ตอนที่ 10
ย้อนไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว
ภาณุภัทร์ชำเลืองดูกระจกมองหลัง ก่อนจะมองเห็นเรือนร่างอันอวบอัดเย้ายวนเต่งตึงของหญิงสาวที่เขาช่วยเหลือ เมื่อสักครู่เธอนอนหมดสติอยู่บนเบาะหลัง แต่บัดนี้เธอลุกขึ้นมาถอดเสื้อแล้วก็ขยับมาอยู่ใกล้ ๆ กับเขาทางด้านหลังกลิ่นกายเธอช่างหอมกรุ่นไปทุกสัดส่วนเสียแล้ว เธอกำลังยืดตัวขึ้นและโน้มกายเข้ามาหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ
“คุณ ๆ ๆ !!! เป็นอะไรไปครับ แล้วคุณจะถอดเสื้อทำไม” ภาณุภัทร์ถามขึ้นด้วยความตกใจ ความร้อนกำลังทำให้มณีมันตราไม่เป็นตัวของตัวเอง กระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดออกพร้อมกับสาบเสื้อที่แยกออกจากกัน
“ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันร้อนเหลือเกิน” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคออย่างยากลำบาก เธอโอบกอดและซุกไซ้ซอกคอของเขาอยู่ทางด้านหลังจนตอนนี้เขาเองก็เริ่มร้อนไม่ต่างจากเธอทั้งที่แอร์รถเปิดจนเย็นยะเยือก ร่างนุ่มนิ่มที่โน้มตัวมาจนสุดเบียดกระแซะเข้ามาเกือบครึ่งตัว ก้นงามงอนของเธอนั่งอยู่บริเวณที่พักแขน เธอทำให้เขาแทบจะมองไม่เห็นทางจนต้องเปิดโหมดออโต้ไพลอตของตัวรถ
ภาณุภัทร์ตื่นเต้นจนระงับใจกายเอาไว้ไม่อยู่ เด็กสาวคนนี้ช่างสวยและเซ็กซี่เหลือเกิน
“นี่คุณ!!..ยะ อย่า ครับ ผมกำลังขับรถ” เขารีบบอกเมื่อได้ยินสัญญาณเตือนจากตัวรถว่าให้เขาเอามือไปจับที่พวงมาลัย มือเรียวเริ่มไต่ไปทั่วร่างของเขาอย่างสำรวจ ภาณุภัทร์พยายามสกัดกั้นความรู้สึกนี้
มณีมันตราที่ไร้สติจะต้านทานความปรารถนาของตัวเองได้ เธอรู้แต่ว่าต้องการเบียดแนบชิดร่างของเขาให้ได้มากที่สุด ไอร้อนจากร่างของภาณุภัทร์เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยเธอให้หายจากความทรมานนี้ได้ มือบางเกี่ยวลำคอแกร่งก่อนจะตวัดเรียวขางามมาก้าวมาคร่อมหน้าตักของเขาเอาไว้ จนภาณุภัทร์ไม่สามารถปล่อยให้รถอยู่ในโหมดออโตไพลอตต่อไปได้ เขาจึงตัดสินใจประคองรถเข้าจอดรถข้างทาง
ก้นอวบนุ่มนิ่มบดเบียดจนกายแกร่งภายในกางเกงซาเล็คกำลังเปลี่ยนแปลงขยายใหญ่อยู่ในนั้น ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือมารูดซิป
“คุณ..ใจเย็น ๆ ก่อนนะ..ตั้งสติก่อน” เขารีบเตือนสติของหญิงสาวและล็อกมือเธอเอาไว้ไม่ให้เธอรูปซิปของออกได้สำเร็จ ภาณุภัทร์เดาว่านิสิตสาวคนนี้จะต้องถูกใครวางยามาเพื่อกระทำการล่วงละเมิดเธอแน่ ๆ แต่เธอคงหนีมาได้เสียก่อน
ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเลี้ยวรถไปยังโรงแรมม่านรูดข้างทาง ก่อนจะพยายามประคองรถเข้ามาจอดสนิท ก่อนจะลดกระจกเพียงเล็กน้อยแล้วยื่นแบงก์พันจำนวนหลายใบให้เด็กหนุ่มที่วิ่งมารูดผ้าม่าน
“ไม่ต้องทอนนะ แล้วผมก็ไม่ต้องการอะไร” เขารีบตะโกนออกไปบอกบริกรหนุ่มคนนั้น
“ครับ ๆ ” บริกรหนุ่มจ้องมาที่หญิงสาวที่อาการไม่ค่อยปกติ ถึงแม้ภายในรถของเขาจะติดฟิมล์ดำจนแทบจะมองไม่เห็นเลยก็ตาม แต่เด็กหนุ่มบริกรก็พยายามจะมองทะลุเข้ามา ภาณุภัทร์จึงรีบบอกเขาทันที
“นี่เมียผมเอง พอดีเราอยากเปลี่ยนบรรยากาศกันนิดหน่อย”
“โอ้..งั้นตามสบายครับพี่”
บริกรหนุ่มเดินผิวปากด้วยความสบายใจที่จู่ ๆ ก็ได้ลาภก้อนโตเป็นทิปมาหลายพันบาท ซึ่งค่าห้องมันก็แค่ 300 บาทเท่านั้นเอง ต่อให้ทั้งอยู่ทั้งคืนมันก็แค่ 800 เท่านั้น