ตอนที่ 4 อย่าเผลอไปสบตา
เสียงสนทนาของคนทั้งโต๊ะเริ่มสนุกสนานมากขึ้น ยิ่งดึกก็ยิ่งครึกครื้นทั้งเสียงดนตรีและเสียงพูดคุยของคนในร้าน คนที่ดื่มบ่อยก็ยังมีสติกันดี แต่กับคนที่นานทีปีหนอย่างซินตอนนี้เริ่มจะนั่งตัวตรงไม่ได้แล้ว
เวลาร่วมสามชั่วโมงเธอก็ได้คุยกับคนทั้งโต๊ะให้พอสนิทกันได้บ้าง ยกเว้นคนที่นั่งตัวติดกันอยู่นี้ที่ไม่คุยอะไรกันเลยเพราะเขาเอาแต่เทเหล้าให้เธออย่างเดียว พูดเป็นแต่คำว่า ดื่ม ชน กับหัวเราะในลำคอ
“พะ พอ แล้ว” ซินโบกมือให้พันไมล์เพราะเขากำลังจะเทให้เธออีกแล้ว อันที่จริงเขาก็เทให้ทุกคนแต่พวกนั้นไม่เห็นเมากันสักคน ก็อย่างว่าละ เด็กพวกนี้ดื่มกันบ่อยจะตาย ยิ่งเด็กวิศวกรรมศาสตร์เธอสู้ไม่ได้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
“เมาแล้ว ?” เจ้าของใบหน้าอันหล่อเหลาหันไปมองคนที่นั่งข้างกันพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นคำถาม สีหน้ายียวนแบบนั้นทำเอาซินถึงกับไม่อยากสบตา ต้องเบือนหน้าหนี
“อืม” ซินครางตอบเบา ๆ ในลำคอ
“ไม่ได้ดื่มบ่อยเหมือนพวกนายนี่”
“หึ อ่อน”
หญิงสาวหันหน้าไปมองเขาอีกครั้ง พันไมล์ยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด เหมือนอยากจะโชว์ให้เธอดูว่าเขามันโคตรเท่ แต่ก็ยอมรับว่าแม้แต่ท่ายกแก้วขึ้นดื่มแบบนั้นมันดูดีจริง ๆ ตอนที่ของเหลวนั้นผ่านช่วงลำคอ พื้นที่ตรงนั้นมันขยับเล็กน้อย ก็ทำเอาเธอมองตาค้างได้
เซ็กซี่เหลือเกิน...
ยัยซินคงเมาจนเสียสติไปแล้ว
“มะนาว ปวดฉี่”
“ไปเองได้ไหม หรือให้ไปส่ง”
“ไปเองได้ ฝากกระเป๋าหน่อย” ซินบอกเพื่อนแล้ววางกระเป๋าตัวเองไว้บนโต๊ะ เวลานี้เธอรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้งจนไม่อยากพกอะไรติดตัวเลยสักอย่าง
“ไหวแน่นะ”
“ไหว” ซินบอกเพื่อนแล้วขยับตัวลุกขึ้น ทว่าจังหวะที่ลุกขึ้นยืนก็เหมือนโลกมันหมุนเร็วหรือไม่ก็แผ่นดินไหว เจ้าของเรือนร่างบอบบางในชุดเดรสสายเดี๋ยวสีครีมถึงกับเซจนเกือบล้ม โชคดีที่มีคนรับไว้ทัน
แต่จะเป็นใครไปได้…
ซินลมหายใจขาดช่วง ก็เธอดันเซไปทางผู้ชายไม่ใช่เพื่อน พอจะดันมือออกก็คงไม่ทันแล้ว เพราะอีกฝ่ายก็ตกใจรวบเอวเธอไว้เหมือนกัน ซึ่งภาพนั้นกำลังตกอยู่สายตาของคนทั้งโต๊ะ !
“เอาแล้ว~”
“ตายละเพื่อนกู” มะนาวอุทานออกมาแต่ก็ไม่คิดจะช่วยดึงเพื่อนออกจากอ้อมแขนของรุ่นน้องเพราะเห็นว่าปลอดภัย
“ไหวแน่นะ” คำพูดที่ออกจากปากของพันไมล์เรียกสติของซินมาได้เพียงนิด เธอพยักหน้าแล้วดันตัวขึ้น
“อืม” หญิงสาวตอบไปแบบนั้น เพราะความเมาทำให้เธอลืมเอ่ยคำขอบคุณอีกฝ่ายไป
รู้ตัวอีกทีก็เดินมาหยุดหน้าห้องน้ำที่คนยืนต่อคิวกันยาวเหยียด ยิ่งดึกสถานที่ตรงนี้คนก็ยิ่งมากขึ้นทุกที แถมความวุ่นวายก็มีมากขึ้นด้วยเพราะคนส่วนมากเมามายกันไม่เว้นแม้แต่เธอ
ซินยืนรอจนฉี่แทบราด กว่าจะได้เข้าไปทำธุระของตัวเองก็เกือบยี่สิบนาที พอออกมาเธอก็เลือกที่จะยืนมองบรรยากาศอยู่ด้านนอกเพราะยังไม่พร้อมจะเข้าไปสู้ต่อ เด็กวิศวะพวกนั้นดื่มเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า เธอไม่ตายก็ดีเท่าไรแล้ว
“ไง”
เสียงทักทายของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ซินที่นั่งพักอยู่กับรั้วเตี้ยของร้านหันไปมอง คิดว่าจะเจอคนรู้จักแต่กลับกลายเป็นคนที่เพิ่งรู้จัก
“ว่าไง” เธอทำตัวไม่ถูก จึงส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้เขา
ไม่ใช่ใครแต่เป็นพันไมล์ ในมือเขามีบุหรี่ที่เหลือเพียงครึ่งมวน หนุ่มรุ่นน้องพ่นควันสีขาวขุ่นลอยฟุ้งออกมาทั้งจมูกและปาก สายตาจับจ้องมาที่เธอกับรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์
เขาแบดบอยเกินไปในสายตาเธอ
“เมาแล้วเหรอ”
“อืม ปกติไม่ได้ดื่มหนักขนาดนี้” ถ้าไม่นับตอนที่ยังเรียนอยู่ หลังเรียนจบเธอก็ดื่มแค่นานครั้ง พอเสียคนรักไปเธอก็ไม่แตะมันเลย
“หึ”
หญิงสาวลอบมองเขากับเสียงหัวเราะที่ดังออกมา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เธอเริ่มสงสัยว่าทำไมเขาถึงชอบหัวเราะใส่เธอแบบนั้น
“หัวเราะอะไร”
“เปล่า”
พันไมล์เป็นผู้ชายที่ดูดีมาก เรื่องนี้เธอยอมรับแบบไม่มีข้อแม้ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นจนใครต่อใครต้องเหลียวมอง ขนาดนั่งคุยกันอยู่ตรงนี้เธอยังเห็นผู้หญิงหลายคนมองเขาทุกราย ก็ไม่แปลกที่เขาจะใช้ชีวิตพัวพันกับเรื่องผู้หญิงจนใครต่อใครต่างนินทา
“ไม่เข้าไปล่ะ เพื่อนกำลังสนุกเลย” หญิงสาวว่าแล้วขยับตัวนั่งให้อยู่ในท่าที่ปลอดภัยเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจะล้มทุกที เมื่อมือข้างหนึ่งที่จับราวรั้วไม่ให้ล้ม ตอนนี้ต้องมาปิดจมูกแทนเพราะเหม็นกลิ่นควันบุหรี่
“เบื่อเสียงดัง” เขาว่าอย่างนั้นแล้วโยนบุหรี่ในมือทิ้ง ไม่ลืมใช้เท้าขยี้มันจนแบนบี้
“นึกว่าชอบเที่ยวกันแบบนี้อยู่แล้ว” ซินหัวเราะเบา ๆ
“เมื่อก่อนฉันก็เที่ยวบ่อยตอนเรียนไม่เคยพักเลย”
เธอยิ้มจนตาหยี คิดถึงวันเก่า ๆ สมัยเรียน มันสนุกมากจนอยากย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง อยากย้อนไปตอนที่ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้
“บ่อยไปมันก็เบื่อ ตื่นมาก็แฮงค์ เกลียดอาการแบบนั้นจะตาย เย็นมาเพื่อนก็ชวนถอน ไม่จบไม่สิ้น”
“นั่นสิ แบบนั้นเลย” ซินยิ้มและหัวเราะออกมากับคำพูดของเขาอย่างลืมตัว บวกกับความเมาเธอก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย จะว่าไปแล้วพอเมามันก็รู้สึกดีเหมือนกัน รู้สึกสบายตัวล่องลอยอย่างบอกไม่ถูก
ภาพรอยยิ้มนั้นถูกใครอีกคนจับจ้อง นั่งข้างกันมาหลายชั่วโมงเขาก็เพิ่งเห็นสาวรุ่นพี่คนนี้ยิ้ม พอยิ้มแล้วก็สวยเป็นบ้า ความคิดพวกนั้นของไอ้เสือร้ายอย่างเขามันก็ดันแล่นเร็วเสียด้วย ผู้ชายแบบเขามันจะคิดอยู่กี่เรื่องกัน
ผิวก็ขาวแบบนั้น ยังมาใส่ชุดโชว์เนื้อหนัง หน้าอกก็ดูน่า...
โอเค ยอมรับว่าไอ้พันไมล์มันคิดเรื่องเหี้ย ๆ ไปแล้ว แต่มันก็แล้วแต่ผู้หญิง เขาก็แค่อ่อย ถ้าหญิงตอบรับเขาก็พร้อมรุก
ซินเผลอไปสบตากับอีกฝ่ายทั้งที่ยังยิ้ม เขาจ้องเธอนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง พลันหญิงสาวก็รู้สึกประหลาดที่ช่วงท้อง สายตาของเขาที่มองมา มันสื่ออะไรบางอย่างที่เธอเองก็อ่านความหมายมันไม่ออก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือซินกลับสบตาสู้เขาโดยไม่รู้เหตุผลว่าทำไม
ราวกับโดนดึงดูด ไม่ให้เหลวไหลไปมองอย่างอื่น เพียงแค่เขามองมาก็เหมือนเธอกำลังถูกสะกดจิต ดวงตาคมคู่นั้นทำเธอสติหลุดไปหมดแล้ว
“เพื่อนบอกให้มาตาม ไปดื่มต่อ จะไปได้ยัง”
“อื้ม ไปสิ” ซินพยักหน้าก่อนจะสะบัดหน้าเรียกสติ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ามันไปวิ่งเล่นอยู่ที่ไหนของตัวเองให้กลับคืนมา
แต่เมาก็ดีเหมือนกัน รู้สึกดีไปอีกแบบ อย่างน้อยก็ยังยิ้มออก หัวเราะออกมาได้บ้าง
เมื่อกลับมาถึงโต๊ะก็ต้องดื่มต่ออย่างไม่มีข้อแม้ เพื่อนตัวดีของเธอก็เหมือนอยากจะมอมให้เธอตายไปคืนนี้เลย
“หมดแก้วค่ะคนสวยของมะนาว”
ซินยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดตามคำสั่งเพื่อนสนิทเหมือนผียัยซินใน
อดีตเข้าสิง
“โอ๊ย พี่ซิน นึกว่าจะยอมแพ้ตั้งแต่เมื่อกี้” มาย แฟนสาวของเต๋ามองสาวรุ่นพี่ด้วยรอยยิ้มขบขัน
“ยอมไม่ได้ เมื่อกี้พักยกค่ะน้องมาย” ซินเอียงหน้าไปตอบสาวรุ่นน้องด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มของซินก็เรียกความกระชุ่มกระชวยให้ใจชายหลายคนบริเวณนั้น ไม่เว้นแม้แต่คนที่นั่งข้างกัน
ซินเผลอสบตากับเขาอีกแล้ว เธอรู้แล้วว่าเด็กรุ่นน้องมองแบบนี้เพราะเขารู้สึกแบบไหน มันจะเป็นอะไรไปได้ถ้าไม่ใช่สนใจในตัวเธอ ก็เขามันเป็นเสือแบบที่เพื่อนว่า
แล้วทำไมถึงสบตาสู้เขาแบบนี้ เธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน มันคงหนีไม่พ้นเพราะความเมา
“มองอะไร” ซินถามคนที่มองเธอไม่ละสายตา เพราะนั่งข้างกันจนผิวกายบางส่วนสัมผัสกันแบบนี้ ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่อารมณ์พาไป
“มองไม่ได้ไง” พันไมล์ถามพร้อมกับยิ้มมุมปาก ท่าทางเมามายของอีกฝ่ายดูแล้วก็น่ารักดี จนอดไม่ได้ที่จะมอง ยิ่งดึกก็ยิ่งยิ้มหวาน
เหลือก็แค่ลุ้นว่าคนมีอดีตแสนเศร้าที่ว่า จะตกหลุมที่เสืออย่างเขาขุดไว้ได้ไหม