“เอ๊ะ!! เจ้าลูกคนนี้นิ หาเรื่องน้องมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เบื่อบ้างรึไง”
ผ้าแพรหันมาเอ็ดลูกชายตัวดีจนคิ้วขมวด มือเล็กยังลูบหลังแอลลี่เบาๆอย่างเอาใจ
“ จริงค่ะคุณป้า พี่ชอบว่าให้ลี่ พี่บอกไม่อยากให้ลี่อยู่ด้วย ลี่ก็ไม่อยากฝืนใจใคร ฮึก ฮึก”
พูดแล้วเธอก็น้ำตาคลอ เสียงสั่นเหมือนกำลังจะร้องไห้
“โห!นี่ยัยแสบ ฟ้องระยะเผาขนแบบนี้เลยเหรอ”
“หยุดเลย หยุดว่าน้องได้แล้ว น้องโตเป็นสาวแล้วนะ ยังทะเลาะเหมือนเด็กๆไปได้ จะไปไหนก็ไปเลย”
พอเห็นแม่บ่นอย่างจริงจัง เขาก็ลุกเดินขึ้นห้องไป แต่ไม่เดือดร้อนอะไร ทำลอยหน้าลอยตาด้วยซ้ำ
“อย่าสนใจพี่เขาเลยนะลูก คูเปอร์ก็แบบนี้แหละ แต่ความจริงไม่มีอะไรหรอก”
แอลลี่พยักหน้าเบาๆ ไม่มีอะไรได้ไงละ เขาหนะมันร้ายที่สุดต่างหาก
“แม่หวัดดีครับ”
นั่งคุยกันไปพักใหญ่ปอร์เช่ก็มา แต่คนนี้ดูนิ่งขรึม นิสัยคนละขั้วกับคูเปอร์เลยก็ว่าได้
“ปอร์เช่ น้องขึ้นมาเรียนมหาลัยเดียวกับลูกหนะ ช่วยกันดูแลน้องด้วยนะ”
ปอร์เช่เดินมาแล้วนั่งลงตรงข้ามกับแอลลี่
“สวัสดีค่ะพี่ปอร์เช่”
แอลลี่มองหน้านิ่งของปอร์เช่ก่อนพูดทักทาย
“ครับ แล้วเรียนคณะไหน”
“บริหารค่ะ”
เธอตอบพี่ชายพร้อมยิ้มบาง พี่ปอร์เช่ไม่เคยแกล้งเธอซักนิด ครั้งเดียวก็ไม่เคย นับตั้งแต่จำความได้
“แล้วซื้อชุดรึยัง”
‘หืม พี่ปอร์เช่ยิ่งโตยิ่งอบอุ่น เป็นพี่ชายที่แสนดีสุดๆไปเลย’
“เรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือแค่ไปรายงานตัวแล้วก็รอไปเรียนเลยค่ะ”
“อืม งั้นพี่ขอตัวนะ มีอะไรก็บอกพี่ได้เลย ผมขึ้นห้องนะครับแม่”
“ค่ะ/จ๊ะ ”
ปอร์เช่เดินขึ้นห้องไปแล้ว แอลลี่ยังมองตามไม่หยุด หน้าตาที่ว่าหล่อมากๆแล้ว เจอลุคนิ่งขรึมเข้าไปอีก ยิ่งทำให้พี่ดูหล่อและมีเสน่ห์คูณสิบไปเลย
“เดี๋ยวแอลลี่ขึ้นไปพักเถอะจ๊ะ เดินทางมาคงเหนื่อย เดี๋ยวมื้อเย็นเสร็จป้าให้แม่บ้านไปเรียก”
“ก็ได้ค่ะคุณป้า งั้นลี่ขอตัวนะคะ”
ตึก ตึก ตึก
แอลลี่เดินขึ้นบันไดช้าๆ ตามทางเดินไม้ที่คุ้นเคยในบ้านของคุณป้าผ้าแพร กลิ่นหอมของดอกไม้จากแจกันริมโถงลอยเข้าจมูก แอลลี่ทำจมูกฟุตฟิตดมกลิ่นดอกไม้หอมนั่นไปด้วย
“ห้องรับรองอยู่ด้านในสุด”
เธอพูดเบาๆกับตัวเอง
ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นว่าประตูห้องหนึ่งแง้มอยู่เล็กน้อย
‘ห้องนี้’
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันนิดๆ
จำได้แม่นว่านี่คือห้องของคูเปอร์
แอลลี่ชะงักฝีเท้า รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองเต้นแรงขึ้นมาเฉย
“ก็แค่ประตูแง้ม ทำไมต้องใจเต้นขนาดนี้วะ” เธอบ่นกับตัวเองในใจ
แต่แทนที่จะเดินผ่าน กลับเผลอชะโงกหน้าไปมองข้างในเบาๆ
แล้วก็ต้องตาโตแทบหลุดจากเบ้า!
คูเปอร์ยืนเปลือยท่อนบนเต็มๆ หน้าอกแข็งแรงกับกล้ามเนื้อเป็นลอนชัดเจน สะท้อนแสงแดดอ่อนจากหน้าต่าง
ผ้าขนหนูผืนเล็กพาดไหล่ ขณะที่เจ้าตัวกำลังใช้มือขยี้ผมเปียกๆ อย่างไม่รู้ว่ามีใครแอบมองอยู่
แอลลี่เบิกตากว้าง ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที
หัวใจเต้น ตึกตัก ราวกับจะหลุดออกมาจากอก
‘กล้าม…กล้ามเป็นมัดๆ…จริงด้วย ไม่ได้มโนไปเอง…’
เธอก้าวถอยหลังไปชนกับแจกันดอกไม้ข้างประตูเบาๆ กึก!
“หืม”
เสียงคูเปอร์ดังขึ้นเบาๆ
แอลลี่สะดุ้ง รีบหลบข้างประตูทันที
ใจเต้นแทบทะลุอก กลัวโดนจับได้
“บ้าเอ๊ย! นี่ฉันเพิ่งแอบดูผู้ชายเหรอเนี่ย!”
เธอก้มหน้ารีบเดินเร็วๆ ไปยังห้องรับรอง ปิดประตูดัง ปึ้ง! แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง
ใบหน้าแดงจัด มือทั้งสองข้างปิดหน้าแน่น
“นี่มันอะไรเนี่ยยยย แอลลี่!! บ้าไปแล้วแน่ ๆ!!
ในตอนนั้น คูเปอร์ที่เพิ่งเช็ดผมเสร็จ ยืนอยู่ในห้องอย่างสบายใจ แต่แล้วเสียง กึก! เบาๆที่หน้าห้องก็ดึงความสนใจเขาไปทางประตู
เขาหรี่ตามอง แล้วเดินตรงมาช้าๆก่อนแง้มประตูออก
เพียงแวบเดียว เขาก็เห็นแผ่นหลังใครบางคนที่เดินจ้ำๆ หนีไปทางห้องรับรอง
คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดหนึ่ง
มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กๆ
“ยัยตัวแสบ”เขาพึมพำเบาๆก่อนปิดประตู แล้วเดินกลับเข้าห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนเย็น
“พี่พิพิม!!”
เสียงหวานรีบวิ่งมากอดพี่สาวอย่างดีใจ
“แอลลี่ ว๊าย!!ไม่เจอกัน2ปี โตเป็นสาวแล้ว สวยมากน้องสาวพี่”
พี่พิพิมเอ่ยชม ผลักร่างเล็กแอลลี่ออกเบาๆ แล้วสำรวจทรวดทรงองเอว และหน้าตาจิ้มลิ้มของแอลลี่อย่างเต็มตา
“พี่พิพิมก็สวยขึ้นค่ะ คิดถึงจังเลยอ่าาา”
แอลลี่พูดเสียงอ้อน ก่อนจะมีคนหมั่นไส้ถึงกับกรอกตามองบน ก็จะใครละคูเปอร์คนเดิมคนเดียวนั่นแหละ
“แอลลี่หลานลุง”
ลุงปกป้องที่พึ่งเดินพ้นประตูบ้าน เรียกชื่อหลานสาวอย่างดีใจ
“ลุงปกป้องขา สวัสดีค่ะ”
ปกป้องยิ้มกว้างยืนอ้าแขนรอหลานสาว แอลลี่ปรี่เข้าไปแล้วกอดลุงเบาๆ
“เป็นไงบ้างลูก เดินทางเหนือยรึเปล่า”
กอดเพียงไม่นานก็ผละออก มือหน้าลูบผมหลานสาวเบาๆอย่างเอ็นดู
“นิดหน่อยค่ะคุณลุง คุณลุงสบายดีนะคะ”
“ลุงยังสบายดี แล้วป๊าหนูละ เป็นไงบ้าง”
ปกป้องถามถึงลีโอน้องรัก ที่แทบไม่ได้เจอกันในปีหลังๆมานี้ เพราะต่างคนก็ต่างยุ่งกับธุรกิจ
“ป๊าสบายดีค่ะ บ่นคิดถึงลุงปกป้อง ลุงภูมิ ลุงไดจิ ลุงสายธาร และก็คุณลุงเดย์ค่ะ เห็นบอกว่าถ้าเคลียร์งานที่เหมืองเสร็จ ก็จะบินมาหาลุงๆค่ะ”
แอลลี่คุยกับปกป้องเสียงเจื้อยแจ้ว
“จะคุยกันอีกนานไหมครับ ผมหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว”
คูเปอร์นั่งลงอีกฝั่งของโต๊ะ หน้าตาไม่สบอารมณ์ซักเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่าคนในบ้านจะโอ๋เด็กแสบนี่อะไรนักหนา
“มาๆลูก มาทานข้าวกัน วันนี้ป้าทำของที่หนูชอบเองเลยนะ มาสิคุณ พิพิม ปอร์เช่ ”
ผ้าแพรเรียกทุกคนให้มาทานมื้อเย็นอย่างพร้อมหน้า
“เดี๋ยวลี่ขอถ่ายรูปแป๊บนะคะ อยากส่งไปให้ป๊ากับม๊าดู อุ้ย ลี่ลืมไปว่าไม่ได้เอามือถือมา ขอยืมของพี่พิพิมนะคะ”
“ได้จ๊ะ”
ภาพบนโต๊ะอาหาร ทุกคนต่างก็ยิ้มดีใจ มีเพียงคูเปอร์ที่ไม่มองกล้องด้วยซ้ำ ถ่ายรูปเสร็จทุกคนก็ลงมือทานอาหาร
“ทานเยอะๆนะลูก/ขอบคุณค่ะคุณป้า”
“นี่จ๊ะ แอลลี่ชิมนี่ดู/ขอบคุณค่ะพี่พิพิม”
คูเปอร์มองดูกลายๆ เธอเป็นเด็กน่ารักสำหรับทุกคน แต่สำหรับเขาเธอคือเด็กปีศาจ
คูเปอร์ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนวางลงแล้วเอ่ยขึ้นลอยๆโดยไม่ได้หันไปมองใคร
“ช่วงนี้บ้านเรามีเด็กนิสัยไม่ดี แอบดูคนอื่นเปลือยอยู่ด้วยนะครับ”
แอลลี่แทบสำลักข้าว
“แค่กๆๆ!!”
จนผ้าแพรตกใจ
“อ้าว แอลลี่!เป็นอะไรลูก!”
แอลลี่รีบยกน้ำขึ้นดื่ม แล้วหันขวับไปมองคูเปอร์
เจ้าตัวกำลังเคี้ยวข้าวหน้าตาเฉย ราวกับไม่ได้พูดอะไรเลยเมื่อครู่
แต่แววตานั่นคือกำลังสะใจ
“พูดอะไรของพี่เนี่ย! ใครไปแอบดู ไม่มี๊!”
คูเปอร์เหล่มองเธอแวบหนึ่ง
“เหรอ~ ก็นึกว่าแอบดู เห็นคนบางคนย่องๆ อยู่หน้าห้องเมื่อตอนบ่าย”
“ย่องอะไรล่ะ! ก็ใครใช้ให้พี่ไม่ปิดประตูกันเล่า!”
แอลลี่หลุดโวยออกมาเสียงสูง ก่อนจะชะงัก
คุณป้าผ้าแพรเลิกคิ้ว
“หืม ไม่ปิดประตูอะไรลูก”
แอลลี่เบิกตากว้าง รีบหัวเราะกลบเกลื่อน “อะไม่มีอะไรค่ะคุณป้า! แฮร่”
คูเปอร์ยิ้มบางๆ เอื้อมตักแกงอีกถ้วย
แล้วพูดเสียงเรียบแฝงความกวนอีกที
“คราวหน้าถ้าอยากดู บอกดีๆก็ได้”
“พี่คูเปอร์!!!”
แอลลี่ทั้งอายทั้งเขิน มือเล็กบีบช้อนกับส้อมในมือแน่น ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่กล้ามองหน้าเขาอีก
“เลิกแกล้งน้องได้แล้วคูเปอร์ ดูสิน้องอายหมดแล้วนั่น”
พิพิมเอ็ดน้องชายเบาๆ แต่คูเปอร์ก็ไม่สะทกสะท้านอะไร ไม่มีใครรู้จักเด็กนี่ดีเท่าเขาหรอก
เธอนะเหรอจะอาย ไม่มีทาง