เยือนบริษัทของแม่

1437 Words
ธามธารามองหน้าหญิงสาวที่หลับไม่ได้สติ นึกถึงตอนเมาอยู่ที่ผับ ขวัญพิชชาเอาแต่พร่ำเพ้อว่าไม่มีใครรัก จนนายณภัทรมาบอกรักหญิงสาว เขาถึงกับ ทนไม่ได้ ทำไมนะ เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เธอเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ไม่ใช่แค่เธอที่เปลี่ยน เขาเองก็เปลี่ยน ธามธารานั่งคิดอยู่อย่างนั้น นานเท่าไหร่ไม่รู้ อยู่ๆขวัญพิชชาก็ละเมอขึ้นมา " แม่ ~ ขวัญคิดถึงแม่ " ธามธาราเอื้อมมือไปลูบผมเธอด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ เช้าวันต่อมา ....... ขวัญพิชชาตื่นมาด้วยอาการปวดศีรษะ เธอรู้สึกว่าหัวเธอหนักอึ้งไปหมด พอได้สติ จึงหันมองดูรอบๆ ' นี่มันห้องของเธอนี่ เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัไง ' พอสำรวจเสื้อผ้าที่ใส่ มันไม่ใช่ชุดเมื่อคืนนี่ ความมึนงงทำให้เธอไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ปลายเตียง " ตื่นแล้วเหรอ " ขวัญพิชชาหันไปตามเสียง " เข้ามาทำไม " " ก็มาดูคนเมาไม่รู้เรื่อง " ขวัญพิชชามองอย่างครุ่นคิด ปกติชายหนุ่มไม่เคยย่างกายเข้าห้องเธอเลย แต่ทำไมวันนี้มาอยู่ในห้องเธอได้ " ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง " ขวัญพิชชาถามเขา เธอจำได้ว่าเธออยู่ที่ผับ " ฉันอุ้มมาเอง เป็นผู้หญิงกินเหล้าเมาเป็นลำยองไปได้ " " แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ " " อย่าลืมว่าเธอยังไม่ได้หย่า จะทำอะไรก็นึกถึงหน้าฉันด้วย " " ถ้าจะกลัวเสียหน้าขนาดนั้น ก็หย่าเลยสิ " ขวัญพิชชามองหน้ท้าทาย " หาเงินมาคืนให้ได้ก่อน " ธามธารายิ้มอย่างผู้ชนะ เธอเองก็มองตาเขาอย่างไม่มีใครยอมใคร ขวัญพิชชาเดินสะบัดก้นลงมาข้างล่าง โดยมีชายหนุ่มตามมาติดๆ " คุณขวัญตื่นแล้วเหรอค่ะ ข้าวต้มได้แล้วนะคะ วางในครัวเหมือนเดิมค่ะ " " ขอบคุณค่ะป้าบัว " " ของคุณธามป้าวางไว้ที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ " " ไปบอกคุณขวัญให้ออกมาทานข้างนอกกับผม " " ห๊ะ ... คะ ?" ป้าบัวมองอย่างแปลกใจ แต่ก็ทำตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม เดินเข้าไปหาเจ้านายหญิงในครัว ขวัญพิชชากำลังจะตักข้าวต้มเข้าปาก " คุณขวัญคะ " เสียงเรียกของป้าบัว ทำให้ขวัญพิชชาต้องชะงักช้อนที่กำลังจะเข้าปาก " คะ ? " " คุณธามสั่งให้คุณขวัญไปทานข้างนอกกับเธอค่ะ " ขวัญพิชชาแปลกใจ แต่เธอทำเฉย ไม่ยอมออก " ป้าบัวไปบอกเค้านะคะ ว่าขวัญไม่ไป " ขวัญพิชชายังนั่งทานอยู่ในครัวตามปกติ ไม่สนใจ ป้าบัวจึงเดินออกไปบอกเจ้านายหนุ่ม " คุณขวัญเธอจะทานในครัวค่ะ " ธามธาราหงุดหงิด เดินเข้าไปหาหญิงสาวในครัว " ทำไมไม่ออกไปทานข้างนอก " ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ " ก็ปกติฉันนั่งทานตรงนี้ " เธอบอกเขาหน้าตาเฉย " แต่วันนี้มันไม่ปกติ " เขาตอบยียวนมาก " อะไรที่ว่าไม่ปกติคะ " เธอชักหงุดหงิด " เธอไง ผีเข้าเหรอ " กวนประสาทซะด้วย " นี่คุณ " กวนจนหญิงสาวโมโหจนได้ " ไม่ออก ก็ได้ งั้นฉันป้อน " เขาแย่งช้อนจากเธอ ตักข้าวต้มจะป้อนเข้าปากเธอแต่หญิงสาวถอยหนี ชายหนุ่มตามบีบแก้ม ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ทำเอาหญิงสาวใจเต้นแรง ชายหนุ่มเองก็ไม่ต่างกัน เธอแย่งช้อนจากเขาแล้วบอก " ฉันกินเองได้ " จากนั้นยกชามข้าวต้มออกไปวางที่โต๊ะอาหารข้างนอก ชายหนุ่มมองตามอย่างพอใจ สองหนุ่มสาวนั่งทานข้าวต้มอยู่เงียบๆ โดยไม่มีใครพูดอะไร เมื่อชายหนุ่มทานอาหารเช้าเสร็จ จึงลุกไปทำงาน หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจเขา ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดที่หญิงสาวทำเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุ จึงเดินกลับมายืนตรงหน้าหญิงสาว " กลางวันเอาอาหารไปส่งด้วย " ไม่รอให้หญิงสาวได้พูดอะไร เขาก็เดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าบ้าน ขวัญพิชชามองตามร่างหนาไปอย่างแปลกใจ พึมพรำออกมาอย่างน้อยใจ " เอาไปให้ก็ทิ้งถังลงขยะอีก เสียดายของทำให้หมาข้างถนนกินยังจะมีประโยชน์กว่า " หญิงสาวไม่สนใจทานข้าวต้มเสร็จเธอเดินขึ้นห้องไป ขวัญพิชชาขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปที่บริษัทของแม่เธอ ไม่นานเธอก็มาถึงบริษัทของแม่เธอ แต่เมื่อมาถึง " มาติดต่อเรื่องอะไรครับ " รปภ.ถาม ขวัญพิชชาไม่ตอบ เดินดุ่มๆเข้าไปไม่สนใจ จน รปภ.ต้องเดินตามไปด้วย " ถามว่ามาติดต่อเรื่องอะไร ถ้าไม่ตอบก็เข้าไม่ได้นะครับ " ขวัญพิชชาเดินไปจนถึงหน้าเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ในขณะที่ รปภ.ก็ยังตามไปไม่ให้คาดสายตา หญิงสาวเดินผ่านเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ขึ้นไปด้านบน จนถึงห้องประธาน พนักงานหน้าเคาท์เตอร์เห็นท่าไม่ค่อยดีจึงโทรหาท่านประธาน คุณเกรียงไกรจึงออกมา " แกมาที่นี่ทำไม " คำแรกที่หลุดออกจากปากเมื่อเห็นหน้าลูกสาวคนโต สร้างความเจ็บปวดใจไม่น้อยให้หญิงสาว " ที่นี่บริษัทของแม่ ทำไมขวัญจะมาไม่ได้ ทีสองแม่ลูกนั่นเป็นคนนอกยังเข้ามาได้เลย แล้วขวัญที่เป็นลูกสาวแท้ๆของคนที่ก่อสร้างบริษัทนี้มาทำไมจะเข้ามาไม่ได้คะ " ทุกคนตื่นตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน พวกเธอเข้าใจว่าประธานมีลูกสาวคนเดียวนั่นก็คือแพรมุก และที่คุณเกรียงไกรเคยบอกมาตลอดว่าคุณหนูแพรมุกจะขึ้นบริหารที่นี่แทนตน ไม่เคยพูดถึงลูกสาวคนโตเลย คุณเกรียงไกรเลิ่กลั่กกลัวพนักงานจะได้ยิน จึงบอกให้ไปคุยในห้อง " มีอะไรไปคุยในห้อง " ขวัญพิชชาเดินเข้าไปในห้องท่านประธาน นั่งลงที่โซฟา " แกต้องการอะไร " ขวัญพิชชามองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างใจเย็น แล้วยิ้ม " ก็ไม่ต้องการอะไรนะคะ แค่จะมาดูความเรียบร้อย ว่าบริษัทที่แม่สร้างมากับมือ ยังอยู่ดี " แพรมุกและอรจิรามาที่บริษัทหลังออกไปหาอะไรทานกันสองคนแม่ลูก กลับเข้ามาที่บริษัท เลขาหน้าห้องบอกว่ามีผู้หญิงชื่อขวัญพิชชามา ตอนนี้อยู่ในห้องประธานจึงรีบเข้าไปทันที เมื่อเข้าไปถึงแพรมุกปรี่เข้าไปหาขวัญพิชชาทันที " แกมาที่นี่ทำไม " " คำถามนี้ฉันน่าจะถามเธอมากกว่านะ ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ในเมื่อที่นี่มันเป็นบริษัทของแม่ฉัน " แพรมุกกับอรจิรามองหน้ากันอย่างหวาดหวั่น สองแม่ลูกกลัวเหลือเกินว่าขวัญพิชชาจะมาทวงทุกอย่างคืน และพักนี้เธอก็ดูไม่เหมือนขวัญพิชชาคนเดิมซะด้วยสิ " แกกลับไปก่อน อย่าพึ่งมาวุ่นวายที่นี่ " " ขวัญไม่ได้มาวุ่นวายนะคะ ขวัญจะมารอรับตำแหน่งที่นี่ " " ตำแหน่งอะไรของแก " " ตำแหน่งประธานค่ะ " ทุกคนตกใจกับสิ่งที่ขวัญพิชชาพูดออกมา คุณเกรียงไกรยิ้มหยัน " หึ หึ แกเนี่ยนะจะมาเป็นประธานที่นี่ เรียนยังไม่จบเลย จะมาทำอะไรได้ " สามคนพ่อแม่ลูกต่างหัวเราะเหมือนเยาะเย้ย แต่ที่แปลกคือ ขวัญพิชชาก็หัวเราะไปกับเค้าด้วย ทำให้สามคนนั่นหยุดหัวเราะทันที " แล้วพ่อคิดว่าหลังจากแต่งงานขวัญจะทิ้งการเรียนเหรอคะ " คุณเกรียงไกรแปลกใจ เพราะตอนนั้นขวัญพิชชชาแต่งงานทั้งที่ยังเรียน เขาบอกให้เธอเลิกเรียนเอง " แกหมายความว่าไง " " ขวัญจบโทด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งนะคะ บริหารงานไม่ได้เหรอคะ " ทุกคนตกใจ ไม่มีใครคิดว่าหญิงสาวจะจบถึงปริญญาโท นั่นหมายความว่า เรียนสูงกว่าแพรมุก แพรมุกยังไม่เชื่อ " บอกจบโทใครก็พูดได้ จบจริงรึป่าว " ขวัญพิชชายังยิ้มเยาะไม่เกรงกลัว " หลักฐานน่ะ มีอยู่แล้ว แต่คงไม่มีใครพกใบจบโทด้วยเกียรตินิยมไปทุกที่หรอก ที่มาวันนี้ก็ไม่คิดว่าจะต้องมาอวดตัวขนาดนี้ แต่ถ้าอยากมั่นใจ โทรไปถามคุณหญิงย่าได้นะคะ เพราะคุณหญิงย่าเป็นคนส่งขวัญเรียนเอง " เกรียงไกรไม่คิดว่าคุณปรางค์ทิพย์จะส่งขวัญพิชชาเรียนสูงขนาดนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD