เพราะความแค้นที่ถูกบิดาของ มายาวี บุญพรม หักหลังทำให้ คุณเอกทัศน์ จิตรปานปรีชา ตัดสินใจจบชีวิตของตนเองด้วยปืนหนึ่งกระบอก ทำให้บุตรชายเพียงคนเดียวของคุณเอกทัศน์อย่าง เอกภพ จิตรปานปรีชา ถึงกับเคียดแค้น คุณมนัส บุญพรม เป็นอย่างมาก ถ้าวันนี้เขาสามารถฆ่าคุณมนัสด้วยน้ำมือของเขาได้ เขาคงทำไปแล้ว
คุณมนัสก็รู้สึกผิดไม่น้อย เพราะท่านไม่คิดว่าเพื่อนจะคิดสั้นเพราะเรื่องการถอนหุ้นของท่าน ท่านคิดว่าตนเองไม่ผิด บริษัทของเพื่อนกำลังขาดสภาพคล่อง ท่านจึงถอนหุ้นออกมา แต่ท่านไม่คิดว่าคุณเอกทัศน์จะไม่สู้ต่อ ตัดสินใจจบชีวิตตนเองแบบนั้น ไม่ว่าใครก็รักตัวเอง และคุณมนัสก็เหมือนกัน ถ้าทุกอย่างจะต้องพัง ท่านก็คงไม่เอาตัวเองไปพังเพียงเพราะคำว่าเพื่อน
แต่บทเรียนที่เกิดขึ้นวันนี้ มันทำให้ท่านรู้แล้วว่าท่านคิดผิด ท่านต้องเสียเพื่อนที่ท่านรักที่สุดในชีวิตไป หนำซ้ำยังได้รับความเกลียดชังจากบุตรชายของเพื่อนท่านอีก มันทำให้คุณมนัสเสียใจเป็นอย่างมาก ทุกอย่างมันเกิดเพราะความรักตัวเอง ไม่ได้เกิดเพราะว่าท่านหักหลังอย่างที่เอกภพเข้าใจ
แต่ขึ้นชื่อว่าคนโกรธและเกลียดแล้ว เขาจะไม่แยกแยะหรอกว่าเหตุผลของแต่ละคนคืออะไร นั่นคือสิ่งที่คุณมนัสรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ท่านบากหน้าไปงานศพของเพื่อนรักท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของเอกภพ ท่านทำใจอยู่นาน ก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปสนทนากับเอกภพที่มีแต่แววตาเกลียดชังให้ท่าน
“อาขอโทษนะเอก ที่ทำให้ทัศน์เขาเป็นแบบนี้” คุณมนัสเอ่ยออกมาเสียงเศร้า มันคงจะค้างคาอยู่ในใจเป็นอย่างมาก หากว่าวันนี้ท่านไม่ได้พูดเรื่องนี้กับเอกภพ
“ถ้าอามีคำว่ารู้สึกผิดอยู่ในใจอาคงไม่ทำแบบนี้กับพ่อของผม ชีวิตคนๆ หนึ่งเลยนะครับอา” เอกภพแค่นเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาไม่อยากบอกว่าความเกลียดชังที่มากที่สุดในชีวิตของเขา ยังไม่เท่าที่เขาเกลียดคุณมนัสวันนี้เลย
“อาก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้นี่นา อายอมรับว่าอาเห็นแก่ตัวที่ถอนหุ้นออกมาแบบนั้น แต่เพราะอาไม่อยากหมดตัว อาก็เลยต้องทำแบบนั้น” คุณมนัสไม่แก้ตัวใดๆ เขาเอ่ยตามจริงทุกอย่าง สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันเหนือความคาดหมายของท่าน และสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้ท่านเสียใจเป็นอย่างมาก และยิ่งรู้เป็นอย่างดีว่าเอกภพทำธุรกิจอยู่ที่เมืองนอก เขาไม่ได้คิดจะมาสานต่อธุรกิจของบิดา และไม่เคยรู้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบิดาตนเอง ถ้าเอกภพรู้ เขาไม่มีทางปล่อยให้บิดาของเขาต้องมาเสียชีวิตเพราะเงินไม่เท่าไหร่อย่างนั้นหรอก เพราะเท่าที่ท่านทราบมา ธุรกิจของเอกภพก็เติบโตเป็นอย่างมาก และบริษัทของเขาก็ใหญ่กว่าบริษัทของคุณเอกทัศน์เสียอีก นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เอกภพเจ็บปวดส่วนหนึ่งก็คงจะมาจากเรื่องนี้เช่นกัน