"ถ้าพี่ทำนอกเหนือข้อตกลงหนูจะฆ่าตัวตาย!"
"คิดว่ามีสิทธิ์ต่อรองกับฉันมากเลยหรือไง!"
"งั้นก็ลองดู ฮึกกก~"
น้ำเสียงหนักแน่นแน่วแน่ทำให้ไมยราพผละถอย ก่อนจะรีบสวมกางเกงกลับเข้าที่เดิม รัดใส่เข็มขัดแล้วตะคอกเสียงดังลั่น
"จำใส่หัวไว้..ผู้หญิงอย่างเธอมันก็เป็นได้แค่ที่ระบายอารมณ์เอาไว้สำเร็จความใคร่ เรียกค่าตัวสูงลิ่วทั้งที่ไม่ได้มีอะไรเหนือกว่าคนอื่น ไสหัวออกไปจากห้อง เห็นหน้าเธอแล้วจะอ้วก!!"
บ้านเช่า
เวลาสี่ทุ่ม
ซ่าาาา
ภายในห้องน้ำเก่าที่ยังพอมีฝักบัวเปิดชโลมร่างกาย สาวน้อยกลับมาถึงก็รีบอาบน้ำเพื่อล้างชำระกลิ่นคาวคลุ้ง แต่ความเจ็บปวดสาหัสทำให้ร้องไห้ออกมาอย่างไม่สามารถฝืนทนไหว เขาเกลียดชังกดขี่ข่มเหงเธอให้อยู่ต่ำอย่างคนไร้ศักดิ์ศรี ทำไมต้องวนกลับมาเจอกันอีกก็ไม่รู้
ติก'
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จสรรพ เสียงโทรศัพท์ก็แจ้งเตือน มิลลิเปิดข้อความที่ไม่คุ้นชื่อ พอกดเข้าดูโปรไฟล์ก็พบว่าเป็นไมยราพ
(ไมยราพ : ไม่เอาหรือไงค่าจ้าง {แนบสลิป})
(มิลลิ : เอาไลน์หนูมาจากไหนคะ)
(ไมยราพ :ฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอนะ ก็ไปเอามาจากคนที่จ้างงานเธอไง)
(มิลลิ : ลืมถามว่าพี่รู้จักกับคนที่จ้างหนูด้วยเหรอคะ ทำไมพี่ถึงเป็นลูกค้าได้)
ด้วยความแปลกใจเพราะคิดว่าไม่น่าจะบังเอิญเกินไป แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็กระจ่าง
(ไมยราพ : นั่นมันนกต่อฉันที่ให้ไปล่อเธอมา)
สารเลว! ยังคงนิสัยชอบเอาชนะไม่เปลี่ยน
มิลลิวางโทรศัพท์บนเตียง ถอนหายใจพลางก้มหน้า หรือว่าจากนี้เป็นเวรกรรมที่จะได้รับ...
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
สุดท้ายก็วนกลับมาอยู่ที่เดิม
เช้าวันต่อมา
มิลลิรีบโอนเงินค่าดอกเบี้ยที่นาให้ป้า ก่อนจะจ้องมองยอดเงินคงเหลือที่มีพอประทังชีวิตได้อีกไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ จึงรีบเข้าดูงานเสริมออนไลน์แต่ครั้งนี้เธอลบประวัติ เพราะไม่อยากให้ไมยราพกลั่นแกล้งหรือวุ่นวายอีก
ผลประกาศสอบออกมาพบว่าได้เรียนมหาวิทยาลัยเอกชนฟรี เนื่องด้วยความเก่งและเกรดเฉลี่ยอันดับหนึ่งที่มีเสมอมา โดยมีเพื่อนสนิทอย่างมะปรางก็เข้าเรียนที่เดียวกันคณะเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างเป็นคนเข้าหาผู้อื่นยาก จึงทำให้คบกันอยู่เพียงสองคนเท่านั้น
ห้างสรรพสินค้า
"ทำไมเราต้องมาซื้อชุดมหาวิทยาลัยที่แพงขนาดนี้ด้วย" เป็นอีกครั้งที่มะปรางเรียกให้มิลลิมาเดินเที่ยวห้างเป็นเพื่อน "แพงมาก"
"เราเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน มีนักศึกษาร่ำรวยมากมาย ถ้าเราแต่งตัวไร้แบรนด์ไร้ยี่ห้อพวกนั้นก็จะกดหัวและดูถูกเอานะ"
"เราไปเรียนหนังสือไม่ได้ไปแข่งกับใคร"
"เพราะเธอมองโลกในแง่ดีเกินไปชีวิตก็เลยเป็นแบบนี้ ถึงแม้เธอจะไม่รวย..แต่ฉันรวยนี่ พ่อแม่ของฉันมีหน้ามีตาในสังคม"
มิลลิเป็นคนใช้เงินอย่างประหยัด จึงมักจะออกความคิดเห็นขัดแย้งกับเพื่อนสาวคนสนิทอยู่เป็นประจำ แต่ถึงอย่างนั้นมะปรางก็ยังซื้อเสื้อชุดนักศึกษาให้เพื่อจะได้ใส่ไปเรียนด้วยกัน
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันใส่ยี่ห้อถูกก็ได้" มิลลิพูด
"เธอเป็นเพื่อนฉันนะ จะใช้ของตามตลาดได้ยังไง! เดินข้างกันก็แต่งตัวให้มันดูแพงหน่อยสิ"
"แต่..."
"ไม่ต้องเกรงใจหรอก บ้านฉันรวยจะตาย"
"ถึงอย่างนั้นก็เป็นเงินของพ่อแม่เธอ"
"โอ๊ยยย! เลิกเป็นคนดีสักวินาทีได้ไหม อยู่กับเธอแล้วปวดหัวเหมือนอยู่กับแม่ชี ฮ่าๆ"
"ใช้เงินประหยัดบ้างก็ดีนะ"
ด้วยความเป็นห่วงแต่เพื่อนไม่เคยฟังคำเตือน ยังคงรูดบัตรที่ครอบครัวให้มาอย่างสนุกสนาน โดยมีมิลลิคอยถือข้าวของพะรุงพะรังตามหลังเหมือนทุกครั้ง
วันเปิดเทอม
มหาวิทยาลัยเอกชน
สายตาทุกคู่จับจ้องมายังรถหรูของมะปราง ทันทีที่ย่างก้าวเดินออกมากลายเป็นจุดสนใจ เมื่อสาวสวยอย่างมิลลิสวมใส่ชุดนักศึกษารัดรูปยิ่งทำให้มองเห็นความสวยงามโดดเด่น แม้จะไม่ได้ถือกระเป๋าแบรนด์เนมก็มีแต่ผู้คนจ้องมอง
"ทำไมไม่ใช้กระเป๋าที่ฉันให้" มะปรางถาม
"กลัวมันจะเปื้อน" มิลลิตอบ
"กระเป๋าพวกนั้นฉันใช้มาหลายเดือนเกือบจะพังหมดแล้ว เธอจะเก็บไว้เพื่ออะไร? เอามาใช้ให้คนอื่นเขาได้เห็นบ้าง อย่าแสดงกำพืดว่าตัวเองจนนัก มันดูเป็นพวกไร้หัวนอนปลายเท้า"
"มะปราง.."