“กูยังไม่พูดอะไรเลยอะ มึงก็รีบปฏิเสธเร็วเกิน ฟังกูพูดให้จบก่อนค่อยปฏิเสธก็ได้มั้ง” อัจฉราวดีพูดเสียงเง้างอดทำเสียงเล็กเสียงน้อยเมื่อถูกปฏิเสธเร็วฉับพลัน ริมฝีปากสวยเม้มคว่ำรีบเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าสะพายใบเล็กขยับเข้าไปกอดแขนเรียวของคนหน้าเหวี่ยงออดอ้อน
เฌอริตาแยกเขี้ยวให้เพื่อน เรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ ไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ ผีมันย่อมเห็นผี หน้าแบบนี้จะมีอะไรถ้าไม่ชวนเธอไปหาผู้ชาย
“เหอะ... แค่อ้าปากก็เห็นไปถึงลิ้นไก่แล้วปะ หรือว่าไม่ใช่ที่มึงจะให้กูพาไปหาเด็กมึงที่คณะวิศวะ?”
“ก็ใช่ แต่...”
“ไม่ไป” บอกแล้วไงว่าแค่อ้าปากเธอก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
“เฌอริอ่า”
“ไม่!”
“เฌอริอ่า”
“ไม่ต้องมาอ่า บอกแล้วไงว่าไม่ไป ไม่ไป ไม่ไป” เฌอริตาเม้มปากแน่น มองเพื่อนตาขวาง เธอไม่ใช่พี่สาวเกาหลีซะหน่อยทำไมจะต้องมีอ่าตามหลัง ที่สำคัญพอได้ยินคำว่าอ่าแล้วก็ขนลุกขนชันพาลให้นึกไปถึงเสียงครวญครางของเปรตสองตัวที่กำลังโยกใส่กันบนเตียงกว้าง ทั้งที่เรื่องนั้นก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว น้ำสะอาดที่ใช้ล้างตาก็หมดไปเป็นถังภาพอุจาดตาพวกนั้นก็ยังไม่หายไปสักที ไหนจะเสียงร้องโหยหวนเหมือนหมูออกลูกนั้นอีก สงสัยจะได้ไปทำบุญที่วัดล้างซวยจริงๆซะแล้ว
“เฌอริ...”
“พอเลยเอวา มึงหยุดพูดไปเลย กูเพิ่งจะถูกผู้ชายวิศวะหักอกมาอาทิตย์ที่แล้ว มึงยังจะให้กูไปเหยียบคณะนั้นอีกเหรอ หรือมึงลืมไปแล้วว่าไอ้เหี้ยที่มันนอกใจกูเรียนวิศวะ”
“กูไม่ลืม ก็ไหนมึงบอกว่าไม่ได้เสียดายมันไง?” อัจฉราวดีเลิกคิ้วมอง
“กูไม่ได้เสียดาย ผู้ชายเส็งเคร็งพรรค์นั้นกูจะเสียดายเพื่อ”
“ถ้ามึงไม่ได้เสียดาย นั่นมึงยิ่งต้องไปเฌอริ”
“ทำไมกูยิ่งต้องไป?” เฌอริตาถาม เลิกคิ้วมองด้วยความสงสัยไม่เข้าใจว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่
“ก็ต้องยิ่งสิ เพราะมึงต้องไปเดินสวยๆแบบสับๆเชิดหน้าเหวี่ยงๆซิกเนเจอร์ของมึงขึ้นสูงๆมองจิกตาหน่อยๆเพื่อตกผู้ชายวิศวะงานดีเกรดพรีเมียมมาเป็นแฟนใหม่ไง แล้วมึงก็ควงแฟนใหม่ไปเย้ยไอ้เหี้ยนั่นให้มันกระอักเลือดตายไปเลย ตอนนี้ไอ้พี่เบียร์มันก็ยังพยายามติดต่อมึงอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ก็ยังโทร ยังพยายามส่งข้อความมาตลอดแหละ กูบล็อกจนรำคาญแล้วเนี่ย” นับตั้งแต่วันที่เธอบอกเลิกแล้วบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ บุณยวีร์ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะใช้เบอร์อื่นติดต่อเข้ามา เกือบจะสิบเบอร์ได้แล้วมั้งที่เธอกดบล็อก จนเธอซักจะรำคาญความหน้าด้านหน้าทนของอดีตแฟนหนุ่มเต็มทน
คงคิดว่าถ้าพยายามง้อไปเรื่อยๆแล้วเธอคงจะใจอ่อนเหมือนคราที่ตามจีบเธอล่ะสิ บอกเลยว่าถ้าคิดแบบนั้นก็ต้องนอนฝันเอา คนอย่างเฌอริตาพูดคำไหนคำนั้น
จบก็คือจบ
เลิกก็คือเลิก... ไม่คิดรีเทิร์น
“ไอ้หอกหักเอ้ย ตอนเงี่ยxล่ะได้หมดขอให้ได้เสียวพอตอนนี้ล่ะเสียดาย สมน้ำหน้าอยากเห็นก้อนกรวดดีกว่าเพชรงามน้ำร้อยดีนัก” อัจฉราวดีเป็นเดือดเป็นแค้นแทนเพื่อน
“เพชรงามน้ำร้อยเลยเหรอเปรียบซะหรูเชียว ถ้ากูเป็นคนหลงตัวเองซักหน่อยกูคงนึกว่าตัวเองเป็นเพชรน้ำร้อยจริงๆ”
“ตอนแรกกูก็กะจะเปรียบมึงเป็นพลอยแหละ แต่ดันนึกขึ้นได้ว่านังหน้าแพงมันชื่อจริงว่าพลอยไพลิน”
คำตอบของอัจฉราวดีทำให้เฌอริตาอ้าปากเหวอ ถลึงตามอง ส่วนคนถูกเพื่อนมองตาขวางก็รีบยิ้มแห้งออดอ้อนทันที
เฌอริตาที่กำลังจะด่าเพื่อนแต่พอนึกขึ้นได้ว่าอัจฉราวดีเรียกชื่อเล่นของพลอยไพลินจากพะแพงเป็นหน้าแพงก็ถึงกับหยุดกึก คิดตาม...
จะว่าไปหน้าพะแพงก็แพงสมชื่อจริงๆนั่นแหละ ทั้งตาสองชั้นเอย จมูกรูปหยดน้ำเอย ริมฝีมากจิ้มลิ้มเอย รวมๆแล้วก็น่าจะหมดไปหลายล้าน หญิงสาวได้ยินมาว่าคลินิกที่พะแพงบินลัดฟ้าไปทำศัลยกรรมเป็นคลินิกชื่อดังของเกาหลีที่เหล่าดาราไอดอลเป็นลูกค้าอยู่หลายคน
แต่ทว่าทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องให้เครดิตเค้าโครงหน้านางด้วย พลอยไพลินเป็นคนที่มีเค้าโครงหน้าสวยอยู่แล้ว พอทำศัลกรรมเพิ่มเติมก็เลยยิ่งสวยขึ้นไปใหญ่ อยากจะรู้ว่าสวยมากขนาดไหนก็คิดดูเอาแล้วกันว่าขนาดแฟนเก่าเธอที่ลงทุนตามจีบเธอถึงสองปียังวอกแวกไปกับนางได้
โคตรเลว!
พอได้พูดแล้วก็อดโมโหไม่ได้
“เฌอริอ่า เฌอริอ่าคนสวย ไปเป็นเพื่อนเอวาหน่อยนะ เดี๋ยวเอวาจะช่วยเฌอริอ่าจีบหนุ่มวิศวะเอง เอาให้หล่อหรูดูดีดูแพงเซ็กซ์แอพพีลสูงปรี๊ดกว่าไอ้พี่เบียร์มันไปเลย นะเฌออ่าไปเป็นเพื่อนเอวาหน่อยนะ”
เฌอริตาแบะปากให้เพื่อน เมื่อกี้ยังกูมึงอยู่เลยพอจะอ้อนเข้าหน่อยเปลี่ยนเป็นเอวาขึ้นมาทันทีเชียวนะ
ข้อเสนอที่พูดมามันก็เข้าท่าดีอยู่หรอกนะ แต่ว่า...
“คงจะเหลือหรอกนะไอ้ผู้ชายหล่อหรูดูดีดูแพงเซ็กซ์แอพพีลสูงปรี๊ดที่ยังโสดน่ะ แรร์ไอเทมขนาดนั้นไม่ใช่โสดเฉพาะตอนอยู่ข้างนอกหรอกน่ะ พอกลับเข้าห้องแล้วลูกหนึ่งเมียสองแบบนั้นก็ไม่ไหวหรอกนะ ถ้าการต้องมีแฟนแล้วเจอแบบนั้นนังเฌอริขออยู่เป็นโสดไปจนตายค่า”
“ก็ไม่แน่ ผู้ชายงานดีเกรดพรีเมียมที่อยู่บนยอดพีระมิดของคณะวิศวะอาจจะรอมึงอยู่ก็ได้ใครจะรู้ มึงอย่าลืมสิว่ามึงเคยเดินสะดุดลานเกียร์มาแล้ว”