"พ่อเลี้ยงสิงห์บ้า! ทำไมถึงไม่แต่งตัวให้เสร็จก่อนออกจากห้องน้ำล่ะคะ?" เธอว่าให้เขาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง และยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของคนตัวโตที่เป่ารดแผ่นหลังขาวเนียน จึงทำให้ปุณยวีร์ตระหนักดีว่าสิงหราชยืนอยู่ใกล้ตนมากแค่ไหน
หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักแทบไม่เป็นจังหวะ แม้จะไม่ชอบสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ทว่าในร่างกายกลับรู้สึกหวามไหว เกิดอารมณ์บางอย่างที่ยากจะอธิบาย
"ก็เช็ดตัวยังไม่แห้ง จะให้ใส่เสื้อผ้าตัวเปียกๆ แบบนี้เหรอ?" เขาถาม และยังถือวิสาสะขยับมือขึ้นมาแตะสัมผัสเอวเล็กจนร่างบอบบางสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
"คุณสิงห์" ปุณยวีร์กำลังจะก้าวเท้าไปข้างหน้าเพื่อที่จะได้ยืนห่างจากชายหนุ่มให้มากที่สุด แต่กลับถูกท่อนแขนกำยำของเขาโอบกอดเอวเล็กไว้เสียก่อน ทำให้ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกัน สัมผัสได้ถึงไออุ่นของกันและกัน
"อื้อ! พ่อเลี้ยงปล่อยเดี๋ยวนี้นะคะ ฉันบอกแล้วไงคะว่าเราแค่แต่งงานกันหลอกๆ อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวฉันนะคะ" ปุณยวีร์พูดด้วยน้ำเสียงโวยวาย
ปกติแล้วเธอค่อนข้างเป็นคนหวงเนื้อหวงตัว แม้จะเคยเรียนและใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ใช่จะเห็นว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดา อีกทั้งยังไม่เคยคบใครเป็นแฟน จึงหวงแหนความบริสุทธิ์ของตนเป็นเรื่องใหญ่
แต่ดูเหมือนพ่อเลี้ยงสิงหราชจะไม่ใส่ใจคำพูดของภรรยาเลยแม้แต่น้อย เขาก้มลงมองแผ่นหลังขาวเนียนด้วยอารมณ์เสน่หา ความปรารถนาในร่างกายทำให้แทบหักห้ามใจไม่ได้ ชายหนุ่มจึงโน้มใบหน้าลงจนริมฝีปากได้รูปจรดจูบแผ่นหลังขาวเนียน
อารมณ์หื่นกระหายเป็นเพียงอารมณ์ของผู้ชายที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ สิงหราชคิดเพียงว่าตนเกิดอารมณ์ปรารถนาเพราะความงดงามของภรรยา ไม่ได้เสน่หาเธอเลยแม้แต่น้อย
"อื้อ! อย่านะคะพ่อเลี้ยงสิงห์ อย่าทำแบบนี้นะคะ" ชายหนุ่มสูดดมกลิ่นกายหอมละมุน อารมณ์หื่นกระหายยิ่งเดือดพล่าน ยิ่งปุณยวีร์แสดงท่าทีขัดขืนไม่พอใจ มันกลับยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ใคร่อยากร่วมรักในร่างกายของเขา
สิงหราชใช้สัญชาตญาณความเป็นชายนำทาง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยิ่งทำให้ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ จึงขยับมือข้างหนึ่งขึ้นมารูดซิปชุดเจ้าสาวลงไปตามแผ่นหลังขาวเนียนนุ่ม
"อื้อ! บอกว่าอย่าทำแบบนี้ไงคะ พ่อเลี้ยงเมาจนพูดไม่รู้เรื่องใช่หรือเปล่าคะ?" ปุณยวีร์พยายามที่จะขยับมือขึ้นมาปัดมือของพ่อเลี้ยงสิงหราชออก
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันเสียแล้ว เพราะเขารูดซิปชุดเจ้าสาวของเธอลงไปจนถึงบั้นท้ายงอนงาม ทำให้ชุดราคาแพงหลุดลงจากเต้านมอวบอิ่ม ร่างงามแทบเปลือยไปทั้งตัว
มือเรียวทั้งสองข้างรีบขยับขึ้นมาโอบกุมเต้านมอวบอิ่มของตนเอง แม้จะมีแผ่นแปะจุกขนาดเล็กปกปิดหัวนมสีชมพูอ่อนไว้แต่กลับไม่ได้ทำให้ความรู้สึกอับอายน้อยลงเลย ใบหน้าสวยเห่อร้อนจนกลายเป็นสีแดงระเรื่อ
"พ่อเลี้ยงสิงห์ บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ ฉันจริงจังนะ! คุณทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะคะ" แต่สิงหราชยังคงไม่ยอมฟัง เขาปล่อยให้ชุดเจ้าสาวราคาแพงร่วงหล่นลงไปกองอยู่บนพื้นห้อง ตอนนี้เรือนร่างอรชรของภรรยาจึงแทบเปลือยเปล่า มีเพียงกางเกงชั้นในผ้าลูกไม้สีขาวปกปิดแก้มก้นเนียนเอาไว้
"อื้อ!" ผิวกายเนียนนุ่มถูกมือแข็งแรงลูบสัมผัสแผ่วเบา ร่างกายขาวเนียนงดงงามจนสิงหราชอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงมาจรดจูบแผ่นหลังนุ่มกลิ่นหอมของภรรยา ปุณยวีร์จึงสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
จากนั้นพ่อเลี้ยงหนุ่มจึงดึงผ้าขนหนูที่ห่อหุ้มกายท่อนล่างของตนเองออก เขาเขวี้ยงผ้าผืนเปียกชุ่มลงบนพื้น ปุณยวีร์มองเห็นจึงรีบโน้มตัวลงไปคว้าเอาผ้าขนหนูของเขาขึ้นมาปกปิดร่างกายไว้ด้วยความอับอาย
จากนั้นจึงขยับกายออกห่างจากสามี และหมุนตัวหันกลับมาหาเขาด้วยอารมณ์โกรธ ตั้งใจจะต่อว่าด่าทอคนเจ้าเล่ห์ แต่กลับได้เห็นว่าคนตัวโตยืนเปลือยเปล่าไปทั้งลำตัว
"อ๊าาาย! ไอ้คนบ้า!" แม้จะร้องโวยวายเสียงหลง ทว่าสายตากลับเผลอหลุบต่ำลงมองท่อนเอ็นแข็งชันของสามี มันตั้งลำยาวขึ้นมาตามหน้าท้องแกร่ง มองเห็นเส้นเลือดปูดโอบล้อมลำดุ้นใหญ่โต มองเห็นปลายหัวเห็ดมันวาวสีคล้ำ
"คุณสิงห์! คนบ้า! บ้าที่สุด!" เธอต่อว่าเขาเสียงดัง จากนั้นจึงรีบหมุนตัวหันหลังให้สิงหราชอีกครั้ง มือเล็กหอบผ้าขนหนูที่ห่อร่างกายเปลือยไว้อย่างหมิ่นเหม่ด้วยความอับอาย
"หึหึ ตอนนี้เธอได้เปรียบฉันแล้วนะ เธอเห็นฉันเปลือยไปทั้งตัวเลย" สิงหราชอยากกลั่นแกล้งภรรยา คำพูดคำจาของเขายิ่งทำให้ปุณยวีร์ใบหน้าเห่อร้อน
"คุณสิงห์บ้า คนบ้า! คุณมันโรคจิต คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณเปลือยตัวต่อหน้าฉันได้ยังไงกัน เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันนะ เมาขนาดไม่รู้เรื่องเลยหรือยังไง" เธอยังคงเขาว่าเขาด้วยน้ำเสียงโวยวาย จึงทำให้ชายหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคออีกครั้ง
"ฉันคิดว่าเธอชอบมองซะอีก เห็นเมื่อกี้มองอยู่ตั้งนาน" สิงหาราชเดินเข้ามาใกล้อีก เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบพูดตรงใบหูเล็กจนปุณยวีร์ขนลุกซู่อีกครั้ง
"ไม่จริงค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจมอง คุณนั่นแหละบ้า เปลือยตัวต่อหน้าคนอื่นไม่รู้จะอาย โรคจิต!"
"อายทำไม ฉันไม่ได้โป๊ต่อหน้าคนอื่นแต่โป๊ต่อหน้าเมียตัวเอง เธอก็น่าจะรู้ดีว่าอีกหน่อยฉันก็ต้องเห็นร่างกายของเธอถูกสัดส่วนอยู่แล้ว ไม่ต้องอายไปหรอกน่า สวยขนาดนี้...ฉันไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ หรอก"
เขายังคงแกล้งพูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แม้ความหื่นปรารถนาในร่างกายจะก่อตัวขึ้นอย่างจริงจัง จากนั้นจึงจรดจูบริมฝีปากลงบนหัวไหล่เล็กของภรรยาอีกครั้ง
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"แต่ก็อย่างว่า ใหม่ๆ ก็เขินอายเป็นธรรมดา เอาเป็นว่าถ้าตอนนี้เธอไม่อยากเห็นฉันเปลือยจนทำให้ตัวเองอดใจไม่ไหวก็เดินเข้าไปอาบน้ำซะสิ อ้อ แต่อย่าคิดว่าคืนนี้จะรอด..." สิงหราชพูดเสียงเบาทว่าแอบแฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง
จากนั้นร่างสูงจึงเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่ม ปุณยวีร์ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร เธออับอายไม่กล้าสู้หน้าเขา และต้องการเวลาในการสงบสติอารมณ์โกรธ ฉันรีบวิ่งตรงเข้าไปในห้องน้ำทันที
ปุณยวีร์เปิดฝักบัวเพื่อทำลายความเงียบ เธอต้องการสลัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวสมองตอนนี้ ทว่ายิ่งพยายามควบคุมสติอารมณ์ภาพเปลือยกายของสิงหราชกลับชัดเจนยิ่งขึ้น
'แก่นกายผู้ชายมันต้องใหญ่ขนาดนั้นหรือ...' หญิงสาวเกิดคำถามในใจจึงรีบส่ายหน้าพัลวัน มันเป็นเรื่องผิดปกติเพราะปุณยวีร์ไม่สามารถควบคุมความคิดของตนเองได้เลย
"บ้าที่สุด! ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้วะเนี่ย..." เธอบ่นพึมพำ ขณะที่ร่างงามเปลือยเปล่านั่งอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำ สายตาจับจ้องมองบานประตู พลันคิดหาคำตอบในใจว่าควรจะทำอย่างไร เพราะคืนนี้ไม่อยากหลับนอนในห้องหอแห่งนี้เลย...
ปันหยีบอกไปหรือยังคะว่าพระเอกของเราเรื่องนี้ไม่ใช่คนดีอะไรเลยยยย 5555 อดทนกับพ่อเลี้ยงเขาหน่อยหนา
อ่านจบแล้วฝากส่งคอมเมนต์มาให้กำลังใจนักเขียนด้วยนะคะ ทุกหนึ่งคอมเมนต์คือกำลังใจมหาศาลเลยค่า ❤️❤️ ฝากกดหัวใจและกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือเพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนตัวเล็กๆ คนนี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ