2.3

1374 Words
วันต่อมา “เดี๋ยวนะ ไอ้พวกนี้มันโผล่มาได้ยังไง” ฟิโอดอร์ขมวดคิ้วน้อยๆ ตอนที่ถามบอริสกับอีวานที่เดินขนาบข้าง บอริสอยู่ทางขวา ส่วนอีวานอยู่ทางซ้าย ในขณะที่ดวงตาสีเทาอมฟ้าจับจ้องไปยังเบื้องหน้าซึ่งเป็นห้องรับแขก โซฟาฝั่งซ้ายมือของฟิโอดอร์ถูกจับจองด้วยจ้าวไป่เฟิง มาเฟียฮ่องกงหน้าหวาน หากแต่ความโหดเหี้ยมขัดแย้งกับหน้าตา ส่วนตัวตรงกลางนั้นเป็นราฟาเอล เลอร์มา มาเฟียฝรั่งเศสที่มีใบหน้าหล่อเหลาราวกับหลุดออกมาจาากปกนิตยสาร และทางขวาคือดิมิทิส มันตาลอส มาเฟียกรีซ ผู้ซึ่งมีใบหน้างดงามราวกับรูปสลักในเทพนิยาย “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ พากันเข้ามาแต่เช้าเลย” บอริสเป็นคนตอบ ฟิโอดอร์ส่ายหน้าอย่างขัดใจก่อนจะโบกมือไล่ทุกคนออกไป รวมถึงคนติดตามของเพื่อนที่มาโดยไม่บอกกล่าวออกไปด้วย เจ้าบ้านนั่งลงที่โซฟาตัวที่ว่าง ดวงตาคมกริบแข็งกร้าวจ้องมองเพื่อนทีละคน เหมือนเหลือกันเพียงลำพัง ใบหน้าที่เคร่งขรึมอย่างวางหมาดก็ผ่อนคลาย เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่อมยิ้มนิดหน่อยตอนที่ถูกเจ้าบ้านทักทายด้วยหมอนอิง “ไอ้พวกเวร พากันมาทำไม” ฟิโอดอร์ไม่พูดเปล่า หยิบหมอนอิงเขวี้ยงใส่เพื่อนทีละคน คนที่รับโชคเป็นคนแรกคือจ้าวไป่เฟิง คนต่อมาคือราฟาเอล และคนสุดท้ายก็คือดิมิทิส ซึ่งแต่ละคนต่างรับเอาหมอนอิงไว้ได้อย่างสบายๆ และต่างพากัน “เพื่อนคิดถึง ไม่ได้หรอกเหรอ” คนพูดคือจ้าวไป่เฟิง ฟิโอดอร์ถึงกับตวัดสายตาแข็งกร้าวมองเพื่อนอย่างไม่เกรงใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงขุ่นโต้ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “ฮึ คนอย่างพวกนายน่ะนะคิดถึงฉัน ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะเสี่ยวเฟิง” จ้าวไป่เฟิงทำเพียงไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระเหมือนโดนเจ้าบ้านจับได้ภายในเสี้ยววินาที ส่วนราฟาเอลกับดิมิทิสกำลังยิ้มกว้าง และพวกเขาก็ไม่รอดจากสายตาแข็งกร้าวของฟิโอดอร์เช่นกัน “โธ่ เฟเดียที่รัก พวกฉันแค่คิดถึงเลยแวะมาหาไม่ได้หรือไง ใช่ไหมราฟ” ท้ายประโยคดิมิทิสหันไปพยักเพยิดหน้ากับราฟาเอล ทั้งคู่ต่างมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าเมื่อได้กวนประสาทเจ้าบ้านอย่างฟิโอดอร์ และเฟเดียก็คือชื่อเล่นของฟิโอดอร์ที่คนสนิทเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เรียกมาเฟียหนุ่มด้วยชื่อนี้ “เฮอะ นายมันกวนประสาทฉันชะมัดดิม ที่กรีซไม่มีใครให้นายคอยกวนแล้วหรือไง แล้วงานประชุมสมาพันธ์นั่นน่ะ นายเตรียมเรียบร้อยแล้วงั้นเหรอ” “คนเราจะมีเงินไปไว้ทำไมกันล่ะถ้าไม่ใช้ ถูกไหม เสี่ยวเฟิง ราฟ” ดิมิทิสหันไปมองจ้าวไป่เฟิงก่อนจะลากสายตากลับมาที่ราฟาเอลซึ่งทั้งคู่ต่างพยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วย และท่าทางของพวกเขาก็ชวนให้ฟิโอดอร์รู้สึกหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย “บอกฉันมาว่าพวกนายพากันมาทำไม” ฟิโอดอร์ถามเสียงเครียด นั่นทำให้จ้าวไป่เฟิง ดิมิทิสและราฟาเอลเก็บรอยยิ้ม สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดไม่ต่างจากฟิโอดอร์นัก “นายได้ข่าวพวกคลื่นใต้น้ำที่กำลังจะต่อต้านสมาพันธ์หรือยัง” จ้าวไป่เฟิงเอ่ยเสียงเครียด ในขณะที่ดิมิทิสกับราฟาเอลก็มีสีหน้าไม่ต่างจากมาเฟียฮ่องกงนัก ดวงตาคมกริบดุดันของฟิโอดอร์จับจ้องดวงหน้าของจ้าวไป่เฟิง ก่อนจะพยักหน้าทีหนึ่ง “ก็ได้ยินมาเหมือนกัน” “จุดประสงค์หลักของการก่อตั้งสมาพันธ์ก็เพื่อเป็นตัวกลางในการต่อรองราคาพวกยุทโธปกรณ์กับพวกรัฐบาลและพวกนักธุรกิจที่จำเป็นต้องมีอาวุธเอาไว้ในมือ และไม่ต้องสุ่มเสี่ยงในการโดนจับเพราะพวกเราสามารถค้าขายได้โดยมีกฎหมายรับรอง และผลประโยชน์ที่ได้รับต่างก็เท่ากัน แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางคนหรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการผลประโยชน์ที่สมาพันธ์แบ่งให้เท่ากันเอาไว้ทั้งหมด พูดง่ายๆ ก็คืออยากกำจัดสมาชิกในสมาพันธ์ออกและเหลือไว้แค่มันหรือพวกมันเท่านั้น” ราฟาเอลเอ่ย “และเขี่ยพวกเราออกจากสมาพันธ์” ดิมิทิสเสริม “แสดงว่าพวกนายต้องมีคนหรือมีมากกว่าหนึ่งที่สงสัยอยู่ในใจแล้วใช่ไหม” ช่วงนี้ฟิโอดอร์ค่อนข้างยุ่งกับเรื่องภายใน มีใครบางคนต้องการล้มเขาและตั้งตนเป็นใหญ่แทนซึ่งเขากำลังตามสืบอยู่ และตอนนี้ก็เหลือคนที่น่าสงสัยเพียงสองคนเท่านั้น จึงทำให้เขาไม่รายละเอียดในเรื่องนี้มากนัก “ใช่ ตอนนี้ที่พวกเราสงสัยมีอยู่สามคน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่พวกฉันมาที่นี่” จ้าวไป่เฟิงว่า “ใครบ้าง” ฟิโอดอร์ถาม “คนแรกคือซามูเอล คาวัลลินี่ มาเฟียแคนาดา คนที่สองคือซันเดซ ข่าน มาเฟียอินเดีย และคนสุดท้ายก็นายทรงกฤต มาเฟียชาวไทยนี่แหละ” ราฟาเอลเป็นคนบอกซึ่งคำตอบของมาเฟียฝรั่งเศสทำให้ฟิโอดอร์ถึงกับเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูง ใบหน้าหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยความครุ่นคิด ไม่ทันได้แสดงความเห็นใดๆ ดิมิทิสก็เอ่ยออกมาก่อน “และมันหรือไม่ก็พวกมันต้องการกำจัดเรา ฉันว่าบางทีพวกมันอาจจะร่วมมือกัน เขี่ยเราให้พ้นทางก่อนและค่อยไปหักกันเอง” “แบบนี้ก็เรียกว่าสัจจะไม่มีในหมู่โจรละสินะ” ฟิโอดอร์ว่า “ที่นายพูดมาก็ถูก แต่ประเด็นก็คือเราต้องสืบให้ได้ก่อนว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือว่าพวกมันทั้งหมดร่วมมือกัน” จ้าวไป่เฟิงบอก “งั้นที่พวกนายมากันบุกมาที่บ้านของฉันโดยที่ฉันไม่ได้เชื้อเชิญก็เพราะว่าพวกนายจะมาสืบเรื่องนี้ใช่ไหม” “ใช่” ราฟาเอลว่า “เพราะหนึ่งในคนที่น่าสงสัยอยู่ที่นี่และที่นี่ก็เป็นถิ่นนาย ฉะนั้นเริ่มจากนายทรงกฤตก่อน ฉันว่าก็น่าจะเข้าทาง” “แล้วถ้าไม่ใช่นายทรงกฤตล่ะ” ฟิโอดอร์ถาม “เป้าหมายคนต่อไปของเราก็คือคาวัลลินี่ แล้วก็ปิดท้ายด้วยซันเดซ” ดิมิทิสเป็นคนบอก “แล้วแพลนต่อไปหลังจากที่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังล่ะ” ฟิโอดอร์ถาม “เก็บมันสิครับรออะไร” ดิมิทิสไหวไหล่เบาๆ ตอนที่ตอบ ทำเอาฟิโอดอร์มองเจ้าตัวด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ส่วนจ้าวไป่เฟิงกับราฟาเอลกำลังยกยิ้มอย่างชอบใจ “เฮอะ เก็บมาเฟียง่ายมากมั้ง” “พูดอย่างกับว่านายไม่ใช่มาเฟียงั้นแหละ” จ้าวไป่เฟิงบอกเสียงขบขัน “ก็เพราะใช่ไง ฉันถึงรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายเลย” ฟิโอดอร์ว่าพลางถอนหายใจ แค่เรื่องภายในของเขาก็ชวนปวดหัวมากพออยู่แล้ว แล้วนี่ยังมีเรื่องของสมาพันธ์เข้ามาให้ปวดขมับอีก “ไม่ง่าย แต่ก็ไม่เกินความสามารถคนหล่อๆ อย่างพวกเราหรอก” “ดิมฉันขอละ อย่าเพิ่งเล่น” เป็นอีกครั้งที่ฟิโอดอร์ถอนหายใจคล้ายระอาดิมิทิสเต็มทน ในขณะที่จ้าวไป่เฟิงกับราฟาเอลกำลังหัวเราะอย่างชอบใจ ฉับพลันก็ถูกสายตาขุ่นๆ ของคนเป็นเจ้าบ้านมองมา แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้รอยยิ้มขบขันบนใบหน้าของพวกเขาลดน้อยลงไปได้เลย “โธ่ ฉันก็แค่อยากให้พวกเราผ่อนคลายเฉยๆ หรอกน่า” ดิมิทิสว่าพลางเอนแผ่นหลังเข้ากับพนักพิงโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ จนฟิโอดอร์อดหมั่นไส้ไม่ได้ ก่อนที่มาเฟียรัสเซียจะพูดขึ้นว่า “แล้วใครจะเป็นคนสืบเรื่องนี้” “พวกฉันไม่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมานอนเล่นที่บ้านนายเฉยๆ หรอกน่า” ราฟาเอลว่าในขณะอีกสองคนที่เหลือต่างพยักหน้าหงึกๆ เป็นการเห็นด้วย “แต่คนที่ต้องรับบทหนักหน่อยก็คงต้องเป็นเจ้าของพื้นที่อย่างนาย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD