EP. 05

1026 Words
“เพื่อตัวเขาเอง กูรู้ว่าแม่ไม่หยุดเพียงเท่านี้ นิ้งเขาหมดประโยชน์สำหรับท่านแล้ว” “แล้วมึงก็ยอม” “แล้วกูจะไม่ยอมเพื่ออะไร กูก็แค่ทำให้นิ้งเขาไม่เสียเปรียบก็เท่านั้น มันก็เพียงพออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” “ถามจริงเถอะว่ะไอ้รักษ์ มึงเคยรักใครบ้างหรือเปล่า มึงอยู่กับคุณนิ้งมาสองปี มึงไม่รักไม่ผูกพันกับเขา ไม่คิดจะต่อสู้กับแม่เพื่อเขาบ้างเหรอวะ” ความรักคืออะไร... ทรรศภาคย์นั่งลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์ครุ่นคิดถึงคำถามนั้น ให้ตายเถอะ... คิดว่าตัวเองไม่น่าจะรู้จักความรัก กับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาไม่ว่าจะตอนก่อนแต่งงานหรือหลังแต่งงาน มันก็แค่ความใคร่ที่เมื่อเสร็จกิจต่างก็แยกย้าย คนที่เลือกจะสานสายสัมพันธ์ต่อก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นเป็นผู้ตัดสิน ทำไมคนเราต้องมีความรักในเมื่อมันยุ่งยาก แบบที่เป็นอยู่มันก็น่าพอใจแล้วไม่ใช่เหรอ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเริ่มต้นจากผลประโยชน์ทางธุรกิจ มันก็ควรจะจบลงที่คำว่าธุรกิจ บางครั้ง... เธออาจจะคิดแบบเดียวกันก็ได้ หลายวันผ่านไป... ข่าวคาวๆ เกี่ยวกับตัวสามีและผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเริ่มทวีมากขึ้น ในเนื้อหาข่าวบางสำนักก็เขียนแรงด่าทอต่อว่าดารินทร์ว่าไม่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมพอที่จะมัดใจสามี บ้างก็พาดพิงไปถึงบิดาที่ล่วงลับไปแล้ว ว่าเป็นสาเหตุความระหองระแหงภายในครอบครัว บ้างก็พนันว่าคงไปกันไม่รอดไตรมาศหลังเป็นแน่ กลายเป็นว่าคนที่เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน ไม่เคยสร้างความเสียหายให้กับคนเป็นสามีกลับเป็นคนผิด นี่มันยุคไหนสมัยแล้ว สิทธิเสรีภาพที่ทุกเพศทุกวัยควรได้รับอย่างเท่าเทียมกันยังคงใช้ได้ไม่ดีสำหรับประเทศไทย เพราะอย่างไรเสียผู้ชายก็ยังดูเป็นฝ่ายถูกเสมอไป ดารินทร์วางโทรศัพท์ลงพร้อมกับพรูลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า หลายสัปดาห์มาแล้วที่เธอถูกคุณหญิงจีรณาเรียกไปพบวันเว้นวันเลยก็ว่าได้ และในที่สุดเมื่อวานท่านก็ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดออกมาสักที ‘หย่ากับตารักษ์เสีย’ ‘แล้วถ้านิ้งไม่หย่าล่ะคะ’ ‘เธอไม่รู้จริงๆ เหรอว่าตารักษ์ไม่ได้รักผู้หญิงอย่างเธอเลยสักนิด เขาไม่เคยแคร์ความรู้สึกของเธอ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะรู้สึกยังไง หย่าเถอะแล้วอยากได้เงินเท่าไหร่ก็ว่ามา’ ดารินทร์หลับตาเอนกายลงนอนบนโซฟาตัวนุ่ม คงถึงเวลาแล้วที่นกน้อยในกรงทองจะได้บินออกจากกรงเสียที แต่ทำไมรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เสียงเปิดประตูดังมาจากด้านนอก แต่หญิงสาวยังคงหลับตา ด้วยคิดว่าเป็นแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาด เธออยู่แบบไร้ตัวตนมาตลอดสองปีไม่ว่าจะกับใคร เพราะฉะนั้นใครจะเข้าจะออกห้องนี้ก็เชิญตามสบาย “มาคุยกันหน่อยสิ” น้ำเสียงเรียบแต่กระชากวิญญาณของคนที่ปล่อยให้ล่องลอยไปไกลกลับคืนสู่ร่างได้อย่างรวดเร็ว ดารินทร์ลืมตาขึ้นเธอมองเห็นคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ถนัดตา หญิงสาวเด้งตัวลุกขึ้นนั่งในทันที และลูบผมเผ้าให้เรียบร้อย ด้วยไม่คิดว่าจะเจอกับสามีในสภาพนี้ สภาพที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วก็ปล่อยให้ผมแห้งเองไปตามธรรมชาติ ใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มใดๆ ไหนจะเสื้อผ้าที่สวมอยู่ เสื้อยืดตัวโคร่งที่มีรูจากการผุพังของเส้นด้าย กางเกงขาสั้นตัวย้วยที่ใส่สบาย “คุณรักษ์” เธอจ้องเขานิ่ง ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยคล้ายกำลังจะพูดบางอย่างแต่ก็เลือกที่จะไม่พูด มันไม่มีผลอยู่แล้วไม่ว่าเธอจะขออนุญาตไปแต่งตัวสวยๆ หรือจะนั่งอยู่ในสภาพเดิม “นิ้งคิดว่าคุณรักษ์ออกไปทำงานแล้วเสียอีกค่ะ” “ออกไปแล้ว และก็กลับมาแล้ว” เขาถูกมารดาเรียกตัวไปที่สนามบินตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อรับศรุตา สัญญาณอันตรายสำหรับดารินทร์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดูจากสายตาของศรุตาที่ปรารถนาในตัวเขานั้น ทำให้เขารู้ว่านอกจากมารดาแล้ว ก็ยังมีศรุตาที่อันตรายกับดารินทร์ การปล่อยให้เธอหลุดพ้นจากวงจรบ้าๆ นี้ก็เป็นผลดีกับหญิงสาว อย่างน้อยเขาก็ได้ตอบแทนที่เธอเสียเวลาและทำตัวเป็นภรรยาที่ดีมาถึงสองปีเต็ม “เราหย่ากันเถอะ” ดารินทร์ไม่ได้เตรียมใจมาฟังคำพูดที่เปรียบเสมือนมีดแหลมนับพันเล่มพุ่งแทงทะลุหัวใจ หญิงสาวใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ริมฝีปากอิ่มสั่นระริก ดวงตากลมโตคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำอุ่นๆ ที่พร้อมจะไหลริน เขาไม่รู้ว่าอาการเหล่านั้นเรียกว่าเสียใจหรือผิดหวังกันแน่ “คุณรักษ์อยากหย่ากับนิ้งใช่ไหมคะ” เธอทวนถามเขาเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง ดวงตากลมโตวูบไหวยามที่ได้สบตากับเจ้าของหัวใจ เธอกับเขาอยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้ แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ หากเปรียบเทียบเขาดังเช่นฤดูกาล เขาคงเป็นเจ้าชายหิมะที่ย่างกรายไปที่ไหนก็มีแต่ความหนาวเหน็บ แต่ไม่เป็นไร... เธอได้มอบใจให้เขาไปแล้ว “เราหย่ากัน มันจะเป็นผลดีกับเราทั้งสองคนมากกว่า หรือเธอว่ายังไง” เขาปรายตาจับอาการของหญิงสาวอยู่เงียบๆ สีหน้าของเขาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา แต่สำหรับดารินทร์ น้ำตาหยดแรกไหลรินอาบแก้ม มือบางรีบยกขึ้นเช็ดลวกๆ ทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD