บทที่1

2040 Words
บทที่1 ปัจจุบัน หลังจากวันนั้นที่ฉันบอกเพื่อนไปว่าฉันจะจีบเขาถ้าหากเจอกันอีกครั้ง...เชื่อไหมว่าพระเจ้าเข้าข้างผู้หญิงหน้าตาดีอย่างฉันแค่ไหน พระเจ้าทำให้ฉันกับเขาได้พบเจอกันอีกครั้ง และการพบเจอกันอีกครั้งก็ทำให้ฉันอยากกรี๊ดมาก เขาเป็นเพื่อนสนิทของแฟนเพื่อนฉัน ไม่ใช่ยัยบุ๋มนะ แต่เป็นเพื่อนเรียนแพทย์ด้วยกันอย่างน้ำพิ้งค์ เพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันตอนเปิดเทอมวันแรกๆ เลย และใช่ค่ะ เขาเรียนวิศวะอยู่ชั้นปีที่สาม เป็นพี่วินัยคณะหรือที่รู้จักกันในนามพี่ว้ากนั่นแหละ เรื่องนี้ฉันก็รู้มาจากเพื่อนนี่แหละ เพราะชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยถามประวัติคร่าวๆ พร้อมกับจองตัวพี่เขาไว้เลยว่าฉันจะจีบเขา ห้ามใครมาจีบแข่งกับฉันเด็ดขาด ไม่งั้นได้หยุมหัวกับฉันแน่ หลังจากตีตราพี่เขาเสร็จ จากวันนั้นฉันก็เริ่มหาคอนแทกต์กับพี่เขา ฉันได้ไลน์พี่เขาจากเพื่อนที่เรียนวิศวะ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ไลน์เขานะ ฉันต้องเสียเงินจ้างเพื่อนให้ไปตีสนิทแล้วเอาไลน์มาด้วยซ้ำ พอได้มาก็เริ่มทักหาเขาทันที ตอนทักหาครั้งแรกฉันทักไปถามความชัวร์ก่อนว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่า เนื่องจากก่อนหน้านั้นยัยน้ำพิ้งค์มันบอกว่าพี่ชายของมันก็คือพี่ทามไทที่มันโกหกพวกฉันตอนนั้นว่าเป็นพี่ชายได้เป็นเกย์ ฉันเลยเริ่มไม่มั่นใจในตัวพ่อเทพบุตรของฉัน ก็เลยทักถามให้เคลียร์เลย และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันกับเขาได้คุยกันและคุยกันมาเรื่อย ๆ จนถึงตอนนี้ อันที่จริงต้องบอกว่ามีแค่ฉันเท่านั้นแหละที่เข้าหาเขาอะ ก็ฉันบอกไปแล้วว่าจะจีบเขา ฉันเลยต้องรุกเป็นพิเศษเพื่อที่จะทำให้ตัวเองได้ไปวิ่งเล่นในใจเขาให้ได้ แต่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ผ่านทั้งเรื่องของยัยน้ำพิ้งค์กับพี่ทาม ผ่านทั้งเรื่องยัยสวยกับพี่เธียร มันก็ยังไม่มีวี่แววว่าพี่เขาจะโอนอ่อนให้ฉันบ้างเลย ใช่ ฉันจีบเขาขนาดนี้ รุกเขา เข้าหาเขาทุกรูปแบบขนาดนี้ เขาก็ยังคงนิ่งเฉยกับฉันเหมือนเดิม แต่เอาเถอะ ชอบเขาก็ต้องสู้ปะวะ เพื่อผู้ชายอีพริกคนนี้สู้ตายเสมอ ตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นแฟนก็ไม่ถอยไปง่ายๆ หรอกเว้ย! "พี่ทามให้กูไปหาที่คณะอะ มีใครอยากไปด้วยไหม" "กูค่ะ กูขอไปด้วย" ฉันรีบยกมือทันทีที่น้ำพิ้งค์มันเอ่ยถามว่ามีใครจะไปคณะวิศวะกับมันบ้าง พร้อมกับลุกขึ้นเก็บข้าวของพวกหนังสงหนังสือที่อยู่บนโต๊ะเข้ากระเป๋าให้เรียบร้อยอย่างเสร็จสรรพ คิดดูละกันว่าพอเป็นเรื่องของเขาฉันพร้อมแค่ไหน "ไปหาพี่โยธาเหรอวะ" "ก็เออสิ คนเดียวที่กล้าทำให้กูไปเหยียบที่นั่นได้ ก็มีแค่พี่โยธาปะ" เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันอยากไปคณะวิศวะที่รายล้อมไปด้วยผู้ชายน่ากลัวก็มีแค่พี่โยธาเท่านั้นแหละ และใช่ค่ะ เขาชื่อโยธา...โยธา ศรัณย์วริศ วิศเวศ หนุ่มหล่อหน้าตาดีมาก มากมายไปด้วยเสน่ห์อันล้นเหลือ รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หน้าใสไร้สิว นิ้วเรียวสวยดั่งรูปปั้นกรีก ที่สำคัญเขาตัวหอมมากเหมือนอาบน้ำทุกวินาที แถมฐานะทางบ้านค่อนข้างร่ำรวยจัด ขับปอร์เช่สีขาวมาเรียน อาศัยอยู่ที่คอนโดหลายสิบล้านแถวย่านคนรวย หึ เป็นไงละ อึ้งเลยอะดิที่เขาทั้งหล่อและรวยปานนั้น "เหนื่อยบ้างไหมที่จีบเขาอยู่คนเดียวเนี่ย" ยัยสวยที่นั่งพิงกอดอกอยู่บนเก้าอี้ถามฉัน ยัยนี้ไม่รู้อะไรเสียละ "เหนื่อยอะไร เรียนยังเหนื่อยกว่าเลย แค่นี้จิบๆ" ใช่ เรียนหนังสือยังเหนื่อยกว่าเลย ในแต่ละวันฉันต้องจำอะไรมากมายไม่รู้กี่อย่างยัดเข้าไปในสมองอันน้อยนิดของตัวเอง ไหนจะวิชานั่น วิชานี่ จีบพี่โยธาคือเบาไปเลยค่ะ ไม่ต้องจำอะไรมากมายจำแค่หน้าหล่อๆ ของพี่เขาก็พอ งื้อ~ พูดแล้วก็คิดถึง "กูละเชื่อมึงเลย ทีกับการเรียนมึงบ่นเหนื่อยทุกวัน แต่พอเรื่องพี่โยธาเนี่ย เขาทั้งเมิน เขาทั้งเงียบใส่ ตอบแชทบ้างไม่ตอบบ้าง แต่มึงไม่เคยย่อท้อเลยเนอะ" "ก็กูชอบเขา มันมีอะไรให้กูต้องยอมไหมล่ะ ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นกูก็ไม่ถอยค่ะ เดินหน้าจีบต่อไป ไปค่ะ คิดถึงผัวแล้วอะ" "เหอะ! เป็นแฟนให้ได้ก่อนเถอะมึง" "I don't care because i want him" พูดจบฉันก็สะบัดบ๊อบใส่ยัยเพื่อนตัวดีทั้งสองคนแล้วเดินเชิดหน้าตั้งนำไปก่อนเลย ก็ฉันต้องการเขานี่ แล้วเรื่องอะไรฉันต้องยอมแพ้ง่ายๆ บอกแล้วใช่ไหมว่าฉันต้องการเข้าไปวิ่งเล่นในใจเขา ฉันก็ต้องทำให้ได้! . . . @ห้องสโมสรคณะวิศวกรรมศาสตร์ "ไอ้โยแฟลชไดรฟ์งานที่กูให้มึงไปวันก่อน มึงเอามาไหม" "เอามา มึงจะเอาเลยไหม" "เฮลโล่วววว สวัสดีพี่ๆ ทุกคนค่ะ" ทันทีที่ฉันมาถึงห้องสโมสรคณะวิศวะ ฉันก็ส่งเสียงทักทายพวกพี่ๆ ทุกคนที่กำลังนั่งทำงานอย่างเป็นกันเอง ซึ่งทันทีที่พี่ๆ เขาได้ยินเสียงอันไพเราะของฉัน ทุกคนก็หันมาที่ฉันเป็นตาเดียว รวมถึงพี่โยธาหวานใจของฉันที่นั่งทำงานอยู่บนโซฟามุมหนึ่งของห้องด้วย ฉันเลยไม่รอช้ารีบเดินไปหาพี่เขาพร้อมนั่งลงข้างๆ พี่เขาอย่างถือวิสาสะ ส่วนยัยสวยกับน้ำพิ้งค์พวกมันสองคนก็เดินแยกไปหาแฟนตัวเองเหมือนกัน "ทำอะไรอยู่เหรอคะ" ฉันถามพร้อมชะโงกหน้าเข้าไปดูหน้าจอแมคบุ๊คของพี่โยธา ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งสิ่งที่เห็นก็คือเขากำลังทำรายงานอยู่นั่นเอง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นรายวิชาอะไร แต่เท่าที่ดูแล้วมีสูตรคำนวณ มีตัวเลขปะปนเยอะแยะไปหมด เห็นแล้วตาลายแทน "แฟนมาแล้วมึงคงมีแรงทำงานขึ้นเยอะเลยอะดิ" พี่ตฤณที่เดินมาหยิบแฟลชไดรฟ์บนโต๊ะเตี้ยตรงหน้าพี่โยธาแซวขึ้นพร้อมยิ้มกริ่มให้หนึ่งที ก่อนจะหันมาพูดกับฉันในนาทีถัดมา "เมื่อกี้ไอ้โยมันบ่นว่าเหนื่อยแถมปวดต้นคอด้วย ไม่มีคนนวดคอให้มันอะ พริกช่วยสงเคราะห์ให้มันหน่อยนะ เผื่อว่ามันจะมีแรงทำงานขึ้น" พี่ตฤณว่าขึ้นพร้อมรอยยิ้มล้อเลียนขณะมองตาพี่โยธาที่นั่งพิมพ์งานอยู่เงียบๆ แต่เพราะคงสัมผัสได้ว่ากำลังถูกจ้องอยู่มั้ง พี่เขาเลยช้อนสายตาขึ้นไปมองเพื่อนตัวเองบ้าง คนถูกมองกลับอย่างพี่ตฤณเลยหัวเราะเบาๆ ก่อนไปหนึ่งกรุบ แถมก่อนไปยังหันมาขยิบตาให้ฉันอีกด้วย เนี่ย เพราะฉันมีตัวชงอย่างพี่ตฤณไง ฉันเลยไม่เคยย่อท้อต่อการจีบพี่โยธา ตอนพี่ตฤณพูดว่าฉันเป็นแฟนพี่โยธาเมื่อกี้ ฉันนี่ทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียวชงเก่งเว่อร์แถมชอบเปิดทางให้ฉันได้ใกล้ชิดพี่โยธาตลอดเลย "ปวดต้นคอเหรอคะ งั้นพริกช่วยนวดนะ" "...ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้ปวดอะไรมาก" "เกรงใจพริกเหรอคะ คนกันเองไม่เห็นต้องเกรงใจกันเลย อีกหน่อยพริกก็เป็นแฟนพี่แล้ว นวดตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ มาค่ะ" ว่าจบฉันก็ตั้งท่าจะนวดต้นคอพี่โยธาอีกครั้ง แต่ปลายนิ้วของฉันยังไม่ทันจะได้แตะต้นคอเลยฉันก็วืดซะละ เพราะจู่ ๆ พี่โยธาก็ลุกออกไปจากเก้าอี้ดื้อๆ หันไปดูอีกทีพี่แกเดินไปหยิบเอกสารที่เพิ่งปริ้นท์ออกมาดูเสียแล้ว ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมด้วยสีหน้าและท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหอะ เชื่อเขาเลย แต่ว่ากันว่าผู้ชายแกล้งแปลว่าผู้ชายแอบชอบนะ ท่าจะจริงแฮะ เพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งแกล้งให้ฉันล้มพับไปกับโซฟาไง "เมื่อกี้แกล้งพริกเหรอคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะผู้ชายแกล้งแปลว่าผู้ชายชอบ ^^" "..." แหนะ เหลือบมองแล้วเงียบแบบนี้ ชอบฉันจริงๆ ใช่ไหม เขินนะ "พี่ขออ่านรายงานเงียบๆ คนเดียวหน่อยได้ไหมครับ" เอ่อ...เพล้ง! เหมือนได้ยินเศษแก้วแตกแถวนี้เลยแฮะ จากที่ฉันยิ้มอยู่ดีๆ คือหุบยิ้มแทบไม่ทันเลยให้ตายเถอะ นี่เขาจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหนเนี่ย ฟึบ! "พริกไม่ไปหรอก ถ้าพี่จะอ่านพี่ก็อ่านไปเถอะ พริกอยู่เงียบๆ ก็ได้" ว่าจบฉันก็ยกมือกอดอกพิงโซฟาด้วยสีหน้าบูดบึ้งทันที เอาจริงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่ฉันถูกพี่โยธาแสดงท่าทีเหมือนรำคาญใส่แบบนี้ มันหลายครั้งจนฉันมองข้ามไปแล้ว เพียงเพราะฉันชอบเขา ฉันเลยไม่ค่อยแคร์เวลาที่พี่เขาหันมาดุ หันมาไล่ หรือแม้กระทั่งเดินหนีฉันไปเลย มันหลายครั้งจนนับครั้งไม่ถ้วนเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน รอเขาอยู่ที่เดิม รอวันที่เขาจะหันมาเห็นฉันอยู่ในสายตาเขาบ้างแค่นั้นเอง เฮ้อ~ พรึบ! แต่บางครั้งฉันก็หงุดหงิดหัวใจตัวเองที่มันกำลังร้องไห้อยู่ตอนนี้เหมือนกัน "จะไปไหน" พี่โยธาเงยหน้าขึ้นมาถามฉันทันทีที่ฉันลุกขึ้นจากโซฟา แหม่ ทีแบบนี้ละทำเป็นถามทีเมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนอึดอัดอยู่เลย "...พริกเกรงว่าพี่จะอึดอัดถ้าพริกยังอยู่ พริกเลยจะออกไปอยู่ข้างนอกแทนค่ะ พี่จะได้มีสมาธิอ่านรายงาน" ว่าจบฉันก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที แล้วก็เดินออกมาจากห้องสโมสรด้วย เดินไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จะไปไหนก็เลยเลี้ยวไปทางร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตรงหน้าแทน เข้าไปซื้อน้ำกับลูกชิ้นเสร็จฉันก็ออกมาจากร้านแต่เดินอยู่ดีๆ สวยๆ ของฉัน จู่ ๆ ก็มีหมาสองตัวมันกำลังยืนขู่กัน ทำท่าเหมือนจะกระโจนเข้าใส่กันให้ได้ ฉันที่กำลังจะเดินผ่านพวกมันสองตัวเลยได้แต่กล้าๆ กลัวๆ ที่จะเดินผ่านพวกมัน แต่สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจวิ่งผ่านพวกมันสองตัวในที่สุด เท่านั้นแหละ... โฮ่งๆ โฮ่งๆ ไอ้ฉิบหายเอ้ย พวกมันสองตัววิ่งไล่ฉัน ให้ตายเถอะ นี่ฉันต้องวิ่งหนีพวกมันใช่ไหม! "กรี๊ดดดดด! ไปให้พ้นนะไอ้หมาบ้า! ไป๊! ชิ้ว!" ฉันทั้งร้อง ทั้งวิ่ง ทั้งไล่พวกมันสองตัวที่วิ่งตามฉันอยางหวาดกลัว วิ่งไปหันมองพวกมันไป ให้ตายเถอะอีพริกคนสวยไม่เหลือสภาพแล้วมั้งเนี่ย ฮื่อ พี่โยธาช่วยพริกด้วย! ฉันวิ่งวนรอบต้นไม้ก็แล้วรอบบึงน้ำก็แล้วพวกมันสองตัวก็ยังไม่หยุดวิ่งตามฉัน จนตอนนี้ฉันเริ่มเหนื่อยแล้วเริ่มที่จะวิ่งหนีไม่ไหวแล้วก็เลยเตรียมจะใส่สปี๊ดรอบสุดท้ายให้เร็วที่สุดจะได้จบๆ ไปกับไอ้หมาบ้านี่สักที แต่อยู่ๆ หมับ! "อ๊ะ!" "วิ่งหนีอะไรมา" ฮื่อ พี่โยธา พระเจ้าส่งเทพบุตรมาช่วยฉันแล้ว แต่ฉัน... ขอเป็นลมก่อนนะ ไม่ไหวแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD