น้ำตาจระเข้

1127 Words
“เธอไม่รู้ชื่อของคนที่จะแต่งงานด้วยงั้นเหรอ คิดจะเล่นตลกกับฉันสินะ เห็นฉันจำไม่ได้เลยอยากตายว่างั้น?” ว่าแล้วมือของเขาก็พุ่งมาบีบคอเล็ก ๆ ของเธอทันที สีหน้าที่ดูเดือดดาลนั่นทำให้หญิงสาวหลับตาปี๋ พลันในหัวก็คิดไปถึงคำพูดของกลุ่มคนร้าย ‘บอกแล้วว่าไอ้พันเพลิงมันมีเชื้อบ้า คน ๆ นั้นเลยบอกให้ซัดที่หัวมันอย่างเดียวไง ไอ้เวรนี่...ได้ยินว่ามันตายยาก’ “แค่ก ๆ มะ...ไม่ใช่นะคะ ปล่อยก่อน แค่ก ๆ” “หึ! โกหกสินะ” เขาแค่นเสียงหยันออกมา แววตาวาวโรจน์ทีเดียว ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกเขาเหวี่ยงลงมากระแทกพื้นอย่างแรง ตุบ! “อื้อ! อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฮึก! อย่าเข้ามา...” หญิงสาวละล่ำละลักปากคอสั่น เมื่อร่างสูงใหญ่ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ท่าทางดุดันราวอสูรกายร้ายช่างน่าพรั่นพรึง ทำให้คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายถดกายสั่นเทาถอยหนีจนแผ่นหลังชนเข้ากับตู้เก็บยา ไม่นะ! เธอจะมาโดนฆ่าตายไปแบบนี้ไม่ได้สิ เธอยังไม่ได้สละโสด ยังไม่ได้ออกไปแตะขอบฟ้า หาความสุขใส่ตัวเลย หมับ! “อื้อ! อย่านะ” หญิงสาวร้องลั่น ส่ายหน้าเป็นระวิงเมื่อเส้นผมยาวสลวยที่ถักเปียไว้ถูกมือใหญ่กระชากอย่างแรงจนร่างเธอถลามาเผชิญหน้ากับเขาใกล้ ๆ อีกครั้ง นัยน์ตาสีแปลกที่จับจ้องมาไม่กะพริบนั่น รอยยิ้มที่แสยะน้อย ๆ ราวกับพวกโรคจิตนั่น ทุกอย่างของเขามันทำให้เธอหวาดกลัวจนแทบลืมหายใจ “มองตาฉัน! เพราะคนที่หลบตาคือคนโกหกรู้ไหม” เสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้น ทำให้เธอกัดฟันแน่น ค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้นมองสบตาเขา “ฉะ...ฉันไม่ได้โกหกอะไรนะ” เธอละล่ำละลักบอกเขา ความหวาดกลัวที่กำลังเกาะกุมจิตใจทำให้เนื้อตัวเธอสั่นไม่หยุดเลย “ครั้งสุดท้าย...ในตอนที่ฉันยังพอทน เธอควรรีบพูดความจริงมาซะ ไม่งั้นเธอจะได้รู้ว่าการตายไปอย่างช้า ๆ มันเป็นยังไง” น้ำเสียงเย็นเยียบนั้นบ่งบอกว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น นัยน์ตาสีแปลกที่สะท้อนกับแสงไฟสลัวมันวามวาวราวกับนัยน์ตาสัตว์นักล่าไม่มีผิด...น่ากลัวเกินไปแล้ว “พัน...คุณชื่อ ‘พันเพลิง’ ไงคะ” เอิงเอยเอ่ยออกไป หวังว่านั่นจะเป็นชื่อของเขานะ คนบ้าอะไรขนาดชื่อยังดูร้ายกาจเลย ‘ฮือ...คุณย่าขาไอ้หมอนี่มันบ้าจริง ๆ นะ เราไม่น่าไปเก็บมันมาเลย เอะอะมันก็จะหาทางฆ่าหนูตลอดเลย’ เอิงเอยได้แต่ร่ำไห้ในใจ “เหอะ! ต้องให้ขาก้าวเหยียบประตูนรกสินะ เธอถึงจะพูดได้ ฉันจะฟังมันไปก่อน เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันนึกอะไรออก แล้วรู้ว่าชื่อนั่นไม่ใช่ชื่อฉัน...เธอได้ไปเยือนขุมนรกของแท้แน่ยัยตัวเล็ก” เขาเอ่ยราวคาดโทษไว้ล่วงหน้า ใบหน้าที่ตอนนี้บาดแผลและรอยบวมจางลงไปมากแล้วทำให้เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาเป็นคนที่มีใบหน้าหล่อนรกแตกจริง ๆ ไอ้หมอนี่มันผุดมาจากนรกขุมไหนนะ พูดจาทีมีแต่จะฆ่าจะแกงเธอตลอด ผล็อย...เมื่อเห็นว่าเขามีท่าทีอ่อนลง พลันน้ำตาก็ร่วงอาบแก้ม เมื่อครู่เธอกลัวมากจริง ๆ นะ กลัวว่าเขาจะฆ่าเธอทิ้งจริง ๆ “โทษที ฉันเผลอทำรุนแรงสินะ พอคิดว่าเธอโกหกมือมันเลยขยับไปเอง เจ็บขนาดนั้นเลย?” เขาเอ่ยถามพลางรั้งต้นแขนเธอให้ลุกขึ้น แม้จะไม่มีความอ่อนโยน แต่ก็ดีกว่าถูกเขาลากไปมานั่นแหละ “ฮึก! คุณลองโดนเหวี่ยงลงมาสิ คุณตัวใหญ่ขนาดนี้ ฮึก! คุณน่ะปกติไม่เคยทำอะไรรุนแรงเลยนะ คุณสุภาพแล้วก็ใจดีกับฉันมาก คุณไม่เคยเกรี้ยวกราดแบบนี้เลย ฮึก! คุณไม่เคยดุฉันเลย ฉันเสียใจจังค่ะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็เลือกที่จะใช้โอกาสนี้ ‘บีบน้ำตาจระเข้’ แล้วป้อนข้อมูลใหม่ให้เขา อย่างน้อยก็เพื่อความอยู่รอดของตัวเธอเองด้วย ขืนปล่อยให้เขาอยู่โดยมีจิตสำนึกเดิมที่ดูเหมือนจะเป็นคนอารมณ์ก้าวร้าวรุนแรง เธอคงต้องโดนเขาทำให้เจ็บตัวบ่อย ๆ แน่ “นั่นสินะ เราเป็นว่าที่สามีภรรยา เธอคงรักฉันมากสามเดือนนี้ถึงคอยดูแลฉันมาตลอด ขอโทษนะ เพราะฉันจำอะไรไม่ได้เลยเผลอทำรุนแรงกับเธอ” จู่ ๆ เขาก็ทำสีหน้าสลดลง แถมยังตีความเรื่องที่เธอกุขึ้นมาแบบสุดโต่งเลยด้วย นี่มันเป็นเรื่องดีแล้วเหรอ ใครรักเขามากไม่ทราบ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อรักษาชีวิตน้อย ๆ ของตัวเองไว้ต่างหาก “ไม่เป็นไรค่ะ แค่คุณฟื้นขึ้นมาได้ ฉันก็...ดีใจแทบแย่” เธอบอกเขาและเผยยิ้มเจื่อนให้ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเอาพลั่วฟาดอีกรอบจริง ๆ “เธอบอกว่าเพิ่งจัดงานศพคุณย่าใช่ไหม ท่านเป็นอะไรถึงเสีย” “ทางโรงพยาบาลบอกว่าหัวใจวายเฉียบพลันน่ะค่ะ อาจจะเพราะอายุมากแล้วด้วย ฉันพยายามทำใจยอมรับอยู่ค่ะ” พอถูกสะกิดเรื่องคุณย่า ความรู้สึกเธอก็ดิ่งราวกับโดนสับสวิตช์เข้าโหมดเศร้าเลยล่ะ “งั้นสินะ พ่อแม่เธอล่ะ” ชายหนุ่มถามต่อ ผู้หญิงจืดชืดคนนี้ สถานที่แห่งนี้ และเรื่องราวที่หายไปจากความทรงจำพันเพลิงต้องการเก็บข้อมูลใหม่ทั้งหมด ไม่ว่ายังไงเขาต้องคิดให้ออกว่าเขามาอยู่ที่นี่ และมีเธอที่โคตรขัดตาเป็นว่าที่ภรรยาได้ยังไง “พวกท่านเสียไปนานแล้ว ฉันอยู่กับคุณย่ามาตลอด” บ้าเอ้ย! ทำไมเธอต้องมาตอบคำถามเขาด้วย คนยิ่งเศร้าอยู่ หมับ! เอ๊ะ! จู่ ๆ ร่างเธอก็ถูกเจ้าของร่างสูงรวบมากอดไว้ในอ้อมแขน มือใหญ่ที่ลูบลงบนเส้นผมเบา ๆ ราวปลอบประโลมกันนี่มันอะไร “ไม่เป็นไร...เธอยังมีฉัน ถึงฉันจะยังคิดอะไรไม่ออก แต่ฉันจะดูแลเธอแทนคุณย่าเอง” น้ำเสียงห้าวที่ทุ้มลงจนฟังดูนุ่มนวลเอ่ยปลอบใจกัน ราวกับว่าเขารับรู้ถึงความเสียใจของเธอ และอยากช่วยให้เธอหายเศร้าจริง ๆ นี่เขาเชื่อที่เธอพูดทุกอย่างเลยเหรอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD