คำพูดของมารดานั้นก็ลื่นหูดีอยู่หรอก ทว่าทุกประโยคบ่งบอกถึงความเห็นแก่ตัว เขาปรายตามองคนเป็นแม่เล็กน้อยก่อนจะก้มมองมือที่รวบเข้ากันอย่างคนใช้ความคิด
“นิ้งไม่เหลือใครแล้ว ผมอยากให้คุณแม่สงสารเธอ เมตตาเธอเหมือนตอนที่คุณแม่อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้” เขาพูดกับมารดาน้ำเสียงเรียบ แต่ทุกประโยคเน้นน้ำหนัก
“แม่ทำไม่ได้ แม่ทำใจให้รักเด็กคนนั้นไม่ได้ รักษ์ต้องหย่าให้แม่ สองปีที่แม่รับมันมาเป็นสะใภ้ก็เกินพอแล้ว เด็กบ้านนอกแบบนั้นให้เงินไปสักสองล้านก็คงพอ”
“ร้อยล้านครับ” เขาสวนกลับมารดาทันที
“อะไรนะ มันเรียกร้อยล้านเชียวเหรอ!” เขาส่ายหน้าปฏิเสธ
“ผมเรียกให้เธอเอง”
“จะบ้าเหรอตารักษ์! ไปให้มันทำไมตั้งร้อยล้าน”
“ค่าเสียเวลาของเธอยังไงล่ะครับ ผมรู้มาว่าเธอเองก็ไม่ได้อยากจะมาเป็นสะใภ้ของคุณแม่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่อาจจะขัดพ่อของเธอไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากผม ร้อยล้านยังน้อยไปเมื่อเทียบกับข่าวผู้หญิงนับไม่ถ้วน ที่คุณแม่พยายามสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าครอบครัวเราสั่นคลอน หากเธอฟ้องร้องขึ้นมาหมดตัวได้นะครับ”
เขารู้มาโดยตลอดว่าผู้หญิงพวกนั้นที่เข้ามาในชีวิตของเขาอาจจะมีทั้งน่าสนใจและไม่น่าสนใจ มากกว่าครึ่งเป็นคนที่มารดาของเขาส่งมาเองทั้งนั้น แล้วก็ให้คนตามเก็บภาพออกไปปล่อยข่าว ดีหน่อยที่ไม่ได้มีภาพจุดสิ้นสุดจบลงที่เตียง ตำแหน่งว่าที่ประธานบริษัทคงหลุดมือไปอย่างง่ายดาย ก็นับว่าแม่ของเขาก็ยังมีความรอบคอบอยู่บ้าง
“แม่ไม่ให้! แม่ให้ไม่ได้มันมากไป แม่จะไปคุยกับแม่นิ้งเอง”
“เลือกเอานะครับว่าจะยอมจ่ายร้อยล้านแล้วจบ หรือจะให้เธอฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย แล้วทำลายชื่อเสียงของผมกับคุณแม่”
ทรรศภาคย์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงมองมารดาที่กำลังครุ่นคิดถึงระเบิดเวลาลูกโตที่เขาโยนทิ้งไว้ หากเขามีสิทธิ์เลือกภรรยาด้วยตัวเองสักครั้ง ผู้หญิงแบบแม่เขาจะไม่มีวันเลือกให้มาเดินเคียงข้างด้วยเด็ดขาด เพราะท่านดูอันตรายเกินไป ไม่รู้ว่าบิดาของเขาทนมาได้อย่างไรตั้งสามสิบกว่าปี
“ไง มาถึงก็เอาแต่ดื่มเลยนะมึง เดี๋ยวก็ได้เมาตายห่ากันพอดี แล้วนายธีธัชไม่มาด้วยเหรอ”
ต่อฤกษ์ที่ตามมาทีหลังหันไปพยักหน้ากับบาร์เทนเดอร์อย่างรู้กัน ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้บาร์แล้วถามหาเลขาหนุ่มที่มักติดสอยห้อยตามเพื่อนสนิทเขาไปทุกที่ จนบางทีก็สงสัยว่าตำแหน่งเลขาของนักธุรกิจเงินเดือนมันกี่แสนกัน ทำไมถึงได้ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนไม่มีเวลาพัก
“ให้ไปดูงานที่เวียดนาม”
เขาอธิบายถึงคนที่ถูกถามถึง งานเล็กๆ บางครั้งเขาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเลขาคนสนิท ทรรศภาคย์ออกมาจากคฤหาสน์ก็ต่อสายหาเพื่อนสนิทเพื่อชวนกันออกมาดื่มด้วยกัน
“นางแบบที่มึงควงไปแดกข้าวด้วยวันนี้ไม่ถึงใจหรือไงวะ มึงถึงได้ทำหน้าเบื่อโลกเสียขนาดนี้ กูล่ะสงสารเมียมึงจริงๆ ทนได้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนเธอไม่เคยออกมาเลย ถามจริงเหอะ... เมียมึงน่ะเป็นหุ่นยนต์หรือไงวะถึงได้ไร้ความรู้สึกแบบนี้” คนถูกถามยกแก้วบรั่นดีในมือขึ้นกระดกลงคอรวดเดียวหมด
“เฮ้ย! เบาๆ ไอ้รักษ์ กูไม่หามไปส่งหรอกนะ ให้นอนข้างถนนริมฟุตปาธแหละคอยดู”
เขาก็กระเซ้าเย้าแหย่ไปอย่างนั้นเพื่อให้ได้มีรอยยิ้มกลับมาบ้าง หลังจากที่มองหน้าเพื่อนนั่งอมทุกข์ตั้งแต่มาถึงสักพักหนึ่งแล้ว
“กูอยากดื่ม แล้วมึงน่ะก็หุบปากได้แล้ว” เขาหันมาถอนหายใจใส่เพื่อนหนึ่งครั้ง ก่อนจะสั่งเหล้าเพิ่ม
“เออ ไม่มีกูมึงจะเหงา กูบอกไว้เลย”
ต่อฤกษ์กระฟัดกระเฟียด ก่อนจะหยิบเครื่องดื่มขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้วเช่นกัน ทำให้ทรรศภาคย์ยิ้มออกมาได้ เขารู้จักกับต่อฤกษ์มาปีนี้คงเข้าปีที่ยี่สิบปลายๆ รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล เรียกได้ว่าคือเพื่อนรักและเพื่อนที่สนิทที่สุด มีหรือจะไม่รู้จักนิสัยของมัน
“มึงจะไปไหน”
อันที่จริงเขาก็พอรู้บ้างดูจากข่าวการเทคโอเวอร์โรงแรมชื่อดังที่เชียงใหม่ของครอบครัวมัน แล้วคิดว่าเจ้าสัวพ่อของมันคงส่งมันไปดูแลที่นั่นแน่นอน เพื่อเป็นการปูทางการกลับมาสืบทอดธุรกิจในเครือทั้งหมด
“กูต้องไปดูแลโรงแรมที่เชียงใหม่สักปีสองปีว่ะ”
คาดเดาผิดไปเสียที่ไหนกัน ริมฝีปากสีแดงเข้มจรดลงบนขอบแก้วทรงคริสตัลเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา คนที่เขาสนิทและไว้ใจมากที่สุดกำลังเดินทางไกลห่าง แม้การไปหาจะนั่งเครื่องแค่ชั่วโมงเดียวก็เถอะ อย่างไรมันก็ไม่เหมือนสิบห้านาทีแล้วเจอหน้ากันอยู่ดี
“ไว้กูจะขึ้นไปเยี่ยมมึง”
“กูไม่ได้อยากไป แต่กูขัดป๊าไม่ได้”
คนพูดหน้าหงอยลงเล็กน้อย มันจะต่างกันตรงไหน เพราะหลายๆ อย่างเขาก็ขัดมารดาไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะขัดไปให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา มันไม่ได้มีผลกับเขาอยู่แล้ว
“กูจะหย่ากับนิ้ง”
เขาพูดขึ้นเมื่อดื่มหมดแก้วในมือที่ถืออยู่ ทำเอาคนที่เพิ่งดื่มตามสำลักไอโขลกๆ หน้าดำหน้าแดงเรียกหาน้ำดื่มแทบไม่ทัน
“อะไรของมึง อย่าบอกนะว่ามึงกับนางแบบอะไรนั่น...”
ทรรศภาคย์ส่ายหน้าปฏิเสธ นางแบบที่ควงไปทานอาหารกลางวันที่โรงแรมดังห้าดาวใจกลางเมืองหลวงวันนี้ ไม่มีผลต่อความรู้สึกของเขาสักนิด ทว่าเมื่อมารดาส่งมาพันธนาการ เขาก็แค่เล่นตามน้ำไปก็เท่านั้น