เสียงเพลงจังหวะช้าเคล้าแสงไฟสีทองอำพันสะท้อนบนผนังกระจกใสของไนต์คลับหรู The Shadows ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่นั่นคือสถานบันเทิงระดับวีไอพีซึ่งเหล่านักธุรกิจและไฮโซชื่อดังนิยมมาพักผ่อนกันเป็นประจำ
และเจ้าของที่แท้จริงของที่แห่งนี้คือ เมฆินทร์ พัฒนไพศาล มิลเลอร์ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกันวัยสามสิบสี่ปี ผู้มากด้วยเสน่ห์และอำนาจที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
คืนนี้ ไนต์คลับเต็มไปด้วยแขกมากมายเพราะมีการปิดห้องวีไอพีชั้นบนสุดเพื่อจัดงานวันเกิดของ กันตวีร์ หนุ่มหล่อมากเสน่ห์วัยยี่สิบห้าปีฝ่ายการตลาดแห่ง ห้างสรรพสินค้าเดอะวันกรุป ซึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาก็มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ ลัลน์ลลิต สิริวัฒนา ลูกสาวเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่เขาแอบหลงใหลมานาน
เสียงหัวเราะและเพลงดังลอดออกมาจากห้องวีไอพี แต่ยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะก้าวเข้าไป เพราะลัลน์ลลิตเพิ่งมาถึงหลังจากเลิกงานได้ไม่นาน เธอสวมชุดเดรสปาดไหล่สีครีม ความเรียบหรูของผ้าตัดกับผิวขาวนวลอย่างพอดี รองเท้าส้นสูงสีเบจเพิ่มความสง่างามให้กับรูปร่างสมส่วน ดวงตาเรียวหวานใต้แว่นตาใสสะท้อนแสงไฟระยิบเหมือนประกายจากคริสตัล
เธอสูดลมหายใจเข้าเบาๆ ก่อนจะเดินผ่านโถงด้านหน้าไปยังลิฟต์ที่นำขึ้นชั้นสองซึ่งเป็นโซนส่วนตัวของแขกวีไอพี
ระหว่างที่เธอก้มมองโทรศัพท์เพื่อดูข้อความจากเพื่อนที่ส่งพิกัดห้องมา เสี้ยววินาทีนั้นเอง
ปึก!
เสียงกระทบดังขึ้นเบาๆ แต่แรงพอให้เธอเซไปด้านหน้า มือถือเกือบหลุดจากมือหากไม่ถูกร่างสูงของใครบางคนรับไว้ก่อน
“ระวังหน่อยสิครับ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นเหนือศีรษะ น้ำเสียงไม่ได้แข็ง แต่กลับอบอุ่นและทรงพลังจนหัวใจเธอสั่น
ลัลน์ลลิตเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วพบกับดวงตาคมลึกคู่นั้นดวงตาของชายร่างสูงในสูทสีดำสนิทที่มองเธอด้วยสายตานิ่งสงบแต่แฝงความร้อนแรงจนทำให้เธอพูดไม่ออก
เพียงแค่หนึ่งวินาทีที่สบตา โลกทั้งใบเหมือนเงียบไป
เขามีใบหน้าคมสันสไตล์ลูกครึ่ง ผิวขาวอมแทน เส้นผมสีน้ำตาลเข้มจัดแต่งอย่างเรียบหรู ความสูงกว่าหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรทำให้เธอต้องเงยหน้ามอง และยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนเวลาถูกหยุดไว้ตรงนั้น
“ขอโทษค่ะ...” เสียงเธอเบาเกือบกระซิบ ขณะพยายามถอยหลังออกห่างแต่เขากลับขยับมือจับข้อมือเธอไว้เบาๆ
“ไม่เป็นไร ผมต่างหากที่เดินไม่ระวัง” เขายกยิ้มเล็กน้อย มุมปากโค้งขึ้นอย่างนุ่มนวลแต่ทรงเสน่ห์
รอยยิ้มนั้นทำให้เธอหัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ไม่รู้ว่าเพราะความเขินหรือเพราะแรงดึงดูดที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“คุณ...มาคนเดียวเหรอครับ” เขาถามต่อ เสียงทุ้มเรียบแต่มีแววสนใจชัดเจนในดวงตา
“เปล่าค่ะ...ฉันมาหาเพื่อน วันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนเค้าจัดงานที่ห้องวีไอพีของที่นี่น่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอตอบตะกุกตะกัก มือรีบจัดผมที่หล่นลงมาปรกหน้าอย่างเก้อเขิน
“อ้อ...” เขาพยักหน้าเบาๆ ดวงตาคมยังจับอยู่ที่ใบหน้าเธอไม่ละไปไหน “งั้นผมคงต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้คุณตกใจ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มบางๆ พยายามรักษามารยาท ทั้งที่ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก
เขามองรอยยิ้มนั้นอยู่อึดใจ ก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“คุณชื่ออะไรครับ”
เธออ้าปากจะตอบ แต่ยังไม่ทันได้พูด เสียงชายอีกคนดังแทรกขึ้นจากทางด้านหลัง
“เฮียครับ เฮียหมอกรออยู่ที่ห้องทำงานของเฮียแล้วครับ”
เขาหันขวับ เสี้ยววินาทีนั้นแววหงุดหงิดวูบผ่านในดวงตา ก่อนหันกลับมามองเธออีกครั้ง
“ขอโทษนะครับ ผมต้องไปก่อน” น้ำเสียงเขาแม้เรียบแต่ฟังดูเสียดายบางอย่างที่เจ้าตัวเองก็อธิบายไม่ได้
“หวังว่าเราคงได้เจอกันอีก”
ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยอะไร เขาก็เดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว เสียงรองเท้าหนังดังสะท้อนกับพื้นหินอ่อนในโถงไนต์คลับ ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อนของน้ำหอมผู้ชายที่ติดอยู่ในอากาศ และหัวใจของเธอที่เต้นแรงราวกับเพิ่งเกิดพายุ
ลัลน์ลลิตยืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก้มมองข้อมือที่เขาแตะเมื่อครู่ ความรู้สึกร้อนผ่าวที่ยังไม่จางทำให้เธอเผลอยิ้มบางๆ ทั้งที่ไม่รู้ตัว
“มัวแต่คิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่เนี่ยลัลน์”
หญิงสาวส่ายหน้าไล่ความคิดแปลกๆ ออกจากใจก่อนกดโทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนให้ออกมารับ ไม่นานเธอก็ได้เจอเพื่อนๆ ที่รออยู่
เสียงเพลงจากห้องวีไอพีดังลอดออกมาผ่านผนังห้องในจังหวะสนุกสนาน เสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อนคละเคล้าไปกับกลิ่นไวน์และเครื่องดื่มราคาแพงที่อบอวลอยู่ทั่วห้อง กันตวีร์ เจ้าของงานวันเกิดคืนนี้ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด ก่อนจะปรายตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่มุมโต๊ะหญิงสาวที่เขาแอบเฝ้ามองมานาน
ลัลน์ลลิตไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่กว่าใคร ทว่าความเรียบหรูของเธอกลับทำให้เธอโดดเด่นกว่าผู้หญิงทุกคนในห้องนั้น รอยยิ้มบางของเธอขณะพูดกับเพื่อนสาวสองคนอย่างอรดีและพันทิวา ทำให้กันตวีร์รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่กดดันอยู่ในอก
“ลองชิมไวน์ขวดนี้สิลัลน์ นำเข้าจากฝรั่งเศสเลยนะ กันต์รอลัลน์มาชิมคนแรกเลยล่ะ นี่ถ้าอรกับพั้นช์รู้คงโดนบ่นยับแน่นอน”
เขาบอกยิ้มๆ พลางรินให้เธออย่างเอาใจ
หญิงสาวลังเลเพียงครู่ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบเบาๆ ตามมารยาท กลิ่นไวน์หอมละมุนและรสหวานขมแผ่วปลายลิ้นทำให้เธอเผลอยิ้มบาง