ปราริน เด็กสาวใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาคมสวยหวานเมื่อได้มองเข้าไปภายในดวงตาของเธอ ก็ราวกับว่ามีมนต์สะกด ทำให้ผู้ที่มองไม่อาจละสายตาจากดวงตาคู่นี้ได้ แต่บัดนี้ดวงตาคู่นี้กำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ ไม่รู้เพราะโชคชะตาขีดไว้ ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้ หนี้ที่เธอไม่ได้ก่อ กำลังทำให้เด็กสาวต้องรับกรรม
แต่เพราะยายทองผู้ที่เลี้ยงดูเด็กสาวมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้เธอไม่สามารถทิ้งท่านไปไหนได้ เพราะที่ดินผืนนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวของยายทอง ที่ยายทองใช้ปลูกผักขายให้ชาวบ้าน เพื่อหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และส่งเสียเธอเล่าเรียนจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย
แต่วันนี้ทั้งยายทองและเธอต่างมารู้ความจริงว่า อานนท์น้าชายของเธอ ซึ่งเป็นลูกชายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของยายทอง ได้นำโฉนดที่ดินไปจำนองไว้กับพ่อเลี้ยงการันต์ และอานนท์ก็ไม่เคยส่งดอกเบี้ยเลยเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ที่ดินผืนนี้กำลังจะหลุดจำนอง พ่อเลี้ยงการันต์จำเป็นต้องยึดที่ดินผืนนี้ ปรารินและยายทองทราบเรื่องนี้พร้อมๆ กัน ยายทองถึงกับเป็นลมล้มพับเมื่อรู้เรื่องนี้ ปรารินรีบประคองกอดยายไว้ด้วยความเป็นห่วง ความรู้สึกสับสนกำลังทำให้เด็กสาวหาหนทางไปต่อไม่เจอ
ร่างบางรีบประคองร่างของยายไปนั่งพัก ก่อนที่เธอจะหายาดมเพื่อให้ยายของเธอได้ฟื้นคืนสติ ซึ่งภาพที่เห็นทำให้นายชินที่รับหน้าที่มาแจ้งข่าวกับยายทอง ถึงกับมองด้วยความสมเพชเวทนา นานทีเดียวกว่าที่ยายทองจะฟื้นขึ้นมา นายชินยังคงนั่งรอยายทองฟื้น เพื่อแจ้งยายทองให้ขนย้ายข้าวของออกไปจากที่นี่
“ยาย พ่อเลี้ยงให้ขนของออกไปจากที่นี่ภายในวันศุกร์นี้นะ” นายชินเอ่ยด้วยความลำบากใจ
“ยายไม่ไป ยายจะอยู่ที่นี่ พ่อหนุ่มไปบอกพ่อเลี้ยงให้หน่อยได้มั้ย ไอ้นนท์มันไปเป็นหนี้พ่อเลี้ยงเท่าไหร่ ยายจะหาเงินใช้หนี้ให้พ่อเลี้ยงเอง แต่พ่อเลี้ยงช่วยยืดเวลาให้ยายหน่อยได้มั้ย”
ยายทองน้ำตาคลอเบ้าด้วยความเสียใจ ตอนนี้ความรู้สึกผิดหวังมันอัดแน่นไปทั้งใจของหญิงชรา นางไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายของนางจะเป็นคนเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้ ในชีวิตของนางนางเลี้ยงดูลูกชายเป็นอย่างดี นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกชายของนางจะกล้าทำร้ายนางขนาดนี้