนี้ชัญญ่าพักอยู่ที่ไหน”
“ชัญญ่าพักอยู่กับครอบครัวค่ะ แต่ตอนนี้อยากจะย้ายมาอยู่แบบเป็นส่วนตัวเพราะที่บ้านของชัญญ่าอยู่กันหลายคนค่ะ มีพี่ชายสองคน พี่สะใภ้สองคนหลานอีกสองคนแล้วยังมีพ่อแม่ คุณปู่คุณย่าแล้วก็น้องชายอีกหนึ่งคนค่ะ ชัญญ่าไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยค่ะ”
“ฟังดูเหมือคุณจะเป็นลูกสาวคนเดียวในบ้าน แล้วคุณพ่อคุณแม่ของคุณจะยอมให้คุณย้ายออกมาอยู่คนเดียวตามลำพังเหรอครับ”
“ชัญญ่าคิดว่าท่านต้องยอมค่ะ”
“ทำไมคุณดูมั่นใจจังล่ะครับ”
“ชัญญ่าคิดว่าจะยื่นข้อเสนอค่ะ ถ้าพ่อกับแม่ไม่ยอมชัญญ่าก็จะกลับไปทำงานที่อังกฤษ”
“ผมว่าเหตุผลนี้พ่อกับแม่ของคุณต้องยอมแน่ๆ”
“แน่นอนค่ะชัญญ่ามั่นใจ” เมื่อนึกถึงการออกมาใช้ชีวิตอิสระแล้วหญิงสาวก็ยิ้ม