ควีนดูนาฬิกาข้อมือสลับกับมองเพื่อน ๆ ที่ยังนั่งดื่มกันอยู่ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว สภาพทุกคนยังปกติดีอยู่ไม่มีใครคอพับเลยสักคนราวกับเป็นปรมาจารย์นักดื่มทำนองนั้น
“ดูนาฬิกาทำไมนัก นัดใครไว้เหรอ” ควีนเงยหน้ามองเจ้าของคำถามที่กำลังมองมายังเธอด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ได้นัดใครไว้ ดูนาฬิกาเฉย ๆ ไม่ได้หรือไง หนักหัวใครเหรอ” ย้อนถามกราฟด้วยรอยยิ้มยียวน มีกฎข้อไหนบอกห้ามดูนาฬิกาเหรอ
“กวนตีน”
“หยาบคาย” ควีนย่นจมูกใส่กราฟเล็กน้อยพลันลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน ทุกสายตาของคนในโต๊ะจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว เมื่อจู่ ๆ ควีนก็ลุกขึ้นยืนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยราวกับกำลังรีบร้อนไปไหนยังไงอย่างนั้น
“จะไปไหน” ควีนกลอกตามองบนใส่ชิริว ทำไมทุกคนถึงได้ทำตัววุ่นวายกับเธอมากขนาดนี้กัน
“ปวดฉี่ จะไปด้วยเหรอ” ตอบประชดประชัน ทว่าชิริวนั้นกลับเอาจริง
“ไป” ไม่พูดปากเปล่าแต่ชิริวลุกจากเก้าอี้เดินมาหาควีนจริง ๆ “เอ้า ไปสิ ปวดฉี่ไม่ใช่หรือไง”
“ฉันไปเองได้ริว นายไม่ต้องไปเป็นเพื่อนฉันหรอก”
“กูปวดฉี่เหมือนกัน”
“โอเค” ก็นึกว่าเป็นห่วงถึงขนาดตามไปเฝ้าเธอที่หน้าห้องน้ำซะอีก ที่ไหนได้ชิริวเองก็ปวดฉี่เหมือนกัน
“เอ้า มึงจะไปไหนไอ้คิงส์” เสียงด้านหลังดึงความสนใจจากควีนให้หันมอง เธอเห็นราชาลุกขึ้นยืนที่สำคัญเขากำลังเดินตรงมาหาเธอ
“ปวดฉี่เหมือนกันเหรอ” เธอจึงถามออกไป ราชาไม่ตอบแต่ไหวไหล่ใช้มือดันหลังเธอให้เดินไป ควีนได้เพียงทำหน้าสงสัยเดินตามแรงผลักไปแบบงง ๆ
ควีนถลึงตาใส่ชิริว เมื่อเขาใช้แววตากระลิ้มกระเหลี่ย มองเธอกับราชาสลับกัน แววตาของชิริวนั้นช่างดูเจ้าเล่ห์จนควีนอยากยื่นมือเข้าไปควักลูกตาชิริวออกมา
“มองอะไรยะ”
“เปล๊า” ชิริวตอบเสียงสูงยียวน มันชวนกระตุกมือควีนเสียเหลือเกิน ดูก็รู้ว่าชิริวกำลังจับผิดเธอกับราชาอยู่ ซึ่งควีนบอกเลยว่ามันเสียเวลาเพราะเธอกับราชาน่ะไม่ได้ทำอะไรผิด “หอ อัว งอ หวง” สะกดแบบนี้
“เลอะเทอะ” ชิริวไหวไหล่ต่อคำด่าของราชาก่อนเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี ทำให้พื้นที่หน้าห้องน้ำตอนนี้เหลือแค่ควีนกับราชา
ควีนยืนมองหน้าราชานิ่ง ๆ ขณะที่ราชาเองก็มองหน้าควีนอยู่เหมือนกัน สองสายตาสอดประสาน นัยน์ตายามทั้งคู่มองกันมีเพียงทั้งคู่เท่านั้นที่รู้ดีที่สุดว่ากำลังคิดอะไร
ควีนปลีกตัวเข้าห้องน้ำในเวลาต่อมาโดยมีราชายืนรออยู่ด้านนอก ควีนบอกให้ราชากลับโต๊ะไปก่อนแต่เขากลับเลือกที่จะยืนรอเธออยู่ ควีนไม่รู้ว่าทำไมราชาต้องทำให้เรื่องมันยากและวุ่นวายทั้งที่เป็นอู่ซ่อมรถของตัวเองแท้ ๆ จะกลัวอะไร ไม่มีใครพิศวาสนางมารร้ายอย่างเธอหรอก
“หายไปนานสองนานขนาดนี้ พวกมึงสองคนไปทำอะไรกันมาวะ” กราฟถามทีเล่นทีจริง
“เอากันมามั้ง” ขณะที่ควีนตอบอย่างไม่ยี่หระ ไล่สายตามองเพื่อนทีละคน “พอใจในคำตอบไหม” ถามกลับสีหน้าเบื่อหน่าย
จะให้ยืนยันอีกกี่ครั้งว่าระหว่างเธอกับราชามันไม่มีอะไร เพื่อนก็เพื่อน เพื่อนไม่กินกันเองน่ะเข้าใจไหม
“พอใจ” ทว่าเพื่อน ๆ กลับเชื่อหมดใจ ยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอกับราชาสลับกันอย่างมีเลศนัย
“นายมีปากไหม พูดไปสิว่าระหว่างเรามันไม่มีอะไร พูดให้พวกควายมันเข้าใจ” ควีนจึงหันไปวีนใส่ราชาที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ข้างหลังเธอ
ราชาไหวไหล่ สีหน้าเรียบเฉยเหมือนเก่า ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ๆ โกรธ เสียใจ หรือดีใจ ใบหน้าของราชาก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
“คิงส์”
“แล้วเธอคิดว่าควายมันเข้าใจภาษาคนหรือไง อธิบายไปก็เปลืองน้ำลาย”
“โอโห” ได้ยินคำพูดของราชาเพื่อนร้องโหออกมาพร้อมกัน ส่วนควีนยิ้มกว้างพอใจในคำพูดราชาสุด ๆ
“สมน้ำหน้า” ควีนว่าพลางกลั้วหัวเราะออกมาก่อนทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ข้าง ๆ จาคอป หญิงสาวหยิบแก้วเหล้าจรดริมฝีปากกรอกน้ำสีอำพันลงคออึกใหญ่ สัมผัสร้อนผ่าวของเหล้าทำควีนเบ้หน้าเล็กน้อย
ติ้ง
: คืนนี้?
ควีนเหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งเข้ามาหา พลางจรดนิ้วมือพิมพ์ตอบกลับในเวลาถัดมา
ควีน: อยากให้นอนด้วยเหรอ
:ฮึ
ฮึ อะไร แค่บอกคิดถึง อยากนอนด้วย มันเป็นอะไร มันพิมพ์ยากขนาดนั้นเลยหรือไงฮะ คนปากแข็งเอ้ย