พาเมียขึ้นเตียงในคืนเข้าหอ

1470 Words
ปุณยวีร์เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางประหม่า หลังจากใช้เวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำสระผม หญิงสาวไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้าไปด้วย ตอนนี้จึงจำใจต้องใช้เพียงผ้าขนหนูของสิงหราชพันรอบกายไว้ เรียวเท้าเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังตู้เสื้อผ้า ซึ่งแม่บ้านได้จัดเสื้อผ้าของเธอแขวนไว้ในนั้นเรียบร้อยแล้ว สิงหราชนอนหนุนท่อนแขนแกร่งอยู่บนเตียงนอน เขาไม่ได้สวมเสื้อจึงเผยกล้ามเนื้อแน่นเป็นมัดๆ กายท่อนล่างถูกผ้าห่มปกคลุมไว้ ปุณยวีร์คิดว่าชายหนุ่มยังคงเปลือยตัวอยู่ด้วยซ้ำ สิงหราชค่อยๆ ลืมตาขึ้น เห็นภรรยายืนหันหลังอยู่จึงชำเลืองมองร่างงดงาม เธอกำลังหยิบเอาชุดนอนออกมาจากตู้เสื้อผ้า คนเจ้าเล่ห์จึงถือโอกาสนี้จ้องมองแผ่นหลังขาวเนียน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกถึงอารมณ์ปรารถนา มองเห็นต้นขาอ่อนยิ่งเกิดอารมณ์หื่นกระหาย แม้ชายหนุ่มจะพยายามควบคุมอารมณ์แล้วแต่กลับรู้สึกเหมือนจะอดใจไม่ไหว เพราะปุณยวีร์ช่างงดงามเกินกว่าจะหักห้ามใจ ทำให้ตอนนี้เขาจำเป็นต้องแกล้งหลับตาอีกครั้ง ทำราวกับว่าเผลอหลับไปแล้ว ปุณยวีร์สวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จแล้วจึงหันมองไปยังพ่อเลี้ยงสิงหราช เขานอนหลับอยู่บนเตียง แต่เธอตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่มีทางนอนเตียงเดียวกันกับสามีกำมะลอ ร่างเล็กเดินอ้อมมายังเตียงนอนอีกฝั่ง จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงเอาหมอนใบใหญ่มากอดไว้ และย่องเดินไปยังโซฟาซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปลายเตียงนอนไม่กี่ก้าวเดิน เธอวางหมอนลงบนโซฟาตัวยาว แล้วเดินไปเปิดเอาผ้าห่มผืนใหญ่ในตู้เสื้อผ้า จากนั้นร่างอรชรจึงเดินย่องปลายเท้ากลับมายังโซฟาอีกครั้ง ร่างเล็กค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงด้วยความเหนื่อยล้า เพราะพิธีวิวาห์จัดขึ้นตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ สายตายังคงจับจ้องมองไปยังพ่อเลี้ยงสิงหราช ในใจหวาดกลัวเหลือเกินว่าเขาจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ปุณยวีร์ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มเพียงแค่แกล้งหลับไปเท่านั้น "หลับไปจนถึงเช้าไม่ต้องตื่นขึ้นมาเลยนะ" เธอพึมพำเสียงเบา และขยับเรียวเท้าสวยขึ้นมาวางบนโซฟา จากนั้นจึงเอนหลังพิงพนักโซฟา เพราะเส้นผมยังคงเปียกชุ่มหลังจากการสระ แต่ไม่กล้าใช้ไดร์เป่าผมเพราะกลัวว่าสิงหราชจะตื่นขึ้นมาอาละวาด ปุณยวีร์ตั้งใจจะนั่งอยู่เช่นนี้จนกว่าผมจะแห้ง เพราะถึงอย่างไรเสียหากทิ้งตัวนอนลงไปก็ไม่มีทางข่มตาหลับได้ลงอยู่ดี มีเรื่องมากมายทำให้เธอรู้สึกสับสนและกลุ้มใจ ระหว่างกำลังนั่งมองใบหน้าหล่อคมคายที่แกล้งหลับ หัวสมองกลับเอาแต่เห็นภาพเปลือยกายของสิงหราช แก่นกายแข็งชันของเขาปรากฏอยู่ในหัวสมองของปุณยวีร์ คิดไม่ถึงว่ามันจะติดตามากถึงขนาดนี้ "บ้าที่สุด ทำไมถึงคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนี้วะ" มิหนำซ้ำลำดุ้นใหญ่ยังส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของหญิงสาวเป็นอย่างมาก แต่น่าแปลกใจที่เธอรู้สึกถึงความหวามไหว รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายที่อธิบายไม่ถูก แล้วเช่นนี้ปุณยวีร์จะสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปได้อย่างไร ในเมื่อภาพความใหญ่โตของแก่นกายนั้นยังคงปรากฏในหัวสมองชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ "บ้าจริง!" หญิงสาวเผลอสบถออกมา ทำให้สิงหราชจำเป็นต้องลืมตาขึ้น ปุณยวีร์จึงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นเมื่ออีกฝ่ายกำลังลุกขึ้นนั่ง สิงหราชดึงผ้าห่มออกจากกายท่อนล่าง ทำให้หญิงสาวดึงผ้าห่มผืนใหญ่ของตนขึ้นมาคลุมศีรษะและร่างกายไว้ ขณะที่คนตัวโตกำลังก้าวลงจากเตียงนอนและเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าภรรยา "เธอว่าใครบ้า?" เขาถามเสียงขุ่น ทว่าปุณยวีร์กลับไม่ยอมพูดอะไรและเอาแต่ส่ายหน้า "แล้วนี่หอบหมอนหอบผ้าห่มมันนอนอะไรตรงนี้ ที่นอนออกจะกว้างใหญ่ทำไมไม่นอนบนเตียงด้วยกัน?" ชายหนุ่มไม่เพียงแค่ถาม แต่กลับกำลังพยายามดึงผ้าห่มออกจากศีรษะของเธอ "อย่ามายุ่งกับฉันนะ ฉันไม่อยากเห็นคุณเปลือยไปทั้งตัวอีก ฉันไม่ยอมมองคุณแก้ผ้าต่อหน้าฉันอีกหรอก ฝันไปเถอะ เมาก็ไปนอนสิคะ" เธอโวยวายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ แต่ในที่สุดสิงหราชก็แรงเยอะยิ่งกว่า เขาดึงผ้าห่มผืนใหญ่ออกจากศีรษะและร่างกายของภรรยาได้สำเร็จ ทว่าปุณยวีร์กลับยังคงหลับตา และยังขยับมือเรียวขึ้นมาปิดตาไว้อีกด้วย ร่างกำยำจึงทิ้งตัวนั่งลงข้างกายบอบบาง "ฉันไม่ได้โป๊" เขาว่า แล้วขยับมือแข็งแรงขึ้นมาดึงมือของเธอออกจากใบหน้าสวย ปุณยวีร์จึงค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น ถึงได้เห็นว่าสิงหราชสวมกางเกงขาสั้นแล้ว แม้ว่ากายท่อนบนจะยังคงเปลือยเปล่าก็ตาม "เหรอคะ ก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงตื่น คุณนอนหลับไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ คุณดื่มจนเมา กลับไปนอนต่อเถอะนะคะ" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เพราะยังคงคับข้องใจเรื่องที่เขากล้าเปลือยกายต่อหน้าเธอ "ขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยกันฉันถึงจะยอมนอน" คนเจ้าเล่ห์หาข้ออ้าง อีกอย่างก็อยากให้คุณปุณยวีร์นอนหลับสบาย ไม่ใช่นอนบนโซฟาแคบๆ เช่นนี้ "ไม่เอาหรอกค่ะ ฉันไม่นอนบนเตียงเดียวกันกับคุณหรอก" เธอว่าแล้วจึงเมินหน้าหนีไปทางอื่น "นอนเตียงเดียวกันเธอกลัวว่าฉันจะปล้ำเธองั้นเหรอ?" เขาเลิกคิ้วถาม "ก็ดูพฤติกรรมของคุณสิคะ มีที่ไหนเพิ่งจะเจอกันวันแรกก็มาแก้ผ้าให้กันดูแล้ว" หญิงสาวหันขวับมาจ้องมองใบหน้าหล่อคมคาย "แต่เราเป็นผัวเมียกัน แต่งงานจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เธอคิดว่าเรื่องอย่างว่าเนี่ยมันจะหลีกเลี่ยงได้สักนานสักแค่ไหนกันฮะ คิดว่าแต่งงานกันแล้วฉันจะปล่อยให้เธอได้นอนสบายๆ งั้นเหรอ พ่อเธอเป็นหนี้ครอบครัวฉันอยู่ตั้งเท่าไหร่รู้หรือเปล่า?" เขาไม่ได้ตั้งใจยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด แต่นั่นก็ทำให้ปุณยวีร์รู้สึกขุ่นเคืองไปแล้ว "คุณสิงห์! นั่นแหละค่ะประเด็น เราแค่แต่งงานกันเพราะความต้องการของผู้ใหญ่ ฉันแต่งงานเพื่อทำงานใช้หนี้ ฉันต้องทำงานในไร่ไม่ใช่เหรอคะ ไม่ใช่ขึ้นเตียงใช้หนี้ คุณนี่มันบ้าที่สุดเลย เป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย?" ปุณยวีร์พูดด้วยความโกรธ และครั้งนี้ก็จ้องมองสิงหราชด้วยแววตาเอาเรื่อง เธอเคยคิดว่าตนเป็นผู้หญิงเข้มแข็งเสมอมา ทว่าตอนนี้น้ำตาก็หลับเอ่อคลอเบ้า "ขึ้นเตียงใช้หนี้มันสบายกว่าทำงานในไร่ตั้งหลายเท่าเลยนะ ไม่ลองดูซะหน่อยเหรอเผื่อจะติดใจ?" "ไม่เอา คุณกลับไปนอนบนเตียงของคุณเลยนะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน" มือเรียวขยับขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มแดงและก้มหน้าลงด้วยความเศร้า สิงหราชไม่คิดว่าจะได้เห็นน้ำตาของปุณยวีร์เช่นนี้ "ผู้หญิงเนี่ยนะ เอะอะก็ร้องไห้ แต่ฉันจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะ ต่อให้เธอนอนบนโซฟาหรือว่าไปนอนในตู้เสื้อผ้า ถ้าฉันจะทำอะไรเธอจริงๆ เธอก็ไม่มีทางรอดหรอก เพราะฉะนั้นย้ายไปนอนบนเตียงด้วยกัน อย่าให้ฉันต้องเสียเวลากับเธอไปมากกว่านี้ ระวังมันจะไม่ได้นอนกันทั้งคู่นะ พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นไปที่ไร่แต่เช้า" สิงหราชพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น ปุณยวีร์จึงใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยอมลุกขึ้นจากโซฟาและคว้าเอาหมอนกับผ้าห่มเดินกลับไปยังเตียงนอนด้วยความจำใจ นั่นแหละ ก็หาเรื่องพาเมียขึ้นเตียงจนได้ แถมยื่นข้อเสนอให้เมียขึ้นเตียงใช้หนี้อีก เรื่องนี้นี่มันน่าลุ้นจริงๆ 5555 อ่านจบแล้วส่งคอมเมนต์มาพูดคุยให้กำลังใจนักเขียนด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ ❤️❤️
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD