ตอนที่ 1-1

1386 Words
ตอนที่ 1 เหตุการณ์ความวุ่นวายหลังเวทีประกวดนางงามระดับประเทศ ก่อนถึงเวลาประกวดจริงไม่กี่นาที เต็มไปด้วยความอลหม่านวุ่นวายของบรรดาผู้เข้าประกวดและคนดูแล เสียงดังเซ็งแซ่ “แกโอเคไหมลัน” สีหน้าของคนถามดูเป็นกังวลไม่ต่างจากหญิงสาวเลยสักนิด เพราะเรื่องที่เธอหมายถึงมันไม่ใช่แค่การเดินออกไปสวยๆ หมุนตัวโชว์ แต่เธอหมายถึงแขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่ง ที่ปีนี้ครอบครัวของเขาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ มิหนำซ้ำเขาคนนั้นคือคนที่เธอเกลียดและกลัวที่สุด แต่กลับมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าเวทีประกวดสำคัญในค่ำคืนนี้ “โอเคมั๊ง...พี่แป้ง” หญิงสาวพยายามพรูลมหายใจ เพื่อหวังบรรเทาทั้งความตื่นเต้น ประหม่าและตื่นกลัวใครคนนั้นด้วย แต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือ ยิ้มแห้ง “เขาคงจำลันไม่ได้หรอก มั๊งนะ” เหมือนจะมั่นใจ แต่ไม่เลยสักนิด! พี่แป้งหรือ ปัณฑารีย์ พยายามสลัดความคิดด้านลบ หมายจะทำให้เพื่อนรุ่นน้องมั่นใจมากขึ้นด้วยการฉีกยิ้มกว้าง ลูบเนื้อลูบตัวอีกฝ่าย ราวกับกำลังร่ายมนตร์ขลังใส่เพื่อให้การประกวดในวันนี้ผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี วันนี้ขอให้ติด หนึ่งในห้ารางวัลใหญ่วันนี้ด้วยเถิด เพี้ยง! เมื่อถึงเวลาที่การประกวดนางงามได้เริ่มต้นขึ้น เหล่าสาวงามจำนวนมากทยอยกัน ออกไปยลโฉมให้คณะการได้ดูในรอบแรก ในชุดว่ายน้ำแบบทูพีชสีเหลืองมะนาว พริมต์ริตาหรือชื่อเดิมว่าดาลันดา สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ หวังให้อารมณ์ตัวเองผ่อนคลาย ลดความกังวลและความตื่นเต้นที่มี พยายามที่จะตัดเรื่องกวนใจที่วิ่งเข้ามารบกวนความคิดอยู่ตลอดเวลา นาทีนี้เธอจะต้องโฟกัสสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่เบื้องหน้า และพยายามนึกไปถึงแรงผลักที่ทำให้เธอต้องทำในสิ่งนี้ รวบรวมกำลังใจเฮือกใหญ่ จนเมื่อถึงคิวที่ตัวเองต้องไปปรากฏโฉม สู่สายตาคนทั่วทั้งฮอลล์และทั้งประเทศที่กำลังถ่ายทอดสดได้ดู พริมต์ริตาฉีกยิ้มหวาน เดินตามจังหวะที่ซ้อมมาตลอดหลายเดือน ทิ้งสะโพกลงในจังหวะที่พอเหมาะ พลางส่งสายกวาดมองไปทั่วเพื่อเรียกคะแนน ก่อนที่ลมหายใจของเธอจะชะงักกึก เมื่อสายตาเหลือบไปสบประสานกับใครบางคนที่เธอนึกเกลียดที่สุด ชิงชังจนเข้ากระดูกดำ!! เคลย์ตัน ศาตนันท์!!! เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงสำคัญของการตัดสินรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นรอบประกาศรางวัลผู้เข้ารอบห้าคนสุดท้าย พริมต์ริตายืนสงบสติอารมณ์อยู่ตรงมุมหนึ่งเตรียมตัวปรากฏโฉมต่อหน้าคณะกรรมการเป็นครั้งสุดท้ายในชุดราตรีเดรสเกาะอกยาวกร่อมพื้น แหวกข้าง สีน้ำเงินกรมท่าประดับประดาด้วยกริตเตอร์ ส่องประกายวิบวับล่อกับแสงไฟ ยิ่งขับให้เธอสวยโดดเด่นมากขึ้น แม้จะได้รางวัลขวัญใจช่างภาพและรางวัลอื่นๆมาครอบครองแล้วแต่เธอก็ยังนึกหวั่น เมื่อคิดว่าจะต้องออกไปปรากฏตัวต่อหน้าใครบางคนที่เธอแสนชิงชัง และไม่อยากพบเจอมากที่สุด แต่ทุกครั้งที่เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ เธอมักจะพบว่าสายตาคู่นั้น คอยจ้องมองเธอไม่วางตา จนเธอสั่นประหม่าทุกครั้งกับสายตาประดุจเหยี่ยวคู่นั้น พริมต์ริตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะเดินกรีดกรายออกไปตามเสียงเรียกของพิธิกรในงาน พร้อมเสียงโห่รับ เสียงเชียร์และเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์ “นายครับ...”ชายร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำ หน้าตาดี เดินเข้ามาโน้มตัวเข้าหาคนเป็นนาย กระซิบกระซาบอะไรบางอย่างที่ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพปั้นคิ้วขมวดเล็กน้อย ก่อนจะพยักรับรู้กับสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทบอก พลางเหลือบสายตามองไปบนเวทีที่กำลังมีการประกาศรางวัลสองคนสุดท้ายสำหรับค่ำคืนนี้ ว่าใครจะได้พิชิตมงกุฎสาวที่งามที่สุดในประเทศไปครอบครอง เคลย์ตัน ศาตนันท์ หนุ่มเพลย์บอยรูปหล่อสุดฮอตของแวดวงไฮโซขณะนี้ที่มีดีกรีเป็นถึงลูกชายรัฐมนตรีคนสำคัญระดับประเทศ และยังเป็นหลานชายคนเล็กของคุณหญิงอำภา ศาตนันท์ เจ้าของธุรกิจใหญ่มากมายทั่วเอเชีย นั่งจ้องมองสาวงามที่ตนสะดุดตาและหมายปองตั้งแต่แรกเห็น แม้ภายนอกจะเรียบเฉยไม่แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีให้ใครรู้ แต่สำหรับโฬม แค่เพียงนาย ส่งสายตาเขาก็รับรู้ความต้องการทุกอย่างของนายได้เป็นอย่างดี ข้อมูลที่เขาไปสืบหามาทำให้นายสนใจไม่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้นายหงุดหงิดจนต้องย่นคิ้วใส่ เพียงเพราะสาวที่นายหมายปอง กำลังถูกสนใจจากคนดังคนหนึ่งที่มีอิทธิพลในแวดวงสังคมพอสมควร แต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องใส่ใจนัก หากใครหรืออะไรที่ เคลย์ตัน ศาตนันท์ ต้องการแล้วนั้นไม่มีอะไรที่เขาไม่เคยได้! สิ้นเสียงประกาศรายชื่อของบุคคลที่เป็นสาวงามที่สุดในค่ำคืนนี้จากพิธีกรชื่อดังระดับประเทศ เสียงปรบมือ กู่ร้องดังกึกก้องไปทั่วเพราะตัวเต็งถึงสองคนที่ได้ผ่านเข้ารอบมาจับมือกันทำให้ต่างมีกลุ่มแฟนคลับเป็นของตนเอง พริมต์ริตายืนยิ้มให้กับช่างภาพกลุ่มหนึ่งที่มารอถ่ายภาพตรงมุมหนึ่งของเวทีประกวด เพราะตรงกลางเวทีเป็นพื้นที่สำหรับคนชนะเลิศของค่ำคืนนี้ ในขณะที่เธอได้รองอันดับหนึ่งมาครอบครองอย่างสมใจหมาย แม้จะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่การได้เป็นรองอันดับหนึ่งสำหรับเธอก็ถือว่าดีมากแล้ว ร่างสูงโปร่งเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ พลางส่งสายตาจ้องมองมาที่เธอ ทำให้หญิงสาวเผลอกลั้นลมหายใจไปหลายอึดใจเมื่อสายตาสบประสานกัน หัวใจเธอเต้นถี่แรงเร็วระรัวทั้งประหม่าและตื่นเต้น แต่ไม่ใช่เพราะเขินอายที่หนุ่มไฮโซรูปหล่อชื่อดังระดับประเทศมายืนจ้องตาเธอหรอกนะ แต่เพราะอะไรบางอย่างที่ทำให้สมองส่วนลึกสั่งให้เธอต้องขยับถอยหนี และหลบเข้าไปทางด้านหลังเวทีอย่างเร็วที่สุด “ไหวไหม ลัน” ปัณฑารีย์ รีบวิ่งเข้ามาหาทั้งตื่นเต้นดีใจ ที่หญิงสาวได้รับรางวัลใหญ่ เป็นถึงรองอันดับหนึ่ง แต่ก็ยังเป็นห่วงหญิงสาวรุ่นน้องเพราะสีหน้าซีดขาว ตัวสั่นราวกับลูกนก ทำให้คำยินดีที่เตรียมไว้รอแปลเปลี่ยนเป็นคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยแทน “ไหวค่ะ แล้วนี่เราต้องทำไรต่อไหมคะ” “มีจ้ะ เห็นว่าจะถ่ายรูปกับสัมภาษณ์นะ เดี๋ยวรอคุณต้นอ้อดีกว่า พี่ยังไม่รู้อะไรมาก” ปัณฑารีย์เอ่ยบอก ก่อนจะกุลีกุจอช่วยหญิงสาวถือดอกไม้และชายกระโปรงที่ค่อนข้างลากยาวไปยังห้องพักนางงามที่มีเพื่อนนางงามหลากหลายคนอยู่บริเวณนั้น งานเลี้ยงเล็กๆฉลองให้กับนางงามทุกคนไม่ได้เป็นทางการมากนัก จัดขึ้นแบบเรียบง่ายไม่มีพิธีรีตองอะไรมีเพียงเครื่องดื่มและอาหารจำนวนหนึ่งไว้สำหรับรองรับนางงามและบรรดาพี่เลี้ยงและทีมงานที่เหน็ดเหนื่อยกันมาหลายวัน เหล่าบรรดานางงามที่มีรางวัลการันตี หลังจากให้สัมภาษณ์และถ่ายรูปกับสื่อต่างๆเสร็จเรียบร้อย ก็พากันเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่พวกเธอก็มีความสุข เสียงปรบมือกับคำยินดีดังเซ็งแซ่ พร้อมกับสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มของทุกคน “ริตา ยินดีด้วยนะ” เสียงหวานเพื่อนนางงามคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ในถือแก้วไวน์สองใบ ใบหนึ่งยื่นให้กับหญิงสาวที่ได้รับรางวัลรองอันหนึ่งสำหรับค่ำคืนนี้ “ขอบใจจ้ะขวัญ” ขวัญฉีกยิ้มหวาน พร้อมยื่นแก้วออกไปตรงหน้าให้อีกฝ่ายชนแก้วตอบกลับ ซึ่ง พริมต์ริตาเองก็ไม่ขัดน้ำใจ ยกแก้วที่อยู่ในมือของตนเองชนกับแก้วของอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแช่มชื่นมีความสุข
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD