“จ๊ะเอ๋… สวัสดีค่ะเฮีย… ”
เอมิเลียร้องทัก…
ในทันทีที่มือเรียวผลักบานประตูแล้วยื่นใบหน้าเข้ามาก่อน แม้โดยปกติจะรับรู้กันว่าการจะได้เจอท่านประธานจะต้องผ่านการนัดหมายล่วงหน้าทุกครั้ง
แต่ด้วยอภิสิทธิ์ของความเป็นน้องสาวของท่านประธาน ทำให้เอมิเลียเข้าออกในโรงแรมแห่งนี้ได้ทุกเวลาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
“จะมาทำไมไม่บอกเฮียก่อน… ”
อันโตนิโอที่กำลังนั่งกอดอกเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เอ่ยถามน้องสาวด้วยสีหน้าประหลาดใจเมื่อหล่อนมาปรากฏตัวที่นี่
“ก็น้องอยากเซอร์ไพรส์เฮีย… แล้วก็เซอร์ไพรส์เพื่อนด้วยค่ะ… ”
คำพูดที่ได้ยินกระแทกใจของท่านประธานเข้าอย่างจัง เพราะว่าก่อนที่เอมิเลียจะเข้ามา อันโตนิโอกำลังอยู่ในอาการเหม่อลอยครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน กับหญิงสาวผู้เป็นเพื่อนของน้องสาวที่เพิ่งถูกเอ่ยถึงเมื่อครู่
“อะไรนะ… จะมาเซอร์ไพรส์เพื่อน… เอ่อ… ”
อันโตนิโออึกอักเล็กน้อยเมื่อต้องเอ่ยถึงมินตรา ผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงคิดถึงหล่อนอยู่ตลอดเวลาหลังจากวันนั้น
“ค่ะ… น้องอยากมาเซอร์ไพรส์ยัยมิ้นท์ค่ะ”
หัวคิ้วของเอมิเลียชิดเข้าหากัน มองหน้าพี่ชายสุดหล่อด้วยความสงสัย
“เฮียจะบอกว่าเพื่อนของเธอไม่อยู่แล้ว…”
อันโตนิโอกล่าว…
หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอหน้ามินตราอีกเลย
การหายไปโดยไม่บอกไม่กล่าวของมินตราได้ทิ้งคำถามที่เป็นปริศนาน่าสงสัยเอาไว้ให้กับพนักงานของโรงแรม พากันซุบนินทาไปต่างๆ นานาถึงสาเหตุที่ทำให้มินตราหายไป
“อะไรนะ… ยัยมิ้นท์ไม่อยู่แล้ว เฮียหมายความว่ายังไงคะ… เมื่ออาทิตย์ก่อนก็ยังอยู่นี่นา… ”
เอมิลเลียตกใจ
“ใช่… เมื่ออาทิตย์ก่อนยังอยู่ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว… ”
“เฮียหมายความว่ายัยมิ้นท์ลาออกใช่ไหมคะ”
“ก็ไม่รู้… อยู่ๆ ก็หายไปเลย… ”
“ไปไหนคะ… ”
“เรื่องนี้พี่ไม่รู้ละเอียดเพราะไม่ใช่ฝ่ายบุคคล”
ทันทีที่อันโตนิโอพูดจบ…
เอมิเลียก็ลงลิฟท์มาที่ชั้นล่างซึ่งเป็นแผนกของออฟฟิศ เพื่อจะมาถามให้แน่ใจหลังจากโทรเข้าเบอร์มือถือของมินตราแล้วไม่มีคนรับ
เอมิเลียเรียกลูซี่ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกบุคคลเข้ามาคุยกันในห้องประชุมเป็นการส่วนตัวเพื่อต้องการจะถามเรื่องราวเกี่ยวกับมินตรา และได้รู้ว่ามินตราหายไปโดยไม่ได้ยื่นใบลาออก
“พี่ลูซี่รู้ไหมคะว่าเพราะอะไรยัยมิ้นท์จึงลาออกกะทันหัน… ”
เอมิเลียอยากรู้ความจริง
“ก็… เอ่อ… คือ… หลังจากมินตราไม่มาทำงานพนักงานของโรงแรมก็ซุบซิบกันจนพี่เองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกัน… ”
“พนักงานซุบซิบกันว่ายังไงคะ”
เอมิเลียยิ่งอยากรู้
“เอ่อ… เรื่องนี้เราคุยกันสองคนนะ คือเราสงสัยกันว่ามินตราน่าจะโดนท่านประธานปล้ำ”
ลูซี่กล่าวพร้อมกับเล่าให้ฟังว่าเย็นวันนั้นหล่อนอยู่ในเหตุการณ์เพราะเป็นคนเรียกมินตราให้ขึ้นไปพบท่านประธาน ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาเลิกงาน พนักงานคนอื่นๆ กลับกันหมดแล้ว
“ตายจริง… บ้าที่สุด… ทำไมเฮียทำแบบนั้น”
เอมิเลียตกใจกับเรื่องที่รู้
“พี่เองก็ไม่อยากจะเชื่อ… ”
ลูซี่กล่าวเสริม
“แล้วมีหลักฐานอะไรว่ายัยมิ้นท์โดนเฮียปล้ำ”
ที่ต้องถามต่อก็เพราะเอมิเลียไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
“ก็ตอนเช้าแม่บ้านที่ขึ้นไปทำความสะอาดในห้องทำงานของท่านประธานบังเอิญไปเจอชั้นในของผู้หญิงถอดทิ้งไว้ในห้องน้ำค่ะ… ”
“โอ๊ว… ไปกันใหญ่แล้ว… ”
เอมิเลียอุทานด้วยความตกใจ
“อุ๊ย… คุณเอมิเลียอย่าบอกท่านประธานนะคะว่ามีคนรู้เรื่องนี้ ไม่งั้นโดนไล่ออกกันทั้งแผนกแน่ๆ”
ลูซี่กลัวว่าตัวเองจะตกงาน
“อืม… ไม่บอกหรอกสบายใจได้”
น้องสาวของท่านประธานรับปากให้ลูซี่สบายใจ จากนั้นคุยกันต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ เอมิเลียก็ออกมาจากห้องประชุม
หล่อนพยายามโทรหามินตราอีกครั้ง บังเอิญว่าคราวนี้มินตรารับสาย
“มิ้นท์… นี่แกอยู่ไหน รู้ไหมว่าวันนี้ฉันมาหาแกที่โรงแรม… ”
เอมิเลียกรอกเสียงไปยังปลายสาย ดีใจมากที่รู้ว่ามินตรายังอยู่ดี ตอนแรกที่โทรไปแล้วติดต่อไม่ได้เป็นเพราะว่ามินตราเพิ่งเปิดโทรศัพท์
“เรื่องมันยาว… ”
มินตราตอบกลับมาเพียงสั้นๆ น้ำเสียงฟังดูเศร้า จากนั้นก็นัดเจอกับเอมิเลียในเวลาต่อมาเพื่อจะเล่าความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟัง
ในเวลาต่อมา
เมื่อเอมิเลียขับรถมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่นัดหมาย มองเห็นมินตรากำลังนั่งรออยู่หน้าร้าน
หลังจากจอดรถเสร็จจึงรีบเดินเข้าไปหา ก่อนจะพากับเข้ามานั่งในร้านอาหาร
“ยัยมิ้นท์… ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่… จริงหรือเปล่าที่ฉันได้ยินมาว่าพี่ชายของฉันปล้ำแก… ”
เมื่อเจอหน้ากัน เอมิเลียไม่รอรี รีบยิงคำถามที่ค้างคาใจมาพักใหญ่ๆ
คำถามที่ได้ยิน…
ทำเอามินตรายกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ ไม่คิดว่าการหายมาเงียบๆ ของหล่อนโดยไม่บอกไม่กล่าวใครในวันนั้น จะทำให้ผู้คนสงสัยเก็บเอาไปร่ำลืออย่างที่เอมิเลียบอก
“คือ… เอ่อ… ฉันจะพูดยังไงดี”
มินตรารู้สึกหนักใจที่จะอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น คำถามทิ่มแทงใจที่ยิงเข้ามาอย่างกะทันหันของเพื่อนสาว ทำให้มินตราเกิดอาการเหมือนน้ำท่วมปาก เรื่องแบบนี้จะอธิบายยังไง
“มีอะไรแกพูดกับฉันได้ตรงๆ… ถ้าเห็นว่าฉันยังเป็นเพื่อนแก”
เอมิเลีย ‘ย้ำ’ ถึงความเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตลอดระยะเวลาสี่ปีที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน
“เอาเป็นว่ามันเกิดขึ้นจริง… แต่… เอ่อ… ฉันจะพูดยังไงดี… ”
“ถ้าแกไม่สบายใจที่จะพูดก็ไม่ต้องพูด… ฉันแค่อยากรู้ว่าแกโดนพี่ชายฉันปล้ำใช่ไหม… ”