ร่างบางที่ดูซูบผอมลงไปถนัดตาสะกิดใจชินเข้าอย่างจัง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาปล่อยปละละเลยเธอ? ที่เขาทำมันทั้งหมดเพื่ออะไรกัน?
ทำไมเขาโกรธเธอขนาดนั้น
ทำไมถึงได้คิดว่าเด็กสาวที่เติบโตมากับเขาจะทำเรื่องแบบนั้นลงไปได้?
ทำไม....เขาถึงไม่คิดจะฟังเธอเลย.....
ชินเองก็ไม่เข้าใจตัวเองแม้แต่นิดเดียวว่าเขาเป็นอะไรไป ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาพร้อมกันจนเขาตั้งรับไม่ทัน ความโกรธ ความเสียใจทั้งหมดที่มีเขาเอามันไปลงกับเธองั้นเหรอ
“นิตา”
เขายื่นมือออกไปพร้อมกับเรียกชื่อเธอแต่ดูเหมือนนิตาจะไม่ได้ยิน เธอไม่แม้แต่จะหันหลังมามองหน้าเขาด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเธอไม่ได้ยินที่เขาเรียกหรือว่า....
เสียงของเขาไปไม่ถึงเธอแล้ว.....
“อาา....”
แม้มันจะเป็นแค่การเดินกลับห้องพักตามปกติแต่ชินสัมผัสได้ว่าระหว่างเขากับนิตามีกำแพงบาง ๆ ที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ กำแพงที่เขาอาจจะฝ่าไปไม่ได้ กำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาเอง
“พ่อครับ ผมควรจะทำยังไงดี....”
ชินรู้ตัวแล้วว่าเขาเป็นคนทำมันพังทุกอย่าง ความไร้สติของเขาได้ทำลายผู้หญิงคนหนึ่งให้แตกสลาย ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่เขาจะพูดกับเธอดี ๆ
“ผมเสียใจ.....”
ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไปแต่เขาจะแก้ไขมันยังไงล่ะ? ถ้าขอโอกาสจากเธอมันจะยังมีอยู่หรือเปล่า? ที่ผ่านมาเธอต้องอดทนกับคำพูดของเขามากตั้งเท่าไหร่แล้ว
แก้วที่แตกไปต่อให้หยิบขึ้นมาประกอบใหม่มันก็จะมีรอยร้าวเหมือนเดิม ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากแก้ว บอบบาง แตกง่ายและไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม
“ต้องทำยังไงดีเธอถึงจะกลับมาร่าเริง นิตา”
1 เดือนต่อมา
ถึงชินจะรู้ตัวแล้วว่าเขาผิดไปแต่เขาก็ไม่รู้จะเข้าหาเธอยังไง นิตานิ่งกว่าที่เขาคิดไว้และดูไร้อารมณ์มากขึ้นทุกวัน
‘นิตาเหนื่อยค่ะ ไว้ค่อยคุยกันดีกว่า’
‘นิตาต้องรีบไปทำงานค่ะ ขอตัวนะคะ’
และอีกหลาย ๆ ประโยคที่เธอสรรหามาปฏิเสธเขาทำให้ชินไม่รู้จะทำยังไงต่อดี เหมือนเธอจงใจหลบหน้าเขาไม่มีผิด บรรยากาศในบ้านดูอึดอัดมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
“เฮ้อออ จะเข้าหายังไงเนี่ย”
ชินได้แต่บ่นพึมพำอยู่คนเดียวบนโซฟากว้าง เดี๋ยวนี้เขากลับบ้านเร็วทุกวันและไม่ออกไปเที่ยวเล่นจนเจตต์แปลกใจ เพราะเวลาเพื่อเขาชวนทีไรชินก็ปฏิเสธทุกรอบ
บรื้น.....
เสียงรถที่แล่นมาจอดที่หน้าบ้านเรียกให้ชินลุกขึ้นยืนและตัดสินใจทำบางอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ร่างสูงเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านเพื่อออกไปรับภรรยาของตัวเองแต่สิ่งที่เขาได้เห็นคือชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังกอดกับนิตาอยู่หน้าบ้าน
ชินที่เห็นภาพนั้นตำตาไม่รู้เลยว่าตัวเองก้าวเร็วแค่ไหนเพื่อเข้าไปประชิดตัวชายคนนั้น รู้ตัวอีกทีหมัดหนัก ๆ ของเขาก็พุ่งเข้าหน้าอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ
พลั่ก!
“คุณพศิณ!!”
»»»»««««
ในช่วงหนึ่งเดือนมานี้พี่ชินทำตัวแปลก ๆ เขากลับบ้านเร็วทุกวันและดูเหมือนจะเลิกออกไปดื่มตอนกลางคืนด้วย มันทำให้ฉันแปลกใจเล็กน้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา
“นิตา ฉันมีเรื่องจะคุย”
“ไว้ก่อนนะคะ นิตาเหนื่อย”
ฉันปฏิเสธเขาทุกครั้งเพราะไม่รู้ว่าเขาอยากจะพูดอะไรและฉันเองก็ไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรไปมากกว่านี้แล้ว จิตใจของฉันบอบช้ำและไม่สามารถรับคำพูดเลวร้ายของเขาได้อีกต่อไป
ฉันแตกสลาย....จากข้างในจนลามมาข้างนอกด้วย....
“ขอโทษนะคะพี่ชิน ระหว่างเราเป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ”
ฉันไปทำงานทุกวันและวันหยุดก็ไปหาเนเน่เพื่อบอกเรื่องแผนการที่วางเอาไว้ เนเน่ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้ขัดขวางเหมือนกัน
วันนี้ก็เหมือนเดิม ฉันออกจากบ้านก่อนพี่ชินจะตื่นแต่สิ่งที่แปลกไปดูเหมือนว่าฉันจะป่วยเข้าให้แล้ว
“อุ๊บบบ อุแหวะ....”
ตื่นมาฉันก็เวียนหัวอย่างไม่ทราบสาเหตุแถมยังอ้วกไปหลายรอบก่อนออกจากบ้าน พอมาถึงที่ทำงานคุณพศิณเองก็สังเกตเห็นว่าฉันไม่ค่อยสบาย
“นิตาครับ ไหวหรือเปล่า”
“ฉันโอเคค่ะคุณศิณ”
เราสองคนสนิทกันมากขึ้นแต่ก็แค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาคิดไปไกลมากกว่านั้นแต่เขาเองก็ไม่ได้มีท่าทีล้ำเส้นที่ฉันขีดไว้เหมือนกัน
“พักผ่อนก่อนเถอะครับ คุณหน้าซีดมากเลยนะ”
เขาพาฉันไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับออกไปชงเครื่องดื่มมาให้ ฉันเพลียมากจนห้ามเขาไม่ได้ก็เลยต้องปล่อยไป คุณพศิณกลับมาอีกครั้งพร้อมกับนมอุ่นในมือ
“ดื่มนี่ก่อนครับเผื่อจะดีขึ้น”
“ขอบคุณค่ะ อุ๊บบ!!”
ฉันยกมือปิดจมูกพร้อมกับดันมือเขาออกไป กลิ่นของนมในแก้วทำฉันมวนท้องจนทนไม่ไหวต้องผุดลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออ้วกออกมา
“อุแหวะ!!”
อาหารเช้าที่กินเข้าไปถูกขย้อนออกมาจนหมดไม่มีเหลือ หลังจากการตัวเองเสร็จพอออกมาคุณพศิณก็ยืนทำหน้าเครียดอยู่หน้าห้องน้ำแล้ว
“ไปโรงพยาบาลกันเถอะครับ อาการคุณไม่ดีเลย”
ฉันหลับตาลงเพื่อข่มอาการอยากอาเจียนที่ตีขึ้นมาอีกรอบรวมทั้งอาการเวียนหัวด้วยก่อนพยายามส่งรอยยิ้มให้กับคุณพศิณแต่ดูเหมือนการหันหน้าหรือเคลื่อนไหวเร็ว ๆ จะทำให้หัวของฉันปวดมากกว่าเดิมอีก
“ฉัน.....”
“นิตา! นิตา!”
ร่างบางหมดสติลงแทบจะทันทีถ้าไม่ได้พศิณช่วยจับเอาไว้เธอคงลงไปกองที่พื้นแล้ว เขาพยุงเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วเรียกชื่อเธอไม่หยุด ใบหน้าของนิตาขาวซีดจนแทบไร้สีเลือด
“นิตาครับ!”
พศิณอุ้มเธอขึ้นมาก่อนรีบพาเธอไปขึ้นรถโดยมีพนักงานในออฟฟิศช่วยเปิดทางให้ ทุกคนมีสีหน้าตกใจไม่แพ้กับพศิณเขาไม่เคยขับรถเร็วขนาดนี้มาก่อนในชีวิตนี่เป็นครั้งแรกเลย
“คุณต้องไม่เป็นอะไรนะครับ”
เขาพาเธอไปส่งจนถึงมือหมอแล้วนั่งรอหน้าห้องฉุกเฉินอย่างใจจดใจจ่อ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาหวาดกลัวมากขนาดนี้ กลัวว่าจะเสียเธอไป
แกร๊ก
“ญาติคุณนิตากานต์เชิญด้านในค่ะ”
ร่างสูงลุกยืนพร้อมกับก้าวขายาว ๆ ตามพยาบาลเข้าไปในห้องทันที กลิ่นของยาฆ่าเชื้อในอากาศทำเขาอยากหนีออกไปแต่ก็ทำไม่ได้ เขาเกลียดโรงพยาบาลเพราะมันทำให้นึกถึงวันที่พ่อกับแม่จากไป
“นิตาเป็นไงบ้างครับ โอเคขึ้นไหม
บนเตียงคนไข้นิตาที่ฟื้นแล้วกำลังนั่งพิงหมอนอยู่ ใบหน้าเธอดูมีความกังวล สับสนและไม่อยากเชื่อปะปนอยู่ในตาคู่สวย
“ฉันก็ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงดีเหมือนกันค่ะ”
เขาขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปหาหมอที่นั่งอยู่ในห้องอีกฝ่ายยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใส
“คุณนิตากานต์ไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่อ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อย ส่วนเรื่องอาเจียนก็เป็นอาการปกติของคุณแม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์ เดี๋ยวหมอจะสั่งยาให้นะคะ”
“ครับ?”
“ยินดีด้วยนะคะคุณพ่อ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วค่ะ”
พศิณยืนนิ่งอึ้งเหมือนคนโง่ เขามองหมอสลับกับนิตาที่นั่งนิ่งไม่ต่างจากเขา ไม่รู้ว่าควรแก้ความเข้าใจผิดของหมอก่อนหรือปลอบโยนหญิงสาวบนเตียงก่อนดี
“เอ่อ....”
“งั้นหมอไม่รบกวนแล้วค่ะ ถ้าลุกไหวแล้วสามารถกลับได้เลยนะคะ ส่วนเรื่องยาเดี๋ยวหมอให้พยาบาลเอามาให้”
“ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ”
»»»»««««
ในห้องผู้ป่วยตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง คุณพศิณทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงแล้วเงยหน้ามองฉันด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม อย่าว่าแต่เขาเลยฉันก็อยากถามตัวเองเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น....ฉันท้อง ท้องกับพี่ชินงั้นเหรอ?!
“นิตาครับ....”
“อย่าเพิ่งค่ะ....ขอฉันตั้งสติก่อน....”
ฉันรู้ว่าเขามีคำถามแต่ฉันเองก็ไม่พร้อมจะตอบ เราออกจากโรงพยาบาลในเวลาหกโมงและกลับไปที่บริษัทเพื่อไปเอารถของฉัน
“มั่นใจนะครับว่าขับไหว?”
“ค่ะ ไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
“งั้นขับดี ๆ นะครับ ถึงแล้วทักบอกผมได้จะดีมาก”
“ได้ค่ะ”
คุณพศิณเข้าใจดีเรื่องที่ฉันยังไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดในวันนี้ เขาไม่ก้าวก่ายและเป็นพื้นที่สบายใจของฉันเหมือนเดิม พอกลับถึงบ้านพี่ชินก็นั่งรอฉันอยู่บนโซฟาเหมือนเดิม
“นิตา....”
“ขอโทษนะคะพี่ชิน นิตาเหนื่อยมากเลยค่ะขอตัวนะคะ”
ฉันรีบเดินกลับไปห้องนอนของตัวเอง ปิดประตูและล็อคไว้ให้แน่นหนาแม้รู้ว่ายังไงเขาก็คงไม่ตามมาเหมือนกับทุกครั้งแล้วทิ้งตัวนั่งกอดเข่าไว้
“ลูกงั้นเหรอ ผิดเวลาไปหน่อยนะเจ้าตัวเล็ก”
ฉันลูบหน้าท้องเบา ๆ มันยังคงแบนราบและไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว ครั้งหนึ่งฉันเคยคิดว่าถ้าฉันท้องมันคงจะเปลี่ยนอะไรระหว่างฉันกับพี่ชินไปได้บ้างแต่มาตอนนี้บอกตรง ๆ ว่าไม่มั่นใจเลย
“น่าจะได้เวลาต้องจากกันแล้วล่ะคะพี่ชิน จะให้เด็กคนนี้เป็นสาเหตุที่พี่ผูกติดกับนิตาคงไม่ได้”
ถึงแม้จะคิดไว้แล้วว่ามันนี้จะต้องมาถึงแต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ฉันพยายามทำตัวปกติทุกอย่างและออกไปทำงานตามปกติ พี่ชินไม่รู้เรื่องที่ฉันกำลังท้องลูกของเขาซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี จนกระทั่งผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์วันที่ฉันกับพี่ชินต้องแยกจากกันก็มาถึง....
รถของฉันที่อาการไม่ดีมาตั้งแต่ครั้งก่อนดันมาเสียตอนที่ฉันกำลังจะกลับ คุณพศิณเลยอาสามาส่งเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้เขาห่วงฉันที่หน้ามืดบ่อยเลยลงมาช่วยพยุงให้
“ค่อย ๆ เดินนะครับ”
แม้จะระวังมากแค่ไหนแต่อาการแพ้ท้องก็ไม่หายไป ฉันเสียหลักจะล้มและได้คุณพศิณช่วยจับเอาไว้ให้ ในตอนที่กำลังจะหันไปขอบคุณเขาใบหน้าที่โกรธจัดของพี่ชินก็ผ่านตาฉันไปพร้อมกับเสียงหมัดหนัก ๆ อัดเข้าที่ใบหน้าของคุณพศิณจนเขาลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
พลั่ก!
“คุณพศิณ!!”