สุดท้ายคือสุสาน

922 Words
พิธีศพของพระชายาเอกหวินชิง พระชายาเพียงพระองค์เดียวแห่งชินหวางอ๋องเล่ออี้ ขบวนพระศพยิ่งใหญ่สมเกียรติยศ สมกับศักดิ์ฐานะของนางทุกประการ ขบวนองครักษ์และนางกำนัลแต่งกายด้วยชุดไว้ทุกข์เดินเป็นขบวนยาวเหยียดสุดสายตา องครักษ์เกราะทองนำหน้าขบวน ล้อมขนาบข้าง พร้อมปิดท้ายขบวนเพื่ออารักขาความปลอดภัยให้ชินหวางอ๋องผู้มีอำนาจเหนือคนทุกผู้ทุกนามในแผ่นดิน องครักษ์แต่งกายเต็มพิธีการเคลื่อนย้ายโลงไม้หลี่แกะสลักประดับหยกขาวบรรจุร่างพระชายาเอกหวินชิงเพื่อนำไปประกอบพิธีฝังตามโบราณราชประเพณี ณ สุสานหลวงราชวงศ์เล่อ ราชวงศ์ทุกรุ่นล้วนเชื่อว่าชีวิตหลังความตายถือเป็นเรื่องสำคัญ มีความเชื่อว่าภายในกายมนุษย์มีพลังชี่ที่เหมือนดวงวิญญาณซึ่งคงอยู่แม้ร่างกายดับสูญไปแล้ว ในคัมภีร์โจวอี้เชื่อว่ามีวัฏจักรของการเกิดตาย เมื่อคนตายดวงจิตไม่ได้ดับสูญไปพร้อมกับร่างกาย แต่จะไปพักเป็นหนึ่งเดียวกับผืนแผ่นดิน การพักนี้ดวงจิตจะมีการสั่งสมพลังแห่งฟ้าที่เป็นพลังหยางกระทั่งมีพลังสูงพอที่จะส่งดวงจิตนั้นไปกำเนิดใหม่ หมุนเวียนไปเป็นวัฏจักร สุสานอันงดงามอลังการถูกสร้างขึ้นอย่างฉุกละหุกภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ โดยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ นั่นหมายความว่าชินหวางอ๋องเล่ออี้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วเรื่องการตายของพระชายา เรียกได้ว่าเขาวางแผนการเตรียมต้อนรับการตายของนางเอาไว้อย่างเสร็จสรรพ สุสานของนางทำจากหินหยกสีชมพู นอกจากมีราคาแพงลิบลิ่วขนาดใช้ทองคำในการสร้างเป็นร้อยหีบ หินหยกสีชมพูนี้ยังแข็งแกร่งทนทานกว่าหยกชนิดอื่น จนมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 'หยกชั่วฟ้าดินสลาย' ชินหวางอ๋องเลือกหยกชนิดนี้ด้วยพระองค์เอง หยกงามไร้ที่ติเพื่อสร้างสุสานฝังพระชายาผู้มีความงดงามล่มสี่แคว้น 'ความงามอันลวงล่อทุกบุรุษให้เข้ามาติดกับดักเสน่หา ความงามนี้เป็นเหมือนดาบสองคม ทำให้เกิดเรื่องดีอย่างเหนือความคาดหมายและทำให้เกิดเรื่องร้ายจนเกินคาดเดา' สุสานสร้างตามหลักฮวงจุ้ย มีการวางตำแหน่งการฝังศพของหวินชิงไว้ในที่ที่เหมาะสมต้องตามตำราเพื่อให้พลังชีวิตของผู้ตายรวมตัว มีพลังส่งเสริมทายาทที่ยังมีชีวิตให้ได้ลาภยศสรรเสริญ เจริญก้าวหน้า สุสานนี้ไม่มีลมพัดโกรก ไม่อยู่ใกล้ธารน้ำธรรมชาติอันขัดต่อหลักการรวมพลังชี่ ขบวนพระศพเคลื่อนเข้ามาใน 'สุสานเคียงใจ' ชื่อป้ายหน้าสุสานของนางช่างไพเราะยิ่ง สุสานช่างสวยงามวิจิตรอลังการ แต่ผู้ใดเล่าจะอยากนอนพักผ่อนในสถานที่อันงดงามนี้ พระชายาเอกหวินชิงอายุย่างยี่สิบปี ยังต้องอยู่ดูโลกอีกนาน เหตุใดชีวิตนางจึงต้องจบลงอย่างอาภัพแสนเศร้า ชินหวางอ๋องเล่ออี้ปรายตามองโลงศพลวดลายประณีต โลงศพมีรูปร่างคล้ายเรือมีความเชื่อเพื่อนำพาดวงวิญญาณให้ล่องไปตามธารเหลือง ในสุสานบรรจุของใช้ส่วนตัว เครื่องมือเย็บปัก เครื่องประดับ ของชอบของรักของนาง รวมถึงทรัพย์สินอื่นลงในโลงบรรจุศพด้วยเพื่อให้นางอันเป็นที่รักมีไว้ใช้สอยในภพภูมิใหม่ นางกำนัลเผาเครื่องส่งศพ กระดาษเงินกระดาษทอง ตามธรรมเนียมการเผาเครื่องกระดาษพร้อมโปรยกลีบดอกไม้โปรยปรายทั่วสุสาน การตายของนางถูกเตรียมการไว้ให้ล่วงหน้า ขบวนส่งพระศพอย่างอลังการ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกของนางกำนัลผู้รับใช้ประจำตำหนัก พระชายาเอกหวินชิงเหมือนดั่งดวงตะวันของตำหนักพันพยัคฆ์ ความสดใสดั่งดอกไม้ในห้วงวสันตฤดู ทำให้ผู้พบเห็นอบอุ่นหัวใจดั่งต้องมนต์ บัดนี้ดวงตะวันนั้นได้ลาลับไปพร้อมกับแสงสว่างอบอุ่น ตำหนักพันพยัคฆ์คงทั้งเงียบเหงา หนาวเย็น และอ้างว้างอีกหลายเท่านัก "เปิดฝาโลงศพออก" ชินหวางอ๋องเล่ออี้สั่งการเหล่าองครักษ์ เมื่อฝาโลงศพถูกเปิดออก เล่ออี้ยืนนิ่ง เพ่งมองใบหน้างามล้ำซีดเผือดของพระชายาเอก เขายืนนิ่งจับจ้องใบหน้านางนานราวหนึ่งเค่อ ชินหวางอ๋องถอนหายใจออกมา นางกำนัลถือถาดดอกเหมยกุ้ยสีแดงสดส่งกลิ่นหอมยื่นส่งให้ท่านอ๋อง เล่ออี้มองในถาดทองคำ เลือกดอกที่ใหญ่ที่สุด สวยที่สุด วางใส่ในโลงให้นาง "ปิดโลงศพได้ ฝังร่างพระชายาแห่งข้าในสุสานเคียงใจ" เขาสั่งการ แววตาหม่นเศร้าเก็บซ่อนหลากหลายอารมณ์ความรู้สึก สีหน้าของเล่ออี้ยังเรียบเฉย มีเพียงแววตาเท่านั้นบ่งบอกความในใจ ก่อนการฝังศพจะดำเนินการต่อไป... เสียงฝีเท้าคนราวสิบคนเดินอย่างรีบเร่งเข้ามาในสุสาน ซานฟง ชายชราผู้สวมชุดเครื่องแต่งกายเต็มศักดิ์เจ้ากรมพิธีการเร่งฝีเท้าเดินเข้ามาในสุสานราชวงศ์เล่อ "ทูลท่านอ๋อง ควรไม่ควรแล้วแต่ทรงโปรด กระหม่อมมีข้อโต้แย้งการฝังศพของพระชายาเอกหวินชิง เรื่องที่นางก่อขึ้น หากพิจารณาตามกฎแห่งราชสำนักแล้ว ศพของนางไม่อาจฝังร่วมกับสมาชิกราชวงศ์ได้พ่ะย่ะค่ะ" ชินหวางอ๋องเล่ออี้หันขวับไปตามเสียงนั้น เขากระตุกยิ้มมุมปาก พลางจับจ้องหน้าเจ้ากรมพิธีการเขม็ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD