ผู้ชายในอุดมคติ 2

1553 Words
ผู้ชายในอุดมคติ ร่างบางยิ้มแล้วเดินแยกไปยังโซนกระเป๋าหลากหลายสีสันที่ตั้งโชว์ตระหง่านอยู่บนชั้นวาง หญิงสาวหยิบออกมาพลิกดูหนึ่งใบ ก่อนจะวางเก็บเข้าที่เดิม ด้วยดีไซน์ข้างในไม่ค่อยถูกใจเท่าไร “ผมว่าใบนี้ดูเหมาะกับคนสวย ๆ อย่างคุณดีนะครับ” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นจากข้าง ๆ เรียกใบหน้าหวานให้หันไปมอง เจ้าของเสียงนั้นส่งยิ้มละลายใจมาให้พร้อมยื่นกระเป๋าใบที่ถืออยู่ให้หญิงสาวดู “ใบนี้สวยดีครับ” ดาวิกาขมวดคิ้ว เพ่งมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้า หัวใจเต้นตุบ ๆ ด้วยไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเขาที่นี่ และที่มากไปกว่านั้นคือเธอไม่คิดว่าเขาจะเดินเข้ามาทักทายเธอ “คะ...คุณเตชิน ?” “ครับ” เตชินพยักหน้ารับยิ้ม ๆ ยิ่งทำให้หญิงสาวใจสั่นไหวมากขึ้นกว่าเดิม “นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว” “แหม ต้องเป็นดิวไหมคะที่ควรพูดประโยคนั้น ดิวไม่คิดว่าพี่...เอ่อ...ไม่คิดว่าคุณเตชินจะจำดิวได้ด้วย” เธอกับเขาเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวในงานแต่งงานของจิราวดี เพื่อนสนิทของเธอกับศัลยแพทย์ปฐพีเพื่อนสนิทของเขา จึงทำให้เธอได้รู้จักกับเขา หากแต่ก็เป็นการรู้จักที่ผิวเผินมาก “เรียกพี่ชินก็ได้ครับ เรียกว่าคุณมันดูห่างเหินกันเกินไป” ชายหนุ่มเริ่มตีสนิท “ก็ดีเหมือนกันค่ะ พี่ชิน” แล้วคนที่พร้อมจะเป็นมิตรกับทุกคนก็ยิ้มกว้างจนตาหยี ทำเอาชายหนุ่มตรงหน้ารู้สึกเหมือนหัวใจถูกกระตุกเบา ๆ เพราะรอยยิ้มและแววตาใสซื่อคู่นั้น เตชินรีบดึงสติแล้วยิ้มตอบเธอกลับไป “แล้วนี่น้องดิวมาคนเดียวเหรอครับ” เขาถามอย่างหาเรื่องชวนคุย “ใช่ค่ะ ดิวตั้งใจจะมาหาอะไรทานและซื้อของนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ร้านที่ดิวอยากทานคนเยอะมากเลยค่ะ ดิวเลยมาเดินดูของก่อน” ดาวิกาย่นจมูกเล่าเซ็ง ๆ “แล้วพี่ชินล่ะคะ มาคนเดียวเหมือนกันเหรอ” เธอถามพลางมองไปรอบ ๆ เผื่อว่าเขาอาจจะมากับใครสักคน “ใช่ครับ มาคนเดียว” ความจริงแล้วเขามากับเควิน หากแต่ฝ่ายนั้นไม่ได้เดินเข้ามาในร้านด้วย เขาให้ผู้ช่วยหนุ่มยืนรออยู่ข้างนอก เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวในการพูดคุยกับ ‘เหยื่อ’ “อ๋อ แล้วนี่มาซื้อกระเป๋าให้ใครอะคะ ซื้อให้แฟนเหรอ” คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อถามยิ้ม ๆ กึ่งแซว คิดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนมาซื้อกระเป๋าแฟชั่นของผู้หญิงไปใช้เองหรอก ถ้าไม่ได้มาซื้อให้คนสำคัญ ระดับเจ้าของเตชินกรุ๊ปที่มีธุรกิจในเครือมากมาย และมีทรัพย์สินรวมกันเป็นมูลค่าล้านล้านคงไม่มีทางเดินเข้าช็อปมาเลือกซื้อเองแน่นอน “หืม พี่มีแฟนที่ไหนกันล่ะ ตอนนี้โสดสนิทเลยครับ” เขาบอกเสียงกลั้วหัวเราะ “โสดที่แปลว่าเตียงไม่เคยเหงาใช่ไหมคะ” หญิงสาวแกล้งกระเซ้าอย่างขำ ๆ ด้วยเคยอ่านข่าวทำนองนี้ของพวกนักธุรกิจตามสื่ออินเทอร์เน็ตมาบ้างตามประสาคนชอบเผือกเรื่องชาวบ้าน อันที่จริงเธอก็ไม่เคยเห็นข่าวเกี่ยวกับชายหนุ่มตรงหน้านี้หรอก หากแต่เธอคิดว่าเขาคงไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่น ๆ สักเท่าไร “น้องดิวเป็นคนตลกนะครับ” เตชินไม่ตอบเกี่ยวกับประเด็นนั้น แล้วแสร้งแหย่เธอกลับไปอย่างติดตลก “ใคร ๆ ก็บอกอย่างนี้ แต่ดิวไม่อยากเป็นคนตลกเลย ดิวอยากเป็นคนน่ารักมากกว่า” มุกชมตัวเองของเธอทำเอาคู่สนทนาแทบไปต่อไม่ถูก ผู้หญิงอะไรชมตัวเองอย่างนี้ก็ได้ด้วย ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้หักหาญน้ำใจเธอ เขาตอบกลับไปอย่างเห็นด้วยกับเธอ “ครับ พี่ก็ว่าน้องดิวเป็นคนน่ารัก” หญิงสาวชะงักแล้วเสมองไปมองกระเป๋าที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นเพื่อหลบสายตา คำชมว่าน่ารักที่มาพร้อมกับแววตาหวานหยด ทำเอาหัวใจที่สั่นไหวอยู่แล้วยิ่งสั่นแรงขึ้นไปอีก ใบหน้าหวานร้อนผ่าวไปถึงใบหู ทั้งที่เขาไม่ใช่คนแรกที่ชมเธอว่าน่ารัก หากแต่กลับเป็นคนแรกที่ทำให้เธอใจสั่น ดาวิกายกมือป้องปากแล้วหัวเราะกลบเกลื่อนอาการเขินอาย “พี่ชินก็ว่าไป ดิวแค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง ดิวไม่ได้น่ารักหรอก ดิวบ้ามากกว่า” ก็ยังถือว่าดีที่เธอรู้ว่าตัวเองบ้า...เตชินคิดในใจ “พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ น้องดิวน่ารักจริง ๆ” เตชินยอมรับว่าเธอมีหน้าตาที่สะสวย ออกแนวน่ารักนิด ๆ คงจะมีผู้ชายมากมายที่หลงเสน่ห์หากได้พูดคุย ด้วยเธอเป็นคนขี้เล่น พูดคุยกับใครก็ดูสนุกสนานไปเสียหมด แม้กระทั่งเพื่อนสนิทของเขาอย่างปวีร์และภีรวัฒน์ ก็ยังเคยชมเธอให้เขาได้ยิน หากแต่สำหรับเขาแล้ว...ยังยืนยันคำเดิมว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงโง่ ดาวิกามีคุณสมบัติตรงตามที่เขาเคยนิยามเอาไว้เกือบหมดทุกอย่าง ชายหนุ่มมองว่าผู้หญิงที่ไม่ทำการทำงาน วัน ๆ เอาแต่ทำเรื่องไร้สาระ อย่างการเล่นกับสัตว์เลี้ยง ถ่ายคลิปบ้า ๆ บอ ๆ ลงสื่อโซเชียล และจับกลุ่มนินทาคนอื่นเขาไปทั่ว นั่นคือคนโง่สำหรับเตชิน ซึ่งโดยปกติแล้วเขาจะไม่เฉียดกายเข้าใกล้ผู้หญิงประเภทนี้เลย หากคนคนนั้นไม่มีผลประโยชน์อะไรให้แก่เขา “ฮ่า ๆ ๆ พอแล้วค่ะ ดิวเขินไปหมดแล้วเนี่ย” เธอบอกเขาไปตามตรง เพราะสีหน้าและท่าทางของเธอมันคงฟ้องเขาหมดแล้วว่าเธอรู้สึกอย่างไร “ว่าแต่พี่ชินมาเลือกซื้อของให้ใครเหรอคะ” “อ้อ พี่มาเลือกของให้คุณแม่น่ะครับ เดือนหน้าจะถึงวันเกิดท่านแล้วพี่ยังไม่รู้เลยว่าจะซื้ออะไรให้ท่านเลย พี่เลือกของไม่เก่งด้วยสิ” ชายหนุ่มยกมือเกาหางคิ้วตัวเองพลางทำสีหน้าคิดหนัก แล้วเหล่มองหญิงสาวที่ยืนข้าง ๆ “จะถือเป็นการรบกวนเกินไปไหมครับ ถ้าพี่จะขอให้น้องดิวช่วยเลือก…” “โอ๊ย รบกงรบกวนอะไรละคะ เรื่องแค่นี้เอง ช่วยได้อยู่แล้วค่ะ” คนตัวเล็กรีบรับอาสาด้วยความเต็มใจตามประสาคนอัธยาศัยดี ก่อนจะรีบออกตัวด้วยกลัวจะเลือกของขวัญไม่ถูกใจ “แต่จะเลือกถูกใจคุณแม่ของพี่หรือเปล่าก็อีกเรื่องนะคะ” “พี่ว่าท่านต้องชอบแน่นอนครับ” “ถ้าพี่ชินมั่นใจขนาดนี้ ก็ลองดูค่ะ” หญิงสาวกวาดตามองไปรอบ ๆ ร้าน มองหาของขวัญวันเกิดที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับมารดาของเขา ไม่นานเธอก็ต้องหันกลับมาถามเขาอีกครั้ง เมื่อนึกได้ว่าเธอลืมถามปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ “ขออนุญาตนะคะ ไม่ทราบว่าคุณแม่พี่ชินอายุเท่าไหร่เหรอคะ” “กำลังจะหกสิบเดือนหน้านี้แล้วครับ” “พอจะมีรูปท่านไหมคะ” เธอถามเพราะจะได้ดูบุคลิกของท่าน บางทีการเลือกเครื่องประดับให้ใครสักคน ก็ต้องพิจารณาจากบุคลิกและท่าทางของคนคนนั้นประกอบการตัดสินใจด้วย “อ้อ มีครับ รอแป๊บนะ” ชายหนุ่มล้วงสมาร์ตโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงสแล็กส์สีดำเนื้อดี เลื่อนค้นหารูปมารดาครู่หนึ่งแล้วยื่นให้หญิงสาวดู ดาวิกาเอียงศีรษะดูรูปที่เขาเปิด หากแล้วไม่ว่าเธอจะเพ่งมองอย่างไรก็มองไม่ชัด จึงขยับเข้าไปใกล้เขาอีกนิด เตชินก้มมองคนตัวเล็กที่สูงเพียงแค่ระดับหน้าอกของตน ท่าทางตั้งอกตั้งใจรั้งสายตาของเขาให้เผลอมองนาน “ว้าว คุณแม่ของพี่สวยมาก ๆ เลย” หญิงสาวทำตาโตแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา เตชินรีบดึงสายตาตัวเองแล้วเสมองไปรอบ ๆ ร้าน “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าจะอายุหกสิบแล้ว ถ้าไม่ถามไปก่อนหน้านี้ ดิวคงจะคิดว่าท่านน่าจะห้าสิบต้น ๆ เองนะคะเนี่ย หน้าเด็กมาก” เตชินหันกลับมาสนใจคนตัวเล็กอีกครั้ง “ท่านดูแลตัวเองดีน่ะ ก็เลยยังดูไม่แก่” “อย่างงี้ดิวต้องไปขอเคล็ดลับการดูแลตัวเองจากท่านบ้างแล้ว เผื่ออายุมากขึ้นกว่านี้ หน้าดิวจะได้ยังดูเด็ก ๆ” เธอว่าแล้วหัวเราะคิก “แต่พี่ว่าน้องดิวก็หน้าเด็กนะ นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าอายุเท่ากันกับน้องแจน น้องกานต์ พี่คงจะคิดว่าน้องดิวเป็นรุ่นน้องแน่ ๆ” ชายหนุ่มเริ่มหยอดคำหวานใส่เหยื่ออีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD