16 เรื่องจริงที่เกิดขึ้น

1801 Words
สองปีก่อนหน้า “เวลาเสียชีวิต.....” “คุณหมอคะ! ชีพจรกลับมาแล้วค่ะ! ของเด็กก็ด้วย” หมอที่กำลังจะจดบันทึกเวลาเสียชีวิตของนิตาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบทำการรักษาต่อ ในห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยความวุ่นวายอีกพักใหญ่เพื่อยื้อชีวิตแม่และเด็กเอาไว้ “เลือดในช่องท้องหยุดไหลแล้วค่ะ!” “ความดันกับชีพจรปกติค่ะ” “อย่าเพิ่งวางใจนะทุกคน คนไข้สู้สุดใจแล้วที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเรา จะต้องช่วยเอาไว้ให้ได้!” “ค่ะคุณหมอ!” “ไปเอาถุงเลือดสำรองมาเพิ่มด้วยนะคะ” ความมุ่งมั่นของหมอที่จะรักษาคนไข้กับความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ของนิตากับลูกก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ จากที่หมดหวังไปแล้วทุกคนในห้องผ่าตัดกลับมาเปี่ยมด้วยความหวังอีกครั้ง “สัญญาณชีพคงที่แล้วค่ะ ไม่พบอาการแทรกซ้อนอื่น ๆหัวใจเด็กก็เต้นปกติค่ะ” “เตรียมปิดแผลได้เลยค่ะ เราช่วยทั้งคู่ไว้ได้แล้ว” ในห้องผ่าตัดทุกคนต่างดีใจกันถ้วนหน้าที่ช่วยชีวิตทั้งสองคนเอาไว้ได้ คุณหมอสาวเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความอ่อนเพลียเล็กน้อย พศิณที่นั่งรออยู่ผุดลุกขึ้นทันทีที่เห็นหมอ หัวใจเขาเต้นอย่างบ้าคลั่งเพราะห่วงหญิงสาวในห้องแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนที่เป็นทั้งเพื่อนและหมอเจ้าของไข้เขาก็เบาใจลงไปได้นิดหน่อย “ปลอดภัยแล้ว หัวใจหยุดเต้นไปสองนาทีแต่เธอกลับมาได้” “แล้วเด็กล่ะ” “สู้เหมือนแม่เลยล่ะ” “เฮ้อออ” เขาทิ้งตัวนั่งด้วยความโล่งใจก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาทั้งลูกออกจากอกไม่มีผิด “ขอบใจนะยัยหมอ” “หน้าที่ฉันอยู่แล้ว ว่าแต่สามีคนไข้ล่ะ ไม่เห็นเลยนะ” “ฉันยังไม่ได้โทรไปบอกแกก็อย่าเพิ่งโทรบอกนะ ฉันมีเรื่องจะขอร้อง” เขารีบพูดก่อนที่หมอจะบ่นเขาและอธิบายเหตุผลให้เธอฟังคร่าว ๆ ตอนแรกเธอจะไม่ยอมเพราะติดเรื่องจรรยาบรรณของแพทย์แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะคนที่ต้องแจ้งข่าวการตายของ นิตาไม่ใช่เธอ “แกเล่นบ้าอะไรศิณ? นั่นครอบครัวของเธอนะ รอให้ฟื้นมาจัดการเองไม่ดีกว่าเหรอ” แพทย์หญิงปันปันหรืออืกชื่อแพทย์หญิงปัญจนิช เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์นัก “แต่นี่นิตาเป็นคนคิดไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ เธอต้องการจะไปจากเขาแบบไร้ร่องรอยอยู่แล้ว นี่เป็นโอกาสที่ทั้งคู่จะได้เป็นอิสระ” “อิสระ? ไม่ใช่ว่านายชอบเธอจนอยากให้ทั้งคู่เลิกกันหรือไงศิณ? เห็นแววตาแกฉันก็รู้แล้วว่าแกหลงรักเธอ” “....” พศิณพูดไม่ออกเพราะมันจริงที่ว่าเขาชอบเธอแต่เขาไม่ได้อยากทำลายครอบครัวใคร นี่เป็นสิ่งที่นิตาเคยขอไว้คำพูดของเธอที่คุยกันตอนอยู่ร้านอาหารเขายังจำมันได้ดี ‘ฉันอยากหนีจากเขาค่ะ อยากคืนอิสระให้เขาและไม่อยากเกี่ยวของกับพี่ชินอีกต่อไปแล้ว’ แววตาของเธอตอนที่พูดประโยคนี้เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นิตามองหาโอกาสมาตลอดแต่ก็ไม่เคยมีเลย อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ทั้งสองจะได้ปล่อยมือจากกัน “ปัน ฉันไม่เถียงที่ว่าฉันชอบเธอแต่ฉันไม่ใช่คนหลงผิดที่อยากทำลายครอบครัวคนอื่นนะ ขอร้องล่ะแค่ครั้งเดียวช่วยหน่อยเถอะ” “ไม่มีทาง!” “ปัน เดี๋ยวพี่คุยเอง” เสียงของชายอีกคนพูดขึ้นด้านหลังของเธอ ปันปันหันไปมองแล้วถอนหายใจยาว ๆ ออกมา “พี่พิชญ์.....” “ไอ้พิชญ์” “มึงกับกูค่อยคุยกัน กูเคลียร์กับเมียก่อน” ณพิชญ์ลากปันปันออกมาคุยที่อีกมุม เขาเกลี้ยกล่อมภรรยาอยู่นานสองนานก่อนสุดท้ายปันปันจะเดินหนีไป ณพิชญ์เดินยักไหล่เข้ามาหาเพื่อนสนิทก่อนจะบอกว่าเขาจะจัดการเรื่องที่เหลือเอง “ไปอยู่กับเธอเถอะ ที่เหลือกูจัดการเอง” “ขอบใจมากไอ้พิชญ์” พศิณกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายก่อนจะเดินตามรถเข็นคนไข้ที่ออกมาพอดีปล่อยให้เพื่อนจัดการเรื่องทุกอย่างให้และหลังจากที่ดูว่านิตาพักฟื้นอยู่ห้องไหนเขาก็กลับมาหน้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง “นานแล้วนะที่ไม่ได้เห็นนายใส่ชุดกาวน์แบบนี้ ท่านผู้อำนวยการ” “หุบปากไปเลยไอ้ศิณ กูโทรบอกสามีของคนไข้แล้ว เดี๋ยวคงมาถึง” ยังพูดไม่ทันจบประโยคดีหางตาของพศิณก็เห็นร่างที่คุ้นเคยวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา พศิณเดินเข้าไปหาชินก่อนจะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าคุณจะต้องเสียใจ หลังจากนี้ก็อยู่กับความรู้สึกผิดของตัวเองไปเถอะ” ณพิชญ์จัดการหาศพไร้ญาติที่หุ่นใกล้เคียงกับนิตามาให้ เธอเสียโฉมจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เหมือนกันเลยทำให้ชินไม่สงสัยอะไร ตอนงานศพพศิณก็ไปร่วมงานด้วยเพื่อดูว่าชินเป็นยังไงบ้าง เขารู้สึกผิดต่อชายหนุ่มไม่น้อยแต่เขาเองก็ไม่อยากเห็นนิตาเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว กว่านิตาจะฟื้นงานศพของเธอก็ผ่านไปสามวันแล้ว คนแรกที่เธอได้เจอก็คือพศิณ เขาคอยอยู่ดูแลนิตาอย่างใกล้ชิดไม่ยอมห่างไปไหนพร้อมทั้งเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง นิตาไม่ได้ต่อว่าอะไรพศิณที่ทำแบบนั้นลงไป ยังไงซะผลลัพธ์มันก็ออกมาดีกว่าแผนที่เธอคิดไว้ซะอีกพอถึงวันที่ต้องเผาศพของเธอนิตาก็ขอออกมาดูหน้าชินเป็นครั้งสุดท้าย “ค่อย ๆ เดินนะครับ อาการคุณยังไม่ดีเท่าไหร่เลย หรือจะพิงผมไว้ก็ได้” “ขอบคุณนะคะ” เธอยืนมองชินที่ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจจากที่ไกล ๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบกลับไปขึ้นรถ มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ชินเดินมาตรงที่เธอเคยยืนอยู่ข้างพศิณ หลังจากนั้นนิตาก็อยู่ใต้การดูแลของพศิณมาเรื่อย ๆ เขาจัดการที่พักให้และพาเธอไปส่งถึงที่พร้อมทั้งจัดการพาเธอไปฝากครรภ์ด้วยตัวเอง บ้านที่เขาเลือกอยู่ในจังหวัดระยอง เป็นบ้านที่หลังไม่ได้ใหญ่โตมากแต่มันก็ทำให้นิตาอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ พอออกจากโรงพยาบาลเธอก็ย้ายไปอยู่ที่นั่นทันที “ผมจะหมั่นมาหานะครับ ถ้าขาดเหลืออะไรบอกได้เลยนะ” เขาบอกเธอและทำตามที่พูดจริง ๆ พศิณแวะมาทุกอาทิตย์พร้อมทั้งของสำหรับทารกน้อยในครรภ์ สภาพจิตใจนิตาดีขึ้นทุกวันเพราะความเอาใจใส่ของพศิณ เขาเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับเธอจริง ๆ ยิ่งช่วงนิตาใกล้คลอดเขายิ่งมาอยู่ใกล้ ๆ คอยช่วยเหลือเธอที่ท้องแก่เต็มที คนที่อุ้มเธอมาโรงพยาบาลกลางดึกก็เป็นเขาอีกเหมือนเดิม ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเธอได้พศิณช่วยไว้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขานิตาก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี “พี่ศิณ” “ครับ?” “ขอบคุณมากนะคะ ตลอดสองปีมานี้พี่ทำเพื่อนิตากับลูกมากจริง ๆ” “พี่เต็มใจเสมอครับ อย่าคิดมากนะ” “คุมลุงๆๆ อุ้มๆๆ” “ตัวแสบของลุง เย็นนี้กินอะไรดีครับ?” “เค้กค่าาาา” “ไม่ได้ ๆ ต้องกินข้าวก่อนสิ เดี๋ยวลุงพาไปเดินเล่นริมหาดแล้วเรามากินข้าวเย็นกันดีไหม?” “ดีลค่าาาา” นิตามองภาพตรงหน้าด้วยความสุขใจ ตั้งแต่มีนิรินชีวิตเธอก็มีสีสันมากขึ้น นิรินเป็นทุกอย่างในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ “อย่ากลับค่ำกันมากนะคะ” “คร้าบบบ/ค่าาาา” บ้านหลังนี้อยู่ติดหาดส่วนตัวนิตาเลยไม่ค่อยกังวลอะไรมาก อีกอย่างก็มีพศิณช่วยดูแลนิรินให้ด้วยเธอเลยเข้าครัวไปทำอาหารแทน “เล่นกันทั้งวันแบบนี้หิวโซทั้งลุงทั้งหลานแน่ ๆ เลย” »»»»«««« ประธานหนุ่มปิดแฟ้มเอกสารลงก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ทำงานด้วยความเหนื่อยล้า พวกผู้ถือหุ้นชุดก่อนหน้านี้ทิ้งปัญหาไว้ให้เขาแก้มากมายจนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย “เฮ้อออ ไอ้พวกแก่กะโหลกกะลานั่นแม้แต่โดนจัดการไปแล้วก็ยังทิ้งปัญหาไว้ให้อีกนะ บ้าจริง ๆ เลย!” “บ่นไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอกค่ะ ดื่มนี่ก่อนสิคะท่านประธาน” พรีมที่อยู่ช่วยงานเขาเข้ามาพร้อมกับชาคาโมมายด์และของทานเล่นอีกนิดหน่อย เธอวางมันลงบนโต๊ะทำงานกว้างแล้วถอยออกมายกแฟ้มที่ทำเสร็จแล้วไปเก็บเข้าที่ไว้ “ขอบคุณครับ” “อย่าลืมโอทีสามเท่านะคะ” เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแซว ๆ แล้วรีบถือแฟ้มงานออกไปด้วย ชินหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะหยิบมือถือที่สั่นอย่างบ้าคลั่งออกมาดู “หืมม ไอ้เจตต์เหรอ ส่งอะไรมาเยอะแยะว่ะ....” “ประธานจะรับมือเย็นเลยไหมคะ?” “ไว้ก่อนครับ ผม....” เสียงตอบรับที่ขาดหายไปทำให้พรีมโผล่หน้าเข้ามาดูด้วยความสงสัย เธอเห็นชินเบิกตากว้างราวกับกำลังตกใจอะไรสักอย่าง สายตาเขาจับจ้องไปที่มือถือเครื่องเล็ก มือหนาสั่นเทาจนสังเกตเห็นได้ “ท่านประธานเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ” “โกหกน่า....” “คุณชิน?” ชินเหมือนจะไม่ได้ยินที่พรีมพูด สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์หลายหลาย ทั้งดีใจ ทั้งตกใจ ทั้งรู้สึกผิด “เธอยังไม่ตายงั้นเหรอ นิตา ยังมีชีวิตอยู่!” เขาคล้ายกับคนที่สติกำลังจะหลุดหายไปจนพรีมอดกังวลไม่ได้ ก่อนที่เขาจะทำอะไรบ้า ๆ ลงไปเธอก็ตบหน้าเขาเบา ๆ เพื่อดึงสติ “ตั้งสติค่ะ คุณชิน!” แรงตบนั้นมากพอที่จะดึงให้เขามีสติกลับมาได้ เขามองเธอสลับกับหน้าจอด้วยความงุนงง แชทของเจตต์ยังคงถูกเปิดทิ้งไว้ ในนั้นมีประโยคที่ทำให้เขาใจเต้นแรงปรากฏอยู่ ‘กูเจอนิตาที่นี่กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง นิตายังไม่ตายและลูกของมึงก็อาจยังไม่ตายด้วย’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD