ตอนที่ 6
ต่อปากต่อคำ
เรียวกังคิมาสึเกะ
ยูเมะกลับมาอยู่ที่เรียวกังตระกูลคิมาสึเกะด้วยความจำยอม เมื่อเรื่องราวที่เซนไคโร่กล่าวอ้างขึ้นมาก่อนหน้านี้คือเรื่องจริง เพราะเบนจิโร่ได้ติดต่อไปขอให้เซนไคโร่เป็นผู้ปกครองเธอชั่วคราวโดยที่เธอเองก็ไม่ได้รับรู้ถึงข้อตกลงนี้มาก่อน
"เสียใจเหรอที่จะไม่ได้เจอหน้าหมอนั่นอีก" เซนไคโร่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าหวานมีสีหน้าบูดบึ้งมาตลอดทาง
"..."
"ฉันถามทำไมไม่ตอบ"
"ทีหนูถาม เซนไคซังยังไม่ตอบเลย" คนตัวเล็กยอกย้อนอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะเธอยังรู้สึกโกรธเคืองกับเรื่องที่เขากลั่นแกล้งเธอก่อนหน้านี้ รวมถึงยังรู้สึกไม่พอใจต่อการตัดสินใจของพ่อแม่เธออีกด้วย ที่ให้เซนไคโร่เป็นผู้ปกครองเธอโดยชอบธรรม อย่างน้อยก็ควรที่จะถามความสมัครใจเธอก่อน หรือไม่ก็ควรให้เบนจิโร่เป็นผู้ปกครองเธอมากกว่าเซนไคโร่ เพราะตอนนี้เธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาจนไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้า
"อย่ามายอกย้อน"
"ถ้าไม่มีอะไรหนูขอตัวก่อนนะคะ" ยูเมะปรับน้ำเสียงให้ลดลงเล็กน้อยเมื่อถูกดุด้วยสายตา ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป ไม่รอฟังคำตอบใดๆ จากเซนไคโร่ สร้างความไม่พอใจให้เขาไม่น้อยที่เธอเดินหนีเขาไปทั้งๆ ที่เขายังพูดไม่จบ
"เดี๋ยว ถ้าฉันยังพูดไม่จบอย่ามาเดินหนี ที่บ้านเธอไม่สอนเรื่องมารยาทเหรอ"
"เซนไคซังมีอะไรอีกคะ" ยูเมะเอ่ยถามขึ้นพลางหันกลับไปมองเซนไคโร่ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
"เดินมานี่"
ยูเมะถอนหายใจเบาๆ ด้วยความเบื่อหน่าย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมเดิมกลับไปยืนที่เดิมตามคำสั่งของเซนไคโร่
"ต่อไปนี้เวลาอาบน้ำให้เปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำให้เรียบร้อย"
"ทำไมล่ะคะ"
"บ้านนี้ไม่ได้มีแค่เธออยู่คนเดียวนะ แต่ยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่อยู่บ้านหลังนี้ คิดว่าเดินใส่ชุดคลุมอาบน้ำไปมามันสุภาพแล้วหรือไง"
"เข้าใจแล้วค่ะ" ยูเมะพยักหน้ารับคำ เพราะเหตุผลของเซนไคโร่เองก็ฟังดูสมเหตุสมผลพอที่จะให้เธอทำตาม ก่อนหน้านี้เธอเองก็ไม่ทันได้ระวังตัวถึงเรื่องนี้ "ขอบคุณนะคะที่บอก...เอ๊ะ แล้วเซนไคซังรู้ได้ยังไงว่าหนูกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องคะ"
เซนไคโร่แสร้งหันมองไปทางต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ทันทีที่ได้ยินคำถามของหญิงสาว ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นยังติดตาเขาอย่างชัดเจน ทั้งๆ ที่พยายามจะลืมมันไป แต่เขากลับยิ่งลืมมันไม่ได้
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ให้จัดการธุระให้เสร็จตั้งแต่ในห้องน้ำแล้วกัน" เซนไคโร่แสร้งตอบบ่ายเบี่ยงประเด็นที่ยูเมะต้องการรู้ ซึ่งยูเมะเองก็ไม่ได้เซ้าซี้เอาความเพิ่มเติมอะไรจากเขา เพราะเธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจอยากรู้คำตอบอะไรมากมายนัก อาจจะเป็นเพราะมีคนมาเห็นเลยไปบอกกับเขาก็เป็นได้
"ค่ะ หนูไปได้แล้วใช่ไหมคะ"
"แล้วจะไปไหนล่ะ ฉันขอเตือนว่าที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่เธอจะเดินเพ่นพ่านไปทั่วได้นะ"
"รับทราบแล้วค่ะ" ยูเมะตอบด้วยความประชดประชัน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ามากดรับสาย เมื่อมีสายเรียกเข้ามา "ฮัลโหล...ถึงแล้วค่ะ ฮายาเตะซังไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ"
ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเซนไคโร่ขมวดคิ้วเป็นปมขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อที่ยูเมะเรียกคนปลายสาย
"อยู่นี่ห้ามเล่นโทรศัพท์ ฉันจะยึดเอาไว้ก่อน"
“ฮะ! อะไรนะคะ" ยูเมะหันไปมองโทรศัพท์มือถือที่ถูกแย่งออกไปด้วยความมึนงง "เอาโทรศัพท์หนูคืนมานะ" ยูเมะบอกด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอน
"อย่าลืมว่าฉันเป็นผู้ปกครองของเธอ ฉันสั่งอะไรเธอก็ทำ"
"แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอคะ"
"ฉันว่าได้มันก็ได้หมดนั่นแหละ"
"คนบ้าอำนาจ! " ยูเมะเสียงแข็งใส่ เมื่อรู้สึกว่าสิ่งที่เซนไคโร่ทำ มันไม่ยุติธรรมกับเธอเลยสักนิด
"ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน"
"ก็เซนไคซังชอบแกล้งหนูอยู่เรื่อยเลยนี่คะ หนูไปทำอะไรให้เซนไคซังไม่พอใจนักหนาเหรอ"
"หน้าตาเธอ นิสัยเธอ มันขัดใจฉันไปหมดนั่นแหละ"
"งั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับหนูสิคะ ต่างคนต่างอยู่ไปเลย ส่วนเรื่องแต่งงานหนูก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง"
"แล้วเธอสามารถยกเลิกงานแต่งครั้งนี้ได้ไหมล่ะ ขนาดพ่อแม่เธอยกเธอให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของฉันเธอยังทำอะไรไม่ได้เลย" เซนไคโร่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เพราะเขารู้ดีว่าการที่เติบโตมาในตระกูลยากูซ่าการขัดคำสั่งครอบครัวเป็นเรื่องที่ร้ายแรงขนาดไหน โดยเฉพาะการเป็นลูกสาวที่แทบจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อครอบครัวเลย
"นะ...หนูจะยกเลิกงานแต่งครั้งนี้ให้ได้แน่ๆ ค่ะ" ยูเมะพยายามตอบกลับด้วยท่าทางมั่นใจ ถึงแม้น้ำเสียงของเธอจะไม่ได้แสดงออกมาถึงความมั่นใจเลยก็ตามที
"ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยหาทางเอง พยายามเข้าละ ฉันรอชมผลงานเธออยู่"
"งั้นก็เอาโทรศัพท์หนูคืนมาก่อนได้ไหมคะ"
"วิธีที่เธอกับผู้ชายคนนั้นจะทำมันเป็นอะไรที่ไร้สาระมากเลยรู้ไหม" เซนไคโร่บอกพร้อมกับเก็บโทรศัพท์มือถือของยูเมะจังลงกระเป๋ากางเกง แทนที่จะคืนให้กับเธอตามคำขอของเธอ
"ไม่ลองก็ไม่รู้นี่คะ"
"เธอคิดว่าผู้ชายทรงแบบหมอนั่นจะเอาชนะฉันได้งั้นเหรอ"
"งั้นเซนไคซังก็แกล้งยอมแพ้สิคะ"
"เพื่อให้เธอได้สมหวังกับหมอนั่น? "
"เพื่อที่เราสองคนจะได้ไม่ต้องแต่งงานกันต่างหากไงคะ"
"ฉันไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเพราะเหตุผลแค่นั้นหรอกนะ เธอลองไปหาวิธีอื่นมาดูแล้วกัน" เซนไคโร่บอกด้วยท่าทางหยิ่งยโส ก่อนจะเดินผ่านหน้าคนตัวเล็กเข้าไปภายในบ้าน ปล่อยให้ยูเมะยืนมองตามแผ่นหลังแกร่งที่เดินหายลับไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของเธอด้วยความมึนงง
"เซนไคซังเป็นคนยังไงกันแน่นะ" ยูเมะทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงตกกับโทรศัพท์มือถือของเธอที่ถูกเซนไคโร่ยึดไป ทำให้ตอนนี้เธอเองไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปดี ลำพังต่อให้มีโทรศัพท์มือถือเธอก็เหงาจะแย่อยู่แล้ว พอถูกยึดไปแบบนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกเหงามากกว่าเดิมไปกันใหญ่