ไอ้ประสาทกลับ!

920 Words
“คุณต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเป็นแค่หมอเองนะ” เธอร่ำร้องอย่างสิ้นหวัง นี่มันเรื่องบ้าอะไร ทำคุณบูชาโทษโปรดสัตว์ได้บาปรึไง วันนี้เธอเศร้ามากแต่ก็ยังมีน้ำใจมาดูอาการเขา เพราะคุณย่าบอกว่าจรรยาบรรณของแพทย์ไม่ว่าใครประสบภัยมาก็ต้องยื่นมือเข้าช่วยทั้งนั้น ถึงเธอไม่ได้กล่าวคำสัตย์เพราะไม่ได้เรียนจบแพทย์โดยตรง แต่เอิงเอยก็เป็นพลเมืองดีนะ อุตส่าห์ช่วยไว้แท้ ๆ แต่ดูเขาทำกับเธอสิ “พูดมาอย่าลีลา ไม่งั้นฉันเชือดเธอแน่ ตัวแค่นี้ฉันดีดทีเดียวก็ตายแล้ว” นอกจากไม่ฟัง เขายังขู่เข็ญให้เธอพูดอีก ทำท่าทำทางอย่างกับหมาบ้าแน่ะ แล้วเธอต้องพูดอะไรล่ะเนี่ย “พะ...พูดอะไรคะ” คนตื่นกลัวย้อนถาม แทบไม่กล้าเงยหน้ามองสบกับนัยน์ตาสีแปลกนั่นเลย คนอะไรทำไมมีนัยน์ตาเหมือนสัตว์ป่าแบบนั้น นี่เธอกับคุณย่าไปเก็บตัวประหลาดอะไรมารักษากันนะ “กวน...? ชีวิตไม่อยากหายใจต่อแล้วสิ” เขาเอ่ยลอดไรฟันด้วยท่าทีที่โคตรไม่สบอารมณ์ แต่เธอต้องพูดอะไร อยากรู้อะไรก็ถามมาเซ่! “ไม่ใช่นะคะ คือว่า...” ไม่รู้เลยว่าจะต้องพูดอะไร เพราะตอนนี้เชื่อว่าทุกคำพูดและการกระทำของเธอมันสามารถตัดสินชะตาชีวิตตัวเองได้ไงล่ะ ถ้าพูดความจริงและสิ่งที่เห็นในคืนนั้นออกไป แล้วเขาสรุปว่าเธอเป็นคนทำให้เขาบาดเจ็บล่ะ เขาอาจจะฆ่าปาดคอเธอทิ้งทันที แต่ถ้าโกหกจนสวนทางกับเรื่องที่เขาเจอมา เธอก็ไม่วายโดนฆ่าหมกป่าแน่นอน เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ควรพูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าพาให้ชะตาขาดไง “เธอแม่งโคตรมีพิรุธเลย” เขาส่งเสียงหงุดหงิด พลางเดินไปหยิบเอาเข็มฉีดยาและขวดน้ำยาเช็ดกระจกมา นั่นเขาคิดจะทำอะไรอีก “นั่นคุณจะทำอะไรคะ!” เห็นแบบนั้นจะเฉยอยู่ไหวเหรอ เอิงเอยรีบดิ้นตัวสุดชีวิต ถึงขั้นใช้ฟันกัดสายน้ำเกลือเหนียว ๆ เลยทีเดียว ทว่าเขาที่ยังคงตีสีหน้าเลือดเย็น กลับทำเพียงเปิดฝาขวดน้ำยาเช็ดกระจก แล้วใช้เข็มดูดเอาของเหลวสีฟ้านั่นออกมาจนเต็มหลอด ก่อนที่ปลายคางของเธอจะถูกมือใหญ่บีบไว้แน่น แล้วรั้งมันให้เชิดขึ้น “อื้อ! อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันช่วยคุณไว้นะ!” เธอรีบร้อนร้องขอชีวิต เมื่อเห็นว่าปลายของเข็มถูกเขาเอามาจ่ออยู่กับม่านตา นี่เขาบ้าไปแล้วเหรอ เธอเป็นแค่เภสัชธรรมดาในร้านหมอยาบนเขาเองนะ “หึ! เธอว่าถ้าฉันฉีดไอ้นี่เข้าไปในม่านตาเธอ...มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ” เขาเอ่ยถามเสียงเย็น ทำสีหน้าไม่ต่างจากฆาตรกรโรคจิตในหนังสยองขวัญ และมันทำให้เอิงเอยถึงกับหวาดกลัวจนน้ำตาไหล ไอ้บ้านี่มันคิดจะฉีดน้ำยานั่นใส่ตาเธอเลยเหรอ ไอ้โรคจิต! ไอ้ประสาทกลับ! “ไม่นะ! ได้โปรดฉันไม่ใช่คนที่ทำร้ายคุณ ตลอดสามเดือนกว่านี้ฉันดูแลคุณเป็นอย่างดี แล้ววันนี้คุณรู้ไหมว่าคุณย่าของฉันเพิ่งจะเผาไป ฮึก! ชีวิตผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันมันทั้งเศร้าแล้วก็น่าหดหู่สุด ๆ แต่ฉันก็ยังกลับมาดูแลคุณ ฮือ! ฉันเป็นห่วงคุณนะ ตอนนี้ที่นี่ฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากคุณ ฮือ! ได้โปรดเอาเข็มออกไปที อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” หญิงสาวสะอึกสะอื้นโยงเรื่องราวมั่วซั่วแทบลิ้นพันกัน เพราะกลัวว่าเขาจะแทงเข็มนั่นเข้ามาในม่านตาเธอจริง ๆ บ้าเอ้ย! เธอพูดอะไรออกไปบ้างนะ ทำไมเขาถึงทำสีหน้าเหมือนอึ้งไปแบบนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้นอีก “เธอบอกว่าไม่เหลือใครนอกจากฉัน?” เขาย้อนถามพลางลดเข็มในมือลง นั่นทำให้เธอเพิ่งรู้ว่าปากตัวเองพาซวยแล้วไง นี่เธอพูดบ้าอะไรออกไปล่ะนั่น กรอเทปตรงไหนล่ะเนี่ย...เธอไม่ได้จะพูดแบบนั้นนะ! “เอ่อ...คือว่า” คิดสิยัยเอิงเอย จะแถไปทางไหนต่อล่ะทีนี้ “แต่ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยแฮะ ฉันกับเธอ...เราเป็นอะไรกัน?” “คะ?” คำถามของเขา ทำให้คนที่นั่งสะอึกสะอื้นอยู่ถึงกับสตั้นไปหลายวิ หมายความว่ายังไง ที่ว่าคิดอะไรไม่ออก หรือเขาโดนพลั่วฟาดหัวจนสมองเพี้ยนไปแล้ว ประสาทกลับ...เสียสติจริง ๆ น่ะหรือ? “จำไม่เห็นได้ว่ามีใครตาย ย่าที่ไหน” เขาถามต่อพร้อมสีหน้าที่ค่อย ๆ แสดงออกมาว่าสงสัยในสิ่งที่เธอบอกไปเหลือเกิน แหงล่ะ! เขาย่อมไม่รู้จักคุณย่าของเธออยู่แล้ว เพราะเขาเพิ่งฟื้นคืนสติหลังจากที่คุณย่าของเธอเสียไปอย่างกะทันหันไงล่ะ “ทำไมคุณพูดแบบนี้คะ ระ...หรือคุณจำฉันไม่ได้” เธอเลียบ ๆ เคียง ๆ ถาม คล้ายหยั่งเชิงอาการบาดเจ็บของเขาไปในตัว เขาจำเธอได้ไหม คนที่ฟาดพลั่วใส่หัวเขาจนภาพตัดไง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD