ในห้องนอนที่มืดสลัวมีเพียงแสงไฟจากนอกบ้านส่องผ่านเข้ามาทางรอยแยกของผ้าม่านทางหน้าต่าง พอให้มองเห็นในห้องนอน ว่าตอนนี้บนเตียงนอนขนาดหกฟุตเจ้าของเตียงกำลังนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาไม่มีทีท่าว่าจะหลับแต่อย่างใด ทั้งตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่เช้าวันใหม่หลายชั่วโมง แต่ความง่วงก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาเยือนเสียที
ใบข้าวพยายามข่มตานอนให้หลับ นับหนึ่งจนถึงร้อยในใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังไม่สามารถหลอกตัวเองให้ง่วงได้เสียที ครั้นพอจะเคลิ้มหลับภาพของพ่อสามีกับอาวุธร้ายกาจอันใหญ่ ที่จ้วงแทงเข้าใส่ในรูสวาทของผู้หญิงคนนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวซ้ำๆ
ร่างกายก็เกิดปฏิกิริยาตอบสนองร้อนรุ่มไม่ทั้งตัว โดยเฉพาะท้องน้อยเกิดความรู้สึกวาบหวามรัญจวนขึ้นมาพาลให้น้ำหวานไหลเยิ้มออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาได้ง่ายดายขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะเธอห่างหายจากเรื่องแบบนี้ไปนานตั้งแต่สามีเสียชีวิต เมื่อมาเห็นภาพชวนเสียวต่อหน้าต่อตาแบบนี้ย่อมเกิดความรู้สึกขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
"แกเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไงวะไอ้ข้าว" เอ่ยพึมพำกับตัวเองออกมาเบาๆ สายตามองเพดานห้องฝ่าความมืดอยู่อย่างนั้น อยากจะสลัดภาพนั้นออกไปจากสมองแต่ทำยังไงก็ทำไม่ได้ แถมยังมีอารมณ์ขึ้นมาจนทำให้ตัวเองทรมานอีกต่างหาก คิดแล้วใบข้าวก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ลงจากเตียงนอนเดินออกไปนอกห้อง หวังจะไปหาน้ำเย็นสักแก้วเพื่อดับความร้อนรุ่มในร่างกายให้เย็นลง
แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเสียเท่าไหร่ เมื่อเดินออกมาจากห้องก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ขุนศึกเปิดประตูห้องออกมาเช่นเดียวกัน ต่างคนก็ต่างชะงักหันมองกันและกัน ความร้อนรุ่มของใบข้าวที่มีก่อนหน้าก็เหมือนจะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดยืนใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวอยู่ตรงหน้า
"ยังไม่นอนอีกเหรอลูก นี่มันตีสามแล้วนะ" น้ำเสียงอ่อนโยนดังฝ่าความเงียบขึ้น ยิ่งทำให้ใบข้าวใจเต้นระส่ำมากขึ้นกว่าเดิม รีบส่ายหน้าปฏิเสธจนผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงก่อนหน้าจากการนอนกระจายดูยุ่งไปยิ่งกว่าเดิม มิหนำซ้ำความแรงจากการส่ายหน้ายังทำให้ความอวบอิ่มสองลูกที่ไม่มีบราห่อหุ้มส่ายไปมาตามแรงนั้นด้วย ทำให้ขุนศึกมองความอิ่มที่ส่ายไปมาอย่างไม่วางตา
"ยังค่ะ หนูนอนไม่หลับ"
"เหมือนพ่อเลย พ่อก็นอนไม่หลับ ก็เลยว่าจะลงไปหาน้ำเย็นๆ กินสักแก้ว"
"เหมือนหนูเลยค่ะ หนูก็ว่าจะออกมาหาน้ำเย็นกินเหมือนกัน"
"ใจตรงกัน" รอยยิ้มอบอุ่นส่งไปให้คนตรงหน้า เรียกจังหวะหัวใจของใบข้าวให้เต้นแรงมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมกับพ่อสามีเธอถึงได้มีอาการแบบนี้เกิดขึ้น ความรู้สึกเหมือนรักแรกพบ เหมือนเจอผู้ชายที่ถูกใจอยากได้มาเป็นเจ้าของ เพียงแค่เห็นรอยยิ้มหรือแววตาอบอุ่นที่เขามองมาเธอก็แทบจะหลอมละลาย ยิ่งน้ำเสียงทุ้มละมุนอ่อนโยนที่พูดกับเธอ แทบทำให้เธอไปไม่เป็นทำอะไรไม่ถูกอ่อนระทวยอย่างง่ายดาย
"น้ำลูก" เสียงทุ้มดังขึ้นด้านข้างพร้อมกับพื้นที่โซฟาด้านข้างที่ยุบตัวลง ดังสติของใบข้าวที่หลุดลอยไปไกลให้ไหลกลับเข้ามาตามเดิม หันมองแก้วหน้าที่ถูกยื่นมาตรงหน้า มองเลยไปยังเจ้าของรอยยิ้มที่กำลังยิ้มให้เธออยู่ตอนนี้ ก่อนจะยื่นมือไปรับแก้วน้ำมาดื่มแก้กระหายดับความร้อนภายในร่างกาย
ขุนศึกมองคนที่นั่งดื่มน้ำตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เห็นปริมาณน้ำที่อยู่ในแก้วลดลงไปเกือบครึ่งก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น สงสัยจะหิวจริงๆ ถึงได้ดื่มเยอะขนาดนี้
"ค่อยๆ ดื่มสิลูกเดี๋ยวก็ได้สำลักกันพอ..."
"แค่ก แค่ก..." ยังไม่ทันที่ขุนศึกจะได้พูดจบประโยค ใบข้าวก็สำลักน้ำเสียแล้ว
ขุนศึกรีบดึงกระดาษทิชชูที่วางอยู่บนโต๊ะส่งให้ใบข้าว รับแก้วน้ำจากมือของหญิงสาวมาวางไว้ มองใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะสำลักน้ำก็ส่ายหน้าไปมายิ้มๆ ด้วยความเอ็นดู
"พ่อพูดยังไม่ทันขาดคำก็ได้เรื่องซะแล้วเห็นไหม" คนถูกตำหนิกลายๆ ส่งยิ้มกลับไปให้ พลางรับทิชชูจากมือพ่อสามีไปถือไว้
"แย่จังเลยค่ะ สงสัยหิวน้ำมากไปหน่อย" พูดไปก็เช็ดน้ำที่เปื้อนลงมาตามลำคอไปพลาง
ทำให้ขุนศึกอดไม่ได้ที่จะไล่สายตาต่ำลงมาตามลำคอขาวระหง ไล่สายตาลงมายังเนินเนื้อขาวอมชมพูที่โผล่พ้นออกมาจากคอเสื้อกล้ามคอกว้าง เผยความอวบอิ่มขาวเนียนที่ล้นทะลักออกมา รู้สึกเหมือนลมหายใจติดขัดขึ้นมาเสียอย่างนั้น จากนั้นก็ไล่สายตาลงมายังเรียวขาขาวที่โผล่พ้นออกมาจากชายเสื้อที่ล้นขึ้นสูงจนเกือบถึงเนินสามเหลี่ยม พลันความคิดลามกไม่เข้าท่าก็ผุดเข้ามา จะเป็นอย่างไรนะถ้าเขาได้ลูบไล้เรือนร่างขาวเนียนนี้ ผิวขาวๆ จะนุ่มมือดีไหม ความอวบอิ่มจะเด้งสู้มือหรือไม่
เมื่อเห็นว่าปอยผมหลุดร่วงลงมาคลอเคลียใบหน้ามือหนาจึงยื่นมาจับปอยผมที่หลุดร่วงลงมาไปทัดหูไว้ ใบข้าวถึงกับชะงักหันมองหน้าขุนศึกด้วยความไม่เข้าใจและตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้า
"ผมมันร่วงลงมา พ่อก็เลยเก็บขึ้นให้ หิวน้ำมากจนไม่มีเวลาหวีผมเลยหรือไง ดูซิเนี่ยผมพันกันยุ่งเหยิงเลย" ไม่ใช่แค่พูดแต่ยังใช้มือสางผมให้ใบข้างเสียด้วยซ้ำ จนใบข้าวต้องผงะศีรษะหลบและขยับตัวออกห่างหัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าอะไร
"ค่ะ หนูหิวน้ำก็เลยไม่ได้หวีผมก่อน"
"หันหลังมาสิเดียวพ่อใช้มือสางให้ดีๆ" ใบข้าวรีบยกมือขึ้นลูบผมตัวเองโดยเร็ว
"มะ ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ หนูเกรงใจ อีกอย่างเดี๋ยวหนูก็จะขึ้นไปนอนแล้ว พอนอนไปก็ยุ่งเหมือนเดิมค่ะ" คนถูกปฏิเสธเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
"หนูรังเกียจพ่อ" ครั้งนี้ใบข้าวส่ายหน้าแรงมากกว่าเดิม ผมที่ยุ่งอยู่แล้วก็ยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่
"ไม่ใช่นะคะ หนูไม่ได้รังเกียจคุณพ่อนะ แต่หนูเกรงใจไม่อยากรบกวนคุณพ่อ"
"แต่พ่อเต็มใจไม่ได้รบกวนสักหน่อย" ใบข้าวมีสีหน้าลำบากอย่างเห็นได้ชัด อยากให้พ่อสามีสางผมให้ก็อยากแต่เธอก็กลัว
"แต่หนูว่า..."
"ไม่เป็นไร พ่อเข้าใจลูก พ่อเป็นผู้ชาย หนูเป็นผู้หญิง ทำตัวสนิทชิดเชื้อกันมากเกินไปมันไม่ดี อีกอย่างหนูก็คงลำบากใจด้วยที่ต้องมาใกล้ชิดกับพ่อแบบนี้ งั้นพ่อว่าพ่อขึ้นไปนอนก่อนดีกว่าดึกแล้ว หนูก็อย่านอนดึกนะลูก" ว่าแล้วขุนศึกก็ลุกขึ้นจากโซฟา เดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตัวเอง โดยมีสายตาของใบข้าวมองตามไป จนประตูห้องนอนของชายหนุ่มปิดลง
"งื้อ...พ่อโกรธเราแน่เลย เอาไงวะไอ้ข้าว" เอ่ยออกมาอย่างร้อนรนและไม่สบายใจ
เธอไม่ได้รังเกียจขุนศึกแต่อย่างใด เธอไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นเสียด้วยซ้ำ แต่ที่เธอปฏิเสธเป็นเพราะเธอกลัวใจตัวเอง กลัวจะเผลอใจไปรู้สึกอะไรกับพ่อสามีเข้า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นขึ้นมาเธอจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองอย่างไร เธอจะถูกคนอื่นตราหน้าว่าพ่อผัวตายก็เอาพ่อผัวมาทำสามีไหม
"เอาไงวะ...ไอ้ชมพู่ ใช่ ไอ้ชมพู่ต้องช่วยเราได้แน่" ว่าแล้วใบข้าวก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องของตัวเอง เพื่อโทรหาเพื่อนรักเพียงคนเดียวอย่างชมพู่
"ไอ้พู่ ฉันรู้ว่าแกยังไม่นอน ฉันมีเรื่องอยากจะให้แกช่วยตัดสินใจหน่อยว่าฉันควรทำยังไงดี" และหลังจากนั้นใบข้าวก็จัดการเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเย็นตอนที่เธอเห็นภาพชวนเสียวนั้นลากยาวมาจนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ในเพื่อนสนิทฟัง
พ่อหนูอยากให้พ่อหวีผมให้หนูจังเลยค่ะ นี่คือวิธีการหลอกล่อเหยื่อของผู้ชายเจ้าชู้ใช่ไหม เเล้วอย่างนี้ข้าวจะติดกับดักที่พ่อสามีว่างไว้ไหมน้อ