“นายครับ พวกมันเริ่มแล้วครับ” บอดี้การด์หนุ่มพ่วงท้ายคนสนิทรายงานความคืบหน้าบางอย่างให้กับชายร่างสูงโปร่งที่ยืนไขว้หลัง มองวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนเบื้องหน้าบนตึกสูงของโรงแรมเคลย์คิงตัล ที่มีอาคารเชื่อมต่อกับห้างสรรพสินค้าดิไอคอน ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประกวดในค่ำคืนนี้ เอ่ยสั่งเสียงเข้ม
“อืม...มึงไปจัดมาละกัน เก็บกวาดให้เรียบร้อย”
“ครับนาย” โฬมรับคำก่อนจะถอยหลังเดินออกไปตามคำสั่งทันที
เป็นเวลาเดียวกับที่พริมต์ริตา ที่กำลังยืนหลบสายตาของผู้คนอยู่บริเวณมุมห้องจัดเลี้ยงด้วยความรู้สึกแปลกๆในร่างกาย โพรงอกร้อนวูบวาบลามไปช่องท้อง เหงื่อซึมทั่วกรอบหน้า มึนเบลอ วิงเวียนศีรษะ ใจเต้นแรงรัวเร็ว ภายในค่อยๆรุ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ หายใจหอบถี่ จนแทบประคองสติไม่อยู่ แต่ก็พยายามที่ ยืนให้ตรง กะพริบตาถี่ตั้งสติ ปรับโฟกัสตรงหน้าให้มองเห็นชัดมากขึ้นแต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ริตา แกเป็นอะไรหรือเปล่า ไปนอนพักก่อนไหม” ขวัญที่คอยมองอยู่นานรีบวิ่งเข้ามาประคอง หญิงสาวที่เหมือนจะทรงตัวไม่อยู่
“ไม่ล่ะ ฉันไม่เป็นไร สงสัยคงนอนน้อยน่ะ”
“งั้นเหรอ...ฉันว่าริตาไปนอนพักดีกว่า ดูสิหน้าซีดมากเลย ฉันเปิดห้องเอาไว้พอดี ริตาขึ้นไปนอนก่อนก็ได้” ขวัญคะยั้นคะยอ ทำทีกุลีกุจอช่วยประคองเพื่อนนางงามเหมือนห่วงใย
พริมต์ริตาแม้จะมึนงง แต่ความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เธอออกอาการขัดขืนเล็กน้อยไม่ยินยอมจะที่เดินไปกับขวัญง่ายๆอย่างที่อีกฝ่ายคิดเท่าไหร่นัก จนต้องออกแรงเล็กน้อย บังคับพาเดินมายังเส้นทางที่ค่อนข้างปลอดผู้คนเพราะต่างสนุกสนานกันอยู่ด้านในไม่มีใครมาสนใจคนทั้งคู่ในเวลานี้ พาขวัญประคองพาเดินอย่างทุลักทุเลเล็กน้อยจนเกือบมาถึงหน้าลิฟต์
“ริตา เธออย่าขืนตัวสิ”
“เธอจะพาเราไปไหนขวัญ”
“ก็บอกว่าจะพาไปพักไง ทำไมเธอพูดไม่รู้เรื่องเนี่ย” เพราะอีกฝ่ายมีท่าทีขัดขืนทำให้พาขวัญเริ่มหงุดหงิดชักสีหน้าไม่พอใจ
“เราไม่อยากไป...เราจะกลับ” เธอพยายามขืนตัวเองด้วยเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิด ความรู้สึกบางอย่างมันกำลังบอกเธอว่าเพื่อนร่วมเวทีคนนี้กำลังจะพาเธอไปไหนสักแห่ง แต่คงไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก
“ขอโทษนะครับ” เสียงเข้มที่เอ่ยขึ้นจากด้านหลังของคนทั้งคู่ ทำให้พาขวัญชะงักไปเล็กน้อย หันหน้าไปมองด้วยความหงุดหงิดเสียอารมณ์
“มีอะไรคะ”
“จะพากันไปไหนเหรอครับ” พาขวัญกวาดสายตามองชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี ในชุดสูทสีดำด้วยสายตาหวาดระแวงเล็กน้อย
“จะพาเพื่อนขึ้นไปนอนพักบนห้องค่ะ เพื่อนเมา” ตอบเสียงห้วน เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขัดใจ
“ผมว่าคุณขวัญส่งเพื่อนคุณมาให้ผมช่วยประคองดีกว่านะครับ กว่าจะไปถึงห้อง ท่านคงจะหงุดหงิดคุณขวัญเปล่าๆนะครับ”
“เอ่อ...คุณเป็นคนของท่านเหรอคะ” พาขวัญมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้รับคำตอบที่เธอพอใจ
“ครับ”
“แล้วก็ไม่บอกแต่แรก ปล่อยให้แบกอยู่ได้” เธอบ่นว่าอุบอิบเสียงเบา ก่อนจะส่งร่างของหญิงสาวที่ดูไร้เรี่ยวแรงยืนโอนเอนไปมาให้อีกฝ่าย
“อื้อ....ร้อน ทำไมมันร้อนแบบนี้ล่ะ” พริมต์ริตานิ่วหน้า ดิ้นไปมาพยายามขืนตัวออกจากการถูกใครบางคนจับเนื้อจับตัวเธอ สีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะต้านไหว
“งั้นฉันฝากด้วยละกัน ฉันไปล่ะ” พาขวัญคว่ำริมฝีฝากใส่พริมต์ริตา สายตาชิงชังอย่างไม่ต้องปกปิด
“หึ โชคดีนะริตา ขอให้คืนนี้เธอได้ขึ้นสวรรค์สมใจ” หญิงสาวแสยะยิ้มใส่เพื่อนร่วมเวที ก่อนจะเดินจากไปอย่างอารมณ์ดีที่ภารกิจของเธอวันนี้เสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี แถมไม่ต้องเหนื่อยแบกไปส่งถึงห้องก็มีคนมาช่วยพาไป งานนี้สบายๆรับเงินเต็มจำนวนกลับบ้านไปนอนเล่นนับเงินให้สบายใจดีกว่า
โฬมมองตามหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาสมเพชก่อนจะก้มหญิงสาวที่เขากำลังประคองกอดอยู่อย่างระมัดระวัง เอ่ยเสียงทุ้มนุ่มนวล สุภาพ
“อดทนหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณไปหานาย”
“นายไหน!? ฉันไม่ไป! หื้อ...ทำไมมันร้อนแบบนี้ ใครก็ได้เปิดแอร์ให้ฉันที หื้อ” หญิงสาวทุรนทุรายสะบัดร้อนสะบัดหนาว บอกไม่ถูก ครั้นเมื่อถูกคนแปลกหน้ามาสัมผัสตัวกลับวูบวาบ ถูกใจกับสัมผัสนั้นจนเธอขนลุก นึกหวั่นในใจว่าตนเองกำลังโดนวางยา ความรู้สึกว่าภัยกำลังจะมาถึงตัวทำให้พยายามจะขืนตัวหนี ออกแรงดิ้นแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะร่างกายไร้เรี่ยวแรง แต่ความรู้สึกบางอย่างที่ร้อนรุ่มอยู่ภายในมันกลับชื่นชอบที่จะถูกเขาสัมผัสมากกว่าผลักไส
“คุณอยู่ๆนิ่งหน่อย อย่าดิ้น” บอดี้การ์ดว่าเสียงเข้ม พยายามประคองเธอที่เริ่มออกแรงดิ้นไปมาพาเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นที่นายของเขารออยู่ ซึ่งอยู่บนชั้นสูงสุดของที่นี่
ภายในห้องพักหรูที่นายเคลย์ตัน ศาตนันท์นั่งจิบไวน์แดงรสเลิศ สายตามองทัศนีย์ภาพยามค่ำคืนของเมืองหลวงด้วยสีหน้าราบเรียบ ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ นอกจากต้องการผ่อนคลายความรู้สึกในเวลานี้เท่านั้น เสียงติ๊ด สัญญาณเปิดประตูห้องพักดังขึ้นพร้อมกับเสียงโหวกเหวก โวยวายของหญิงสาวที่เริ่มรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่างกายจากภายในมันยิ่งทวีความต้องการบางอย่างมากขึ้น แต่เธอก็พยายามที่จะฝืนมันไหวด้วยสติที่มีอันน้อยนิด
“นายครับ ผมพาเธอมาแล้วครับ”
“ทำไมเป็นแบบนี้” ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจเมื่อได้เห็นอาการของหญิงสาวที่ตนหมายปอง อยู่ในสภาพยืนโอนเอนไปมาในอ้อมแขนของบอดี้การ์ดเขา
“เธอโดนวางยาครับนาย” พูดจบก็รีบประคองเธอไปนั่งบนโซฟาตัวยาวกลางห้อง ก่อนจะก้มหัวให้กับคนเป็นนายแล้วรีบเดินออกจากห้องพักไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้เขาสั่ง
เคลย์ตัน มองหญิงสาวที่กำลังอยู่ในสภาพทุรนทุราย สะบัดร้อนสะบัดหนาว บิดกายไปมาอย่างทรมาน ด้วยฤทธิ์ที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคือยาอะไร และใครเป็นคนทำ ซึ่งมันก็คงอยากได้เธอไปครอบครองเหมือนที่เขาเองก็อยากได้เธอมาครอบครองเช่นกัน
“อื้อ...คุณเป็นใคร พาฉันมาทำไมที่นี่ โอ๊ยร้อน!ทำไมมันร้อนแบบนี้ คุณเอายาอะไรฉันกิน” พริมต์ริตาพยายามสะบัดใบหน้าไปมาเพื่อเรียกสติตนเอง แต่เหมือนว่าจะไม่ได้ผลสักนิด ร่างกายภายในของเธอมันกำลังทำตรงกันข้ามความคิด สติสัมปชัญญะที่มีเหมือนกับถูกยานรกนั่นกัดกร่อนจนแทบจะเลือนหายไป พร้อมกับความร้อนในกายที่ยิ่งแผดเผารุมเร้าราวกับต้องการละลายกล้ามเนื้อของเธอให้หลอมเหลวไปกับความต้องการบางอย่างที่ทวีมากขึ้นเรื่อยๆ
พริมต์ริตาลูบไล้เนื้อตัว เพื่อต้องการระบายความปวดแสบปวดร้อนที่โถมกระหน่ำเข้าสู่ร่างกาย หวังบรรเทาให้มันทุเลาเบาบางลงแต่ก็ไม่เป็นผล
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณทั้งนั้น”
“โก...หก...คุณ...วาง ยาฉัน” เธอละล่ำละลักบอก นัยน์ตาสวยมองเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยความต้องการบางอย่าง แต่เธอก็พยายามที่จะอดกลั้นมันไว้ เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะสอดส่ายสายตามองไปรอบๆห้อง จนมองเห็นทางที่จะไปห้องน้ำ พยายามพยุงตัวเองที่จะลุกเดินไป
“คุณจะทำอะไร”
“ปะ...ปล่อย” เธอพูดว่าปล่อย แต่กลับจับมือเขาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว