“แล้วสรุปจะพาไปไหม ถ้าไม่พาไปก็เอากุญแจรถมา ฉันไปเองก็ได้”
คูเปอร์ทำหน้าเซ็ง เธอนี่มันเกิดมาเพื่อเป็นเจ้ากรรมนายเวรเขารึไง เขาไม่พูดอะไรต่อ เดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
“ฮึ่ย!!จะเรียกซักคำก็ไม่มี”
แอลลี่หน้ามุ่ย เดินกระแทกเท้าตามเขาไปตึงตัง
ปึ้ง!!
พอขึ้นมาบนรถก็ต่างคนต่างเงียบ แอลลี่นั่งกอดอก แล้วมองไปอีกทาง
“คาดเข็มขัดสิแม่คุ๊ณ จะนั่งนิ่งเป็นรูปปั้นอีกนานมั้ย แล้วก็ช่วยทำเบาๆด้วย ห้ามรถฉันเป็นรอยแม้แต่นิดเดียว”
“เฮ้ย!!”
แอลลี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหยิบเบลท์มาคาด
ไม่นานเท่าไหร่ คูเปอร์ก็เบรกเบาๆก่อนจะเลี้ยวรถเข้าข้างทาง
ร้านอาหารตามสั่งริมทางเล็กๆ ที่มีโต๊ะพลาสติกเรียงรายอยู่ใต้เพิงไม้ไผ่ บรรยากาศบ้านๆที่เธอไม่คิดว่าคนแบบเขาจะเข้ามานั่งกินด้วยซ้ำ
“ลงไป” เขาพูดเรียบๆแล้วดับเครื่อง
“หืม”แอลลี่เลิกคิ้ว
“ร้านข้าว ไม่ใช่คาเฟ่อย่างที่เธอชอบ แต่ก็อร่อยดี อยากกินก็กิน ไม่อยากกินก็นั่งรอในรถ”
พูดจบก็เปิดประตูลงไปทันที
แอลลี่เม้มปากแน่น ก่อนจะถอนหายใจ แล้วเปิดประตูรถตามลงไปอย่างไม่เต็มใจ และเดินตามเขาไปเงียบๆ ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเขา
เขาหยิบเมนูพลิกไปมา แต่ไม่สนใจจะยื่นให้เธอ
“ไม่คิดจะถามเลยเหรอว่าฉันอยากกินอะไร”
“สั่งเองดิ โตแล้วไม่ใช่เหรอ”
แอลลี่ทำหน้างอ หันไปสั่งข้าวผัดไข่กับลุงเจ้าของร้าน แล้วนั่งกอดอกเอียงตัวหนีไปอีกทาง มองอย่างอื่นยังสบายตากว่ามองหน้าเขาซะอีก ต่างคนก็ต่างไม่สนใจกัน จนอาหารมาเสิร์ฟแอลลี่ก็ยิ้มดีใจ
“ได้แล้วครับหนูคนสวย ”
“ ขอบคุณนะคะคุณลุง”
เธอพูดในแบบของเธอ ไม่ได้เหวี่ยงวีนเหมือนที่พูดกับเขาสักนิด
“หึ”
คูเปอร์หัวเราะในลำคอ เวลาพูดแบบนี้ก็ดูน่ารักดี
“ชิ!!หัวเราะอะไรกินไปเลยนะ”
เธอบ่นเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาโซ้ยข้าวผัดจนหมดเกลี้ยง ก่อนมองไปที่จานข้าวของคูเปอร์
“ของพี่อร่อยป่ะ ขอชิมบ้างดิ”
ไม่รอให้เขาอนุญาต เธอก็ยื่นช้อนมาตักชิ้นหมูกรอบเขาไปกินหน้าตาเฉย ก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย
“เอาไปหมดจานเลยไหมละ”
เขาพูดประชด
“พี่อิ่มแล้วเหรอ เอามาดิเดี๋ยวกินเอง เสียดายของแย่เลย”
มือเล็กดึงจานข้าวเขาไปกินหน้าตาเฉย คูเปอร์ได้แต่มองนิ่งๆมือหนายังถือช้อนกับส้อมอยู่เลย
“ คุณลุงคะคิดเงินด้วยค่ะ”
เมื่อกินอิ่มแอลลี่ก็เรียกคุณลุงมาเก็บเงิน คูเปอร์นั่งเงียบไถมือถือไปเรื่อย
“100พอดีครับ”
แอลลี่พยักหน้ารีบหากระเป๋าตังตัวเอง ก่อนจะต้องตาโตเมื่อเธอรีบจนลืมหยิบกระเป๋าตัง แม้กระทั่งมือถือก็ลืม
“เอ่อ!! แป๊บนะคะคุณลุง”
เธอบอกลุงเสียงเบาหน้าเจื่อนเล็กน้อย
“พี่!!จ่ายค่าข้าวหน่อยสิ ฉันลืมกระเป๋าตังค์อะ”
เขาไม่ได้ตอบอะไรแต่ควักกระเป๋าตังแล้วหยิบแบงค์ร้อยส่งให้ลุง
“ขอบคุณนะครับ นี่แฟนเหรอพ่อหนุ่ม”
แอลลี่ตาโตกับคำถามของลุง รีบโบกมือสองข้างอย่างเร็ว
“ไม่ใช่ค่ะลุง ไม่ใช่ๆ”
เธอรีบปฏิเสธ ไม่ยอมให้ใครเข้าใจผิดความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่คูเปอร์แน่นอน
“ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องเขินลุงหรอก วัยรุ่นก็แบบนี้แหละ คบกันแต่ไม่ชอบบอกความสัมพันธ์ ”
พูดเสร็จลุงก็เดินกลับเข้าร้านไป ไม่ฟังเธออธิบายอะไรเลย
“ เห็นคนอื่นเข้าใจผิด พี่ก็น่าจะพูดอะไรบ้างนะ”
และเธอก็หันกลับมาต่อว่าให้เขา ที่ไม่ช่วยอธิบายอะไรเลย นั่งเงียบอยู่นั่นแหละ
“ จำเป็นด้วยหรอ ลุงพูดไปยังงั้นแหละ ใครก็ดูออกว่าฉันกับเธอไม่มีทางเป็นแบบนั้นได้”
แอลลี่อ้าปากหวอ นี่เขาดูถูกเธอเกินไปแล้วนะ
“ พี่หมายความว่าฉันไม่เหมาะสมกับพี่งั้นหรอ ได้!! คอยดูเถอะ ฉันจะหาแฟนหล่อๆรวยๆมากระแทกหน้าพี่ให้ได้ คอยดู”
พูดจบก็เดินสะบัดก้นหนีเขาไปที่รถ บรรยากาศในรถเงียบลงอีกครั้ง คูเปอร์ขับไปเงียบๆสายตายังจับจ้องที่ถนน
“ พาไปซื้อชุดนักศึกษาด้วย”
เธอบอกเขาเสียงห้วน ต่อให้ไม่อยากพูดกับเขายังไงก็ต้องพูดอยู่ดี คูเปอร์ไม่ตอบอะไรแต่พาเธอขับรถมาแถวหน้ามอ ที่มีร้านขายชุดนักศึกษาเรียงรายกันอยู่หลายร้าน
“ ไปซื้อเอง ฉันจะรออยู่ในรถ”
แอลลี่เลิกคิ้ว ก่อนแบมือไปตรงหน้าเขา
“อะไร”
คูเปอร์มองมือเล็ก แล้วมองหน้ากวนๆของเธอ
“ ก็เอาเงินมาสิ่ ก็บอกอยู่ว่าไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มา แล้วจะให้เอาเงินที่ไหนจ่ายค่าชุดล่ะ”
“ ทีหลังทำอะไรก็รอบคอบหน่อย”
เขาบ่นพร้อมควักกระเป๋าตังค์ออกมา
“ นี่มันความผิดพี่นะ ฉันก็รีบตามพี่นั่นแหละ
และอีกอย่างแค่ยืม ไม่ได้ขอเฉยๆซักหน่อย”
คูเปอร์มองหน้ายัยปากดีอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ก็ยื่นบัตรให้ ปล่อยให้เธอลงไปหาซื้อชุด ส่วนเขานั่งรอในรถ แอลลี่หายไปเกือบครึ่งชั่วโมง
ก่อนกลับมาที่รถพร้อมของพะรุงพะรังในมือ
“ เปิดรถให้หน่อย”
เสียงหวานตะโกนบอก กรอบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ คูเปอร์เปิดท้ายรถให้แต่ไม่เดินลงไป
ปล่อยให้เธอทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ปึ้ง
“โอ้ยร้อน เร่งแอร์หน่อยสิ”
มือเล็กเอื้อมจะไปเร่งแอร์
“หยุด ไม่ต้องแตะเดี๋ยวเร่งให้เอง”
แอลลี่หน้ามุ่ย
“ นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ไม่รู้จะหวงอะไรนักหนา”
เธอบ่นอุบอิบให้เขา
“ เอาบัตรคืนมาด้วย ใช้หมดไปเท่าไหร่ ”เธอรีบหยิบบัตรคืนให้เขาทันที
“ไม่เยอะหรอก ก็บอกอยู่ว่าเดี๋ยวคืน เดี๋ยวคืน”
เธอหน้าหงิกบ่นให้เขาไปเรื่อย
“เอ้า!!แล้วจะพาไปไหนเนี่ย”
ถ้าจำไม่ผิด คอนโดเขาต้องเลี้ยวซอยนี้ไม่ใช่หรอ แล้วอีตาบ้านี่จะพาเธอไปไหน
“ เงียบไปเถอะเดี๋ยวก็รู้เองแหละ”
แล้วเธอพูดอะไรได้บ้าง แอลลี่นั่งเงียบมองวิวข้างทางไปเรื่อย ผ่านไปซักพักใหญ่ๆรถก็ขับเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ ที่เธอเคยมาหลายครั้ง
“ ทำไมไม่บอกว่าจะพามาหาคุณป้ากับคุณลุง จะได้เอาชามาฝากคุณป้ากับคุณลุงด้วย ”
ปากเล็กคลี่ยิ้มดีใจ รีบปลดเข็มขัดแล้วเร่งลงจากรถ
“คุณป้า สวัสดีค่า!!~~”
แอลลี่สวัสดีเสียงหวาน รีบวิ่งเข้าไปกอดผ้าแพร
ป้าที่รักและเอ็นดูเธอยิ่งกว่าลูกในไส้ซะอีก
“แอลลี่หลานป้า คิดถึงจังเลยลูก”
ฟอด ฟอด
คูเปอร์เดินตามมาทันเห็นแม่เขาทั้งกอดทั้งหอมเด็กนี่ ได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินหายเข้าไปในครัว
“ป้าครับ มีอะไรกินบ้าง”
พอได้ยินคำถาม ทำเอาแม่บ้านตกใจ
“ว้าย!!คุณหนูของป้า ไปอดข้าวอดน้ำมาจากไหนคะเนี่ย ออกไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารเลยค่ะ เดี๋ยวป้าทำให้แป๊บเดียว ”
ป้าแม่บ้านรีบบอก คูเปอร์เดินออกมานั่งรอที่โต๊ะอาหารเงียบๆ ไม่นานป้าแม่บ้านก็เอาอาหารจานด่วนมาเสิร์ฟ เป็นกระเพราหมูกรอบไข่ดาวไม่สุกมากสองฟองจุกๆ ที่แม่บ้านจะต้องทำไว้เป็นประจำ เพราะเขาชอบกินเมนูนี้มาก
“ ได้แล้วค่ะ”
เขานั่งทานเงียบๆ ฟังแม่กับแอลลี่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันไป
“อ้าว!! คูเปอร์ ไหนน้องบอกทานข้าวมาแล้วไง
ไม่อิ่มเหรอลูก”
หลังจากคุยกับแอลลี่จนเพลิน แม่ก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าลูกชายตัวเองก็อยู่ด้วย
“ ทานแล้วครับแต่ไม่อิ่ม มีเด็กมาแย่งกินก่อน”
เขาตอบแม่แต่ไม่หันหน้าไปมอง
“ เด็กที่ไหนกันมาแย่งกิน ทำไมไม่เอาเงินให้เค้าไปซื้อกินล่ะ”
คูเปอร์ยิ้มมุมปาก หันกลับมองแอลลี่ที่กำลังหน้าบึ้ง
“ ไม่เป็นไรครับแม่ สงสารเด็กตาดำๆ”
ตอบแม่แล้วหันกลับมาทานข้าวต่อ
“ คุณป้าคะ แล้วพี่พิพิมละคะอยู่บ้านรึเปล่า”
แอลลี่รีบเปลี่ยนเรื่องคุย เขาหนะมันชอบกวนประสาท ใครจะรู้หละว่ายังไม่อิ่ม บอกเธอเองว่าให้เอาไปหมดจาน
“ ไม่อยู่จ้ะพี่ไปทำงานที่บริษัทกับคุณลุง เย็นๆก็กลับจ้ะ เดี๋ยวหนูอยู่ทานข้าวเย็นกับป้าด้วยนะ จะได้เจอคุณลุงกับพี่พิพิมด้วย”
ผ้าแพรบอกอย่างใจดี
“ ได้เลยค่ะ คิดถึงพี่พิพิมกับคุณลุงจะแย่”
แอลลี่พูดอย่างเอาใจ กอดป้าแพรแน่นไม่ยอมปล่อย
“ไม่รู้จะโอ๋อะไรกันนักหนา มีคนให้ท้ายแบบนี้ไงถึงเอาแต่ใจ พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่ได้”
กินข้าวเสร็จคูเปอร์ก็มานั่งลงข้างๆ แต่ก็ยังไม่วายพูดให้เธออีก