"พี่ชา~"
"เฮ้อ มาอีกแล้ว" ชาร์ลถอนหายใจเฮือกใหญ่ ด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ ไม่รู้ว่าบ้านเขากลายเป็นเนิร์สเซอร์รี่ตั้งแต่เมื่อไหร่
"ดีใจมากเลยเหรอที่น้องมา" ดารินทร์ถามลูกชายยิ้มๆ
"แม่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมรำคาญมากกว่า เด็กอะไรก็ไม่รู้พูดมากชะมัด"
"ชาร์ลอย่ารำคาญน้องเลยนะ แม่ขอ"
"ทำไมครับ"
"น้องน่าสงสารมาก ถ้าเป็นไปได้ แม่ก็อยากให้ชาร์ลคิดว่าน้องเซียเป็นน้องสาวคนหนึ่ง" ดารินทร์เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว เมลานีระบายปัญหาภายในครอบครัวให้ฟัง จากที่เอ็นดูเฟลิเซียเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ยิ่งเอ็นดูมากขึ้นไปอีก
"ผมจะเก็บไปคิดดูก่อนก็แล้วกัน"
"ขอบใจจ๊ะ" ดารินทร์ยิ้ม
"คุณป้าคนสวยขา น้องเซียมาแล้วค่า" มาถึงโถงกลางของบ้าน สาวน้อยวัยเจ็ดขวบในชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่องก็รีบไหว้ย่อตามมารยาทอย่างไทย แน่นอนว่าต้องไหว้คนพี่ด้วย
"วันนี้คุณแม่ได้มาด้วยเหรอคะ"
"ไม่ได้มาค่า น้องเซียมากับคุณลุงคนขับรถ"
"แล้วน้องเซียกินอะไรมารึยังคะ" ดารินทร์ถามต่อ
"กินมาแล้วค่า คุณแม่ผัดข้าวผัดกุ้งตัวหย่ายให้น้องเซียกิน"
"ว้า เสียดายจัง ป้าว่าจะทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าให้กินสักหน่อย"
"อุ้ย! น้องเซียกินอีกก็ได้ค่า"
"เด็กตะกละ" ชาร์ลว่าให้คนเด็กกว่า
"น้องเซียไม่ได้ตะกละน๊า น้องเซียกลัวคุณป้าจะเสียใจที่ไม่ได้ทำซาปาเก็ตตี้แสนอร่อยให้น้องเซียกินตะหาก" ดารินทร์เคยทำเมนูนี้ให้กินมาก่อนแล้วเจ้าตัวเล็กเลยติดใจยกใหญ่
"นั่นแหละเค้าเรียกว่าตะกละเหมือนหมู"
"งื้อ~" เฟลิเซียเบะปากน้ำตาคลออย่างน้อยใจ ทำไมพี่ชาต้องว่าเธออยู่ตลอดเลย
"ชาร์ลอย่าว่าน้อง" ดารินทร์ปราม
พรึ่บ!
"นั่นลูกจะไปไหน"
"ผมจะขึ้นไปทำการบ้านบนห้อง อยู่ตรงนี้แสบหูชะมัด"
"อยู่เล่นกับน้องก่อนไม่ได้เหรอ แม่ขอไปทำสปาเก็ตตี้ให้น้องแป๊บเดียว"
"ผมต้องทำการบ้าน"
"งั้นก็พาน้องขึ้นไปด้วย"
"แต่..."
"ชาร์ล แม่สั่ง"
"...ก็ได้ครับ มาสิ" ชาร์ลยยื่นมือมาตรงหน้าคนน้อง เฟลิเซียจึงยืนมือป้อมๆ ไปจับ "ห้ามเสียงดังแล้วก็ห้ามกวน ไม่งั้นจะเตะออกจากห้องจริงๆ ด้วย"
"โอเค้ น้องเซียสัญญาว่าจะไม่กวนพี่ชาซักกะนิด"
ให้ตายสิ! เขาล่ะเกลียดว่าคำว่าโอเค้กับรอยยิ้มแป้นแล้นของเฟลิเซียจริงๆ
เฟลิเซียเดินตามชาร์ลขึ้นมาที่ชั้นสอง ขาป้อมๆ สั้นๆ กว่าจะก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นได้ ชาร์ลเกือบขาดใจตาย แต่ก็ยอมยืนรอร่างเล็กเดินขึ้นมาจนถึงห้องนอนจนได้
พรึ่บ! เข้ามาในห้องชาร์ลก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้แล้วหยิบการบ้านออกมาทำ ไม่ได้สนใจว่าคนน้องจะทำอะไร เขาอยู่ในวัยที่เลิกเล่นของเล่นไปแล้ว นอกจากกีตาร์ไฟฟ้ากับลูกบาสที่พ่อซื้อให้ ในห้องก็แทบไม่มีอะไรให้เล่นเลย เฟลิเซียอยู่ในห้องได้ไม่เกินสิบนาทีหรอก
สิบนาทีต่อมา...
จึกๆๆ นิ้วป้อมๆ สะกิดที่ต้นแขนขวา ผิดจากที่เขาคิดไว้ซะที่ไหน ชาร์ลหันหน้ามามองเฟลิเซียดุๆ "อะไร"
"พี่ชาเรียนเก่งมากมั้ย" เฟลิเซียเอียงคอถามตาแป๋ว
"อยากรู้ไปทำไม"
"น้องเซียมีเรื่องอยากถาม"
"จะถามอะไร"
"ชู้แปลว่าอะไรหลอคะ"
"...ไปได้ยินมาจากไหน"
"พี่อิ่มบอกว่าคุณพ่อมีชู้ น้องเซียอยากถามคุณแม่ แต่พี่อิ่มไม่ให้ถาม"
พี่อิ่มอะไรนี่คงเป็นสาวใช้ไม่ก็พี่เลี้ยงของเฟลิเซีย "ปากหมาจริงๆ"
"แปลว่าปากหมาจริงๆ หลอคะ"
"ไม่ใช่"
"อ้าว"
"ไม่ต้องมาอ้าว"
"แล้วพี่ชาจะบอกน้องจริงๆ ได้ยังว่ามันแปลว่าอะไร"
"เซียชอบพี่มั้ย" นี่กูมาถามอะไรแบบนี้กับเด็กเจ็ดขวบวะเนี่ย แต่สาบานว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับอกุศลกับยัยเด็กอ้วนนี่เลย
"ชอบมากที่สุดเลยค่า คิกคิก"
"งั้นก็ต้องเลิกสงสัย"
"ทำไมล่ะคะ"
"ไม่ต้องมาถามมาก ถ้าอยากให้พี่เล่นด้วยก็ต้องเลิกอยากรู้ เข้าใจมั้ย"
เฟลิเซียเงียบไปเพราะสมองเล็กๆ กำลังประมวลผลอยู่ เกือบห้านาทีผ่านไป "โอเค้ น้องไม่อยากรู้แล้วก็ด้าย แต่พี่ชาต้องเล่นกับน้องน๊า สัญญาแล้วน่ะ"
"เออ"
"คิกคิก"