10 NITA | ควรดีใจหรือเสียใจ?

1944 Words
ร่างบางที่ดูซูบผอมลงไปถนัดตาสะกิดใจชินเข้าอย่างจัง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาปล่อยปละละเลยเธอ? ที่เขาทำมันทั้งหมดเพื่ออะไรกัน? ทำไมเขาโกรธเธอขนาดนั้น ทำไมถึงได้คิดว่าเด็กสาวที่เติบโตมากับเขาจะทำเรื่องแบบนั้นลงไปได้? ทำไม....เขาถึงไม่คิดจะฟังเธอเลย..... ชินเองก็ไม่เข้าใจตัวเองแม้แต่นิดเดียวว่าเขาเป็นอะไรไป ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาพร้อมกันจนเขาตั้งรับไม่ทัน ความโกรธ ความเสียใจทั้งหมดที่มีเขาเอามันไปลงกับเธองั้นเหรอ “นิตา” เขายื่นมือออกไปพร้อมกับเรียกชื่อเธอแต่ดูเหมือนนิตาจะไม่ได้ยิน เธอไม่แม้แต่จะหันหลังมามองหน้าเขาด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเธอไม่ได้ยินที่เขาเรียกหรือว่า.... เสียงของเขาไปไม่ถึงเธอแล้ว..... “อาา....” แม้มันจะเป็นแค่การเดินกลับห้องพักตามปกติแต่ชินสัมผัสได้ว่าระหว่างเขากับนิตามีกำแพงบาง ๆ ที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ กำแพงที่เขาอาจจะฝ่าไปไม่ได้ กำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาเอง “พ่อครับ ผมควรจะทำยังไงดี....” ชินรู้ตัวแล้วว่าเขาเป็นคนทำมันพังทุกอย่าง ความไร้สติของเขาได้ทำลายผู้หญิงคนหนึ่งให้แตกสลาย ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่เขาจะพูดกับเธอดี ๆ “ผมเสียใจ.....” ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไปแต่เขาจะแก้ไขมันยังไงล่ะ? ถ้าขอโอกาสจากเธอมันจะยังมีอยู่หรือเปล่า? ที่ผ่านมาเธอต้องอดทนกับคำพูดของเขามากตั้งเท่าไหร่แล้ว แก้วที่แตกไปต่อให้หยิบขึ้นมาประกอบใหม่มันก็จะมีรอยร้าวเหมือนเดิม ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากแก้ว บอบบาง แตกง่ายและไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม “ต้องทำยังไงดีเธอถึงจะกลับมาร่าเริง นิตา” 1 เดือนต่อมา ถึงชินจะรู้ตัวแล้วว่าเขาผิดไปแต่เขาก็ไม่รู้จะเข้าหาเธอยังไง นิตานิ่งกว่าที่เขาคิดไว้และดูไร้อารมณ์มากขึ้นทุกวัน ‘นิตาเหนื่อยค่ะ ไว้ค่อยคุยกันดีกว่า’ ‘นิตาต้องรีบไปทำงานค่ะ ขอตัวนะคะ’ และอีกหลาย ๆ ประโยคที่เธอสรรหามาปฏิเสธเขาทำให้ชินไม่รู้จะทำยังไงต่อดี เหมือนเธอจงใจหลบหน้าเขาไม่มีผิด บรรยากาศในบ้านดูอึดอัดมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว “เฮ้อออ จะเข้าหายังไงเนี่ย” ชินได้แต่บ่นพึมพำอยู่คนเดียวบนโซฟากว้าง เดี๋ยวนี้เขากลับบ้านเร็วทุกวันและไม่ออกไปเที่ยวเล่นจนเจตต์แปลกใจ เพราะเวลาเพื่อเขาชวนทีไรชินก็ปฏิเสธทุกรอบ บรื้น..... เสียงรถที่แล่นมาจอดที่หน้าบ้านเรียกให้ชินลุกขึ้นยืนและตัดสินใจทำบางอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ร่างสูงเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านเพื่อออกไปรับภรรยาของตัวเองแต่สิ่งที่เขาได้เห็นคือชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังกอดกับนิตาอยู่หน้าบ้าน ชินที่เห็นภาพนั้นตำตาไม่รู้เลยว่าตัวเองก้าวเร็วแค่ไหนเพื่อเข้าไปประชิดตัวชายคนนั้น รู้ตัวอีกทีหมัดหนัก ๆ ของเขาก็พุ่งเข้าหน้าอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ พลั่ก! “คุณพศิณ!!” »»»»«««« ในช่วงหนึ่งเดือนมานี้พี่ชินทำตัวแปลก ๆ เขากลับบ้านเร็วทุกวันและดูเหมือนจะเลิกออกไปดื่มตอนกลางคืนด้วย มันทำให้ฉันแปลกใจเล็กน้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา “นิตา ฉันมีเรื่องจะคุย” “ไว้ก่อนนะคะ นิตาเหนื่อย” ฉันปฏิเสธเขาทุกครั้งเพราะไม่รู้ว่าเขาอยากจะพูดอะไรและฉันเองก็ไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรไปมากกว่านี้แล้ว จิตใจของฉันบอบช้ำและไม่สามารถรับคำพูดเลวร้ายของเขาได้อีกต่อไป ฉันแตกสลาย....จากข้างในจนลามมาข้างนอกด้วย.... “ขอโทษนะคะพี่ชิน ระหว่างเราเป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ” ฉันไปทำงานทุกวันและวันหยุดก็ไปหาเนเน่เพื่อบอกเรื่องแผนการที่วางเอาไว้ เนเน่ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้ขัดขวางเหมือนกัน วันนี้ก็เหมือนเดิม ฉันออกจากบ้านก่อนพี่ชินจะตื่นแต่สิ่งที่แปลกไปดูเหมือนว่าฉันจะป่วยเข้าให้แล้ว “อุ๊บบบ อุแหวะ....” ตื่นมาฉันก็เวียนหัวอย่างไม่ทราบสาเหตุแถมยังอ้วกไปหลายรอบก่อนออกจากบ้าน พอมาถึงที่ทำงานคุณพศิณเองก็สังเกตเห็นว่าฉันไม่ค่อยสบาย “นิตาครับ ไหวหรือเปล่า” “ฉันโอเคค่ะคุณศิณ” เราสองคนสนิทกันมากขึ้นแต่ก็แค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาคิดไปไกลมากกว่านั้นแต่เขาเองก็ไม่ได้มีท่าทีล้ำเส้นที่ฉันขีดไว้เหมือนกัน “พักผ่อนก่อนเถอะครับ คุณหน้าซีดมากเลยนะ” เขาพาฉันไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับออกไปชงเครื่องดื่มมาให้ ฉันเพลียมากจนห้ามเขาไม่ได้ก็เลยต้องปล่อยไป คุณพศิณกลับมาอีกครั้งพร้อมกับนมอุ่นในมือ “ดื่มนี่ก่อนครับเผื่อจะดีขึ้น” “ขอบคุณค่ะ อุ๊บบ!!” ฉันยกมือปิดจมูกพร้อมกับดันมือเขาออกไป กลิ่นของนมในแก้วทำฉันมวนท้องจนทนไม่ไหวต้องผุดลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออ้วกออกมา “อุแหวะ!!” อาหารเช้าที่กินเข้าไปถูกขย้อนออกมาจนหมดไม่มีเหลือ หลังจากการตัวเองเสร็จพอออกมาคุณพศิณก็ยืนทำหน้าเครียดอยู่หน้าห้องน้ำแล้ว “ไปโรงพยาบาลกันเถอะครับ อาการคุณไม่ดีเลย” ฉันหลับตาลงเพื่อข่มอาการอยากอาเจียนที่ตีขึ้นมาอีกรอบรวมทั้งอาการเวียนหัวด้วยก่อนพยายามส่งรอยยิ้มให้กับคุณพศิณแต่ดูเหมือนการหันหน้าหรือเคลื่อนไหวเร็ว ๆ จะทำให้หัวของฉันปวดมากกว่าเดิมอีก “ฉัน.....” “นิตา! นิตา!” ร่างบางหมดสติลงแทบจะทันทีถ้าไม่ได้พศิณช่วยจับเอาไว้เธอคงลงไปกองที่พื้นแล้ว เขาพยุงเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วเรียกชื่อเธอไม่หยุด ใบหน้าของนิตาขาวซีดจนแทบไร้สีเลือด “นิตาครับ!” พศิณอุ้มเธอขึ้นมาก่อนรีบพาเธอไปขึ้นรถโดยมีพนักงานในออฟฟิศช่วยเปิดทางให้ ทุกคนมีสีหน้าตกใจไม่แพ้กับพศิณเขาไม่เคยขับรถเร็วขนาดนี้มาก่อนในชีวิตนี่เป็นครั้งแรกเลย “คุณต้องไม่เป็นอะไรนะครับ” เขาพาเธอไปส่งจนถึงมือหมอแล้วนั่งรอหน้าห้องฉุกเฉินอย่างใจจดใจจ่อ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาหวาดกลัวมากขนาดนี้ กลัวว่าจะเสียเธอไป แกร๊ก “ญาติคุณนิตากานต์เชิญด้านในค่ะ” ร่างสูงลุกยืนพร้อมกับก้าวขายาว ๆ ตามพยาบาลเข้าไปในห้องทันที กลิ่นของยาฆ่าเชื้อในอากาศทำเขาอยากหนีออกไปแต่ก็ทำไม่ได้ เขาเกลียดโรงพยาบาลเพราะมันทำให้นึกถึงวันที่พ่อกับแม่จากไป “นิตาเป็นไงบ้างครับ โอเคขึ้นไหม บนเตียงคนไข้นิตาที่ฟื้นแล้วกำลังนั่งพิงหมอนอยู่ ใบหน้าเธอดูมีความกังวล สับสนและไม่อยากเชื่อปะปนอยู่ในตาคู่สวย “ฉันก็ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงดีเหมือนกันค่ะ” เขาขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปหาหมอที่นั่งอยู่ในห้องอีกฝ่ายยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใส “คุณนิตากานต์ไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่อ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อย ส่วนเรื่องอาเจียนก็เป็นอาการปกติของคุณแม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์ เดี๋ยวหมอจะสั่งยาให้นะคะ” “ครับ?” “ยินดีด้วยนะคะคุณพ่อ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วค่ะ” พศิณยืนนิ่งอึ้งเหมือนคนโง่ เขามองหมอสลับกับนิตาที่นั่งนิ่งไม่ต่างจากเขา ไม่รู้ว่าควรแก้ความเข้าใจผิดของหมอก่อนหรือปลอบโยนหญิงสาวบนเตียงก่อนดี “เอ่อ....” “งั้นหมอไม่รบกวนแล้วค่ะ ถ้าลุกไหวแล้วสามารถกลับได้เลยนะคะ ส่วนเรื่องยาเดี๋ยวหมอให้พยาบาลเอามาให้” “ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” »»»»«««« ในห้องผู้ป่วยตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง คุณพศิณทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงแล้วเงยหน้ามองฉันด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม อย่าว่าแต่เขาเลยฉันก็อยากถามตัวเองเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น....ฉันท้อง ท้องกับพี่ชินงั้นเหรอ?! “นิตาครับ....” “อย่าเพิ่งค่ะ....ขอฉันตั้งสติก่อน....” ฉันรู้ว่าเขามีคำถามแต่ฉันเองก็ไม่พร้อมจะตอบ เราออกจากโรงพยาบาลในเวลาหกโมงและกลับไปที่บริษัทเพื่อไปเอารถของฉัน “มั่นใจนะครับว่าขับไหว?” “ค่ะ ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” “งั้นขับดี ๆ นะครับ ถึงแล้วทักบอกผมได้จะดีมาก” “ได้ค่ะ” คุณพศิณเข้าใจดีเรื่องที่ฉันยังไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดในวันนี้ เขาไม่ก้าวก่ายและเป็นพื้นที่สบายใจของฉันเหมือนเดิม พอกลับถึงบ้านพี่ชินก็นั่งรอฉันอยู่บนโซฟาเหมือนเดิม “นิตา....” “ขอโทษนะคะพี่ชิน นิตาเหนื่อยมากเลยค่ะขอตัวนะคะ” ฉันรีบเดินกลับไปห้องนอนของตัวเอง ปิดประตูและล็อคไว้ให้แน่นหนาแม้รู้ว่ายังไงเขาก็คงไม่ตามมาเหมือนกับทุกครั้งแล้วทิ้งตัวนั่งกอดเข่าไว้ “ลูกงั้นเหรอ ผิดเวลาไปหน่อยนะเจ้าตัวเล็ก” ฉันลูบหน้าท้องเบา ๆ มันยังคงแบนราบและไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว ครั้งหนึ่งฉันเคยคิดว่าถ้าฉันท้องมันคงจะเปลี่ยนอะไรระหว่างฉันกับพี่ชินไปได้บ้างแต่มาตอนนี้บอกตรง ๆ ว่าไม่มั่นใจเลย “น่าจะได้เวลาต้องจากกันแล้วล่ะคะพี่ชิน จะให้เด็กคนนี้เป็นสาเหตุที่พี่ผูกติดกับนิตาคงไม่ได้” ถึงแม้จะคิดไว้แล้วว่ามันนี้จะต้องมาถึงแต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ฉันพยายามทำตัวปกติทุกอย่างและออกไปทำงานตามปกติ พี่ชินไม่รู้เรื่องที่ฉันกำลังท้องลูกของเขาซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี จนกระทั่งผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์วันที่ฉันกับพี่ชินต้องแยกจากกันก็มาถึง.... รถของฉันที่อาการไม่ดีมาตั้งแต่ครั้งก่อนดันมาเสียตอนที่ฉันกำลังจะกลับ คุณพศิณเลยอาสามาส่งเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้เขาห่วงฉันที่หน้ามืดบ่อยเลยลงมาช่วยพยุงให้ “ค่อย ๆ เดินนะครับ” แม้จะระวังมากแค่ไหนแต่อาการแพ้ท้องก็ไม่หายไป ฉันเสียหลักจะล้มและได้คุณพศิณช่วยจับเอาไว้ให้ ในตอนที่กำลังจะหันไปขอบคุณเขาใบหน้าที่โกรธจัดของพี่ชินก็ผ่านตาฉันไปพร้อมกับเสียงหมัดหนัก ๆ อัดเข้าที่ใบหน้าของคุณพศิณจนเขาลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้น พลั่ก! “คุณพศิณ!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD