ตอนที่ 5 สัมผัสในที่ลับสายตา

1907 Words
ตอนที่ 5 สัมผัสในที่ลับสายตา “ไม่ให้มอง” ซินตอกกลับพร้อมกับส่งสายตาเอาเรื่อง ทว่ารอยยิ้มที่ติดอยู่บนริมฝีปากอวบอิ่มยังถูกดวงตาคมจับจ้องอยู่ เขาอยากจะลองลิ้มรสมันดูสักครั้ง “หึ” “ห้ามหัวเราะแบบนั้นด้วยไม่ชอบ” เธอสั่งห้ามเพราะไม่ชอบไอ้เสียงหัวเราะในลำคอแบบนั้น มันดูไม่น่ารักเอาเสียเลย “เรื่องมาก” เขาเอียงหน้ามากระซิบที่ข้างหูเธอ คนตัวเล็กตกใจจนต้องหันมอง ทว่าจังหวะที่หันไป ริมฝีปากที่อยู่ใกล้กันนั้นก็แตะสัมผัสเข้าที่แก้มซ้ายของเธอ ความรู้สึกหนึ่งแล่นวาบทั่วร่างกาย กลิ่นหอมจากตัวเขาก็ยิ่งโชยเข้ามาในจมูกชวนให้ใจเตลิด ปลุกให้อารมณ์บางอย่างมันพุ่งกระจายอยู่เต็มอก ซินกระแอมไอเบา ๆ ถึงจะเมาแต่เธอก็ยังรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นี่ใช่ไหม ฉายาเสือร้ายที่ใครหลายคนให้เขามา “มะ ไม่ได้เรื่องมาก” เวลานี้คนในโต๊ะคงไม่ได้สนใจใครมากนัก เลยไม่มีใครรู้ว่ามีใครบางคนเอื้อมมือมาสัมผัสและจับมือเธอเอาไว้ ความเย็นเฉียบจากมือเขา ทว่าพอจับสัมผัสกับมือเล็กของซินกลับให้ความรู้สึกอุ่นซ่านเข้ามาในใจ แล้วที่แย่ไปกว่านั้น เธอกลับไม่ปฏิเสธสัมผัสของเขาทั้งที่ควรจะทำมัน “ยัยซิน ชน !” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับมา ทว่าเขาไม่ยอมปล่อย เธอไม่กล้าหันไปสบตาเขา ความกลัว ความกังวลถาโถมเข้ามาในใจ แต่อีกความรู้สึกหนึ่งก็เข้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกเหล่านั้นอย่างไม่ยอมแพ้ ซินยกแก้วด้วยมือที่ว่างอยู่ขึ้นมาดื่มมันจนพร่องไปเกือบครึ่ง สมองคล้ายมีสิ่งรบกวน ไหนจะเสียงดนตรี เสียงพูดคุยกันเสียงดังทำเอาหัวเธอมึนงงไปหมดแล้ว “ซิน พี่บอลจะชวนไปต่อ ไปด้วยกันนะ” มะนาวหันมากระซิบบอกเพื่อน พลันสายตาสอดรู้ของมะนาวก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้า ความคิดเจ้าเล่ห์ที่อยากให้เพื่อนหลุดพ้นจากอดีตที่แสนเศร้าก็ยุยงส่งเสริมเหลือเกิน คืนนี้เธอจะส่งเพื่อนไปขึ้นสวรรค์ อกหักจากคนหล่อก็ดีกว่าคิดถึงคนรักที่จากไปไม่มีวันกลับละวะเพื่อนซิน เธอแค่ลองยุถ้าเพื่อนไม่เอาก็แล้วแต่ “ต่อไหนอีก” เธอแทบจะยืนไม่ได้อยู่แล้ว “ถ้าแกไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ดูสภาพไม่น่าไหว” มะนาวจับศีรษะเพื่อนโยกไปมา “ให้น้องเขาไปส่งแกกลับได้ไหม ร้านที่พี่บอลจะไปเป็นอีกทาง” ซินนั่งนิ่ง หันมองเพื่อนสนิทด้วยตาปรือ ๆ น้องไหน “น้องไมล์ ไปส่งเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม” “เขาจะให้ผมไปส่งไหมล่ะ” พันไมล์ถามสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะปรายตามองคนที่หันหน้ามาสบตากัน “มึงดูเป็นคนดีนะไอ้ไมล์ ผมว่าพี่ไม่ต้องไปกับมันนั่นแหละดีแล้ว” เบสหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน เขายังดูออกว่ามันสนใจพี่สาวคนนี้อยู่ แต่พันไมล์ก็คือพันไมล์ มันจะไม่แสดงออกอะไรแบบนั้นให้ดูแย่ แค่มันส่งสายตาทีเดียวสาวก็แทบเดินตามแล้ว อีกอย่างมันแค่อยากกินเล่น ๆ ไม่ผูกมัดกับใคร “มึงก็ว่ามันเกิน เดี๋ยวพี่เขาก็กลัวจริง” เต๋าทำทีพูดปกป้องเพื่อน แท้จริงแล้วเขาก็เห็นด้วยกับความคิดเบส กลัวหรือเปล่าเธอก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้มือที่จับกันอยู่ใต้โต๊ะโคตรแน่น แน่นจนเธอหายใจลำบาก ทั้งที่อวัยวะส่วนนั้นก็ไกลกันมากทีเดียว ไม่พอเขายังลูบหลังมือเธอด้วยนิ้วโป้งอย่างแผ่วเบา เธอรู้ว่าเขาจะสื่ออะไร ใจก็อยากปฏิเสธแต่ไม่รู้อะไรที่มันสั่งให้เธอยอมรับสัมผัสของเขาแบบนี้อย่างน่าไม่อาย “จะกลับไหม จะไปส่ง” ซินหลบสายตาคมกลับมามองที่แก้วของตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่าย ส่งผลให้รอยยิ้มมุมปากแสนร้ายผุดขึ้นบนเครื่องหน้าหล่อเหลา ไม่รู้ทำไมวันนี้เขารู้สึกตื่นเต้นกว่าทุกที หรือเพราะคนที่นั่งข้างกันนี้สวยจนทำให้ใจเขามันอยากลองสาวรุ่นพี่สักครั้ง “อยากกลับก็บอก” เขาก้มลงมากระซิบเธออีกครั้งและด้วยความแสนร้าย ริมฝีปากได้รูปก็จูบเข้าที่ใบหูนั้นหนึ่งที่ เขาไม่กลัวสายตาใคร ไม่สนว่าเพื่อนจะมอง เขาสนแต่ว่าคนที่โดนรุกอยู่นั้นจะมีปฏิกิริยาเช่นไร “รอกลับพร้อมพวกนี้ก็ได้” ซินตอบเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน เธอทำอะไรไม่ถูกเลยสักอย่าง ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสนใจเธอตอนนี้แต่ก็กลัวว่าจะมีคนเห็น อีกใจก็รู้สึกผิดต่อใครบางคน ซินขยับมือเล็กที่ถูกกุมไว้จนชื้นเหงื่อเมื่อความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาในหัว ทว่าเขาไม่ยอมปล่อย มิหนำซ้ำยังประสานมือของเขาเข้ากับมือเธอจนแนบแน่น หญิงสาวหันไปมองเขาด้วยสีหน้าเป็นคำถามแต่กลับได้รับการเลิกคิ้วเป็นคำถามกลับมา สุดท้ายก็ต้องเบือนหน้าหนีแล้วยอมให้จับอย่างนั้น เธอเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่าย ๆ กับอะไรแบบนี้นะ หรือเพราะเธอไม่เคยเจอใครที่เหมือนเขา จึงไม่รู้ว่าต้องรับมือแบบไหน “แกอย่าคิดอะไรมากเลยซิน ลองปล่อยตัวปล่อยใจให้ตัวเองมีความสุขบ้าง” เพื่อนสนิทโน้มใบหน้าเข้ามาคุย “แกจะให้ฉันเป็นคนเลวหรือไง” “เลวตรงไหน แค่หาความสุขให้ตัวเอง” ซินเงียบ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย รู้ว่าถ้าเรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นคืนนี้ พรุ่งนี้ก็คงจากลากัน ทว่าหากกลับมาคิดดู เธอเองก็เหงามาแทบตาย บางคืนมันก็เปลี่ยวจนต้องระบายออกมา เธอไม่ใช่คนจิตใจสงบถึงขั้นนั้น ยอมรับว่าบางครั้งมันก็ต้องการจนทรมาน “แกนี่นะมะนาว” “น้องเขาก็โคตรดีเลยนะ ถึงจะดูแบดบอยไปหน่อยก็เถอะ กร้าวใจซินไหมคะ” มะนาวหัวเราะชอบใจจนเธออดยิ้มกับความระริกระรี้ของเพื่อนไม่ได้ “ไม่” “แหม ไม่อะไรกัน” มะนาวยิ้มเขินก่อนจะเอี้ยวหน้าไปกระซิบใกล้ ๆ “จับมือกันแน่นขนาดนั้น” “ถ้าพูดอีกจะกลับแล้วนะ” ซินรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ตอนนี้มันคงแดงซ่านไปหมดแล้ว ทั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทั้งคำแซวจากเพื่อนสนิท หญิงสาวพยายามจะดึงมือตัวเองออกมาแต่อีกคนก็โคตรเอาแต่ใจ “ล้อเล่น อย่าคิดมาก” มะนาวตบไหล่เพื่อนเบาๆ “ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไป” “มันไม่ผิดใช่ไหม” “แกไม่ผิด แต่ป้องกันด้วยนะ ถึงจะสนุกก็ต้องใส่” “นี่เราคุยอะไรกันเนี่ย” ซินเริ่มรับไม่ได้กับหัวข้อสนทนาของเพื่อนสนิทจนต้องกุมขมับ “พอ” “สวัสดีค่ะพี่ ๆ” เสียงใสปนความเมามายของใครบางคนดังขึ้น ท่ามกลางเสียงพูดคุยของคนในโต๊ะ ทุกคนต่างหันไปให้ความสนใจคนที่มาใหม่ แต่ซินกลับได้ยินเสียงพ่นลมหายใจของใครคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ “อ้าว น้องยาหยี” “มึงจะอ้าวทำไมไอ้เต๋า” เบสถามอย่างขบขัน ก่อนจะปรายตามองเพื่อนเขาอีกคนที่นั่งนิ่งสีหน้าเหมือนอยากตายเต็มทน “มาชนแก้วค่ะ” สาวที่ชื่อว่ายาหยียิ้มหวานให้ทุกคนก่อนที่สายตาของเธอจะหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าใจร้ายสำหรับเธอที่สุด “ไหนพี่พันไมล์บอกหยีว่าไม่มาไง” เพียงแค่เห็นสายตาของผู้หญิงคนนั้นกับประโยคทักทายคนข้างกายเธอ ซินก็รีบดึงมือกลับ คราวนี้เธอทำสำเร็จอาจเป็นเพราะพันไมล์กำลังให้ความสนใจกับคำถาม “ทีแรกก็ไม่คิดจะมากันหรอกน้องหยี ไอ้เบสกับพี่พีแหละชวนออกมา” โน่เป็นคนตอบคำถามเพราะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดีว่ามันจะทำหน้าตึงปล่อยให้สาวถามเก้อ “อ้อ ค่ะพี่โน่” “ครับ” แล้วทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในความเงียบ เหมือนทุกคนกำลังกลั้นหายใจไม่เว้นแม้แต่ซิน แล้วที่ทำให้ลมหายใจเธอสะดุดยิ่งกว่าเดิมคือการที่พันไมล์ถอดเสื้อยีนสีซีดของเขามาวางบนท่อนขาเธอ ท่ามกลางสายตาของใครหลายคนโดยที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจเลยสักนิด “ใส่ดิ เห็นขนลุก” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ขณะที่คนอื่นยังคงเงียบกริบ “มะ ไม่เป็นไร” เธอปฏิเสธทว่าเขากลับตลบเสื้อผืนนั้นคลุมท่อนล่างของเธอที่มีเพียงเดรสสั้นครึ่งขาปิดอยู่ แถมยังเป็นผ้าเนื้อบางและพลิ้วไหว การกระทำของพันไมล์ทำเอาเธอตกใจจนไม่รู้ว่าจะทำตัวแบบไหน “ใครเหรอพี่โน่ หยีไม่เคยเจอเลย” “อ้อ อันนี้รุ่นพี่ที่สนิทกัน” โน่ตอบแล้วยิ้มแห้ง หันไปมองมะนาวเหมือนคนขอความช่วยเหลือ “สนิทกับพี่ไมล์เหรอคะ” “เพื่อนกูจะโดนตบไหมเนี่ย” มะนาวพึมพำก่อนจะชะโงกหน้าไปคุยกับรุ่นน้อง “คนคุยน้องมันเหรอ” “เคย” โน่ตอบสั้น ๆ เป็นอันว่ารู้กัน มะนาวจึงพยักหน้าเข้าใจ คงเป็นคนที่พวกนี้พูดถึงว่าเคยคุยแต่สาวเจ้าไม่ยอมจบ ไอ้เด็กนี่ก็เสน่ห์แรงเกิน เธอชักเริ่มเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมาแล้วสิ “มะนาว ฉันอยากกลับแล้ว” ซินหันไปบอกเพื่อนเพราะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มมีปัญหา ทว่าคนที่ตอบกลับมาไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นอีกคนข้างกัน “จะไปส่ง เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน” พูดจบพันไมล์ก็ฉุดแขนคนตัวเล็กให้ลุก ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองตาม แต่เขาไม่สนใจใครอยู่แล้ว อะไรที่กำลังไปได้ดี มีคนมาทำเสียคงแย่ ซินเงยหน้าขึ้นมองคนร่างสูง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ในแววตาคู่นั้นคล้ายจะบอกว่าเธอไม่ควรขัดใจ แต่เรื่องอะไรเธอต้องฟังเขาก็แค่คนเพิ่งรู้จักกัน “ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้มะนาวไปส่ง” “ลุกมาเถอะ ขอร้อง” ครั้งนี้แววตาคมคล้ายจะขอความเห็นใจ แม่ตัวดีนี่ก็น่ารำคาญเหลือเกิน คนเขาอยากหาข้ออ้างออกไปจากตรงนี้ ไม่สิ อันที่จริง เขาไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างก็ได้ จะเดินออกไปเลยก็ได้ แต่เขาแค่ไม่อยากให้อะไรมันหลุดมือไป แม่ง โคตรหงุดหงิด “แกจะรอกลับกับฉันก็ได้นะ พี่บอลน่าจะมาเที่ยงคืนนิดๆ ” ดูเวลาแล้วก็อีกราวหนึ่งชั่วโมง ซินถึงกับคิดหนัก “งั้น” เธอควรเอาอย่างไรกับชีวิตดี “จะไปไม่ไป”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD