หนีเที่ยว

1892 Words
@1 เดือนต่อมา > หน้าคณะบริหารธุรกิจ "เลิกเรียนแล้วโทรหา... เดี๋ยวฉันมารับ "วันนี้พี่ยุ่งไม่ใช่เหรอคะ หนูกลับเองได้นะ พี่จะได้ไม่ต้องวนรถกลับไปกลับมา "ยุ่งแค่ไหนฉันก็ไม่มีทางละเลยเธอหรอกน่า...ถ้าเลิกแล้วโทรมา ห้ามกลับเองเด็ดขาด "ค่า...รู้แล้วค่ะ..ไว้หนูจะโทรหานะคะ "ครับ ฉันยิ้มให้พี่พายุ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถสปอร์ตคันหรู หนึ่งเดือนเต็มที่เราสองคนลองศึกษาดูใจกันในสถานะแฟน พี่พายุก็ยังคงเป็นพี่พายุ หน้านิ่ง ไม่ค่อยจะพูดกับใครโดยเฉพาะผู้หญิง แต่สำหรับฉันเขากลับให้ความสำคัญเสมอ เขามารับมาส่งฉันที่คอนโดทุกวัน แต่เอาจริงพี่เขาค่อนข้างจะเป็นสุภาพบุรุษเอามากๆ เขาให้เกียรติฉันตลอด ไม่เคยทำอะไรที่ส่อไปในทางเสื่อมเสีย จากวันแรกที่เขาทั้งจับมือ ทั้งกอด ทั้งหอมแก้มฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกกล้าๆกลัวๆที่จะคบกับเขา แต่วันนี้ฉันคล้ายความกังวลเหล่านั้นลงไปมากแล้ว ถามว่าความสัมพันธ์ของเรามันดีขึ้นไหม ตอบเลยว่ามันพัฒนาไปไกลมาก ฉันรู้สึกดีที่มีเขาเป็นแฟน ถึงแม้บางครั้งจะดื้อจนโดนเขาดุอยู่แต่เขาก็ไม่เคยโกรธฉันจริงๆเลยสักครั้ง "แหมมมมมม...ตั้งแต่มีแฟนนี่หน้าตาสดใสขึ้นทุกวันเลยนะ : มุกดามันเอ่ยปากแซวฉัน ก่อนที่ฉันจะทำหน้ายู่ใส่มัน "ก็ปกติป่ะ... "กูไม่อยากจะเชื่อเลย..ว่าพี่พายุจอมเคี้ยวจะมาตกหลุมรักผู้หญิงจอมดื้อจอมซนอย่างมึง : โมบาย "สงสัยพี่เขาจะชอบของแปลก : มุกดา "ให้มันน้อยๆหน่อย กูเพื่อนมึงนะ หัดเข้าข้างเพื่อนตัวเองบ้าง... "จ้ะ..เพื่อนรัก เพื่อนทูลหัว ว่าแต่คืนนี้มึงเอาไง...ไปได้ป่ะ.. : มุกดา "กูยังไม่ได้ขอพี่พายุเลยอ่ะ... "ขืนมึงขอพี่เขา..มีหวังเขาไม่อนุญาตให้มึงมาแน่ คราวที่แล้วพวกกูเกือบขิต แม่ง..ผู้ชายอะไร เวลาโมโหโคตรน่ากลัว โมบายมันพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าทีขนลุกขนพอง จะอะไรซะอีก ก็เมื่อสองสัปดาห์ก่อนฉันออกไปสังสรรค์กับพวกมัน...โดยที่ไม่ได้บอกพี่พายุ..กะว่าจะดื่มกินกันนิดๆหน่อยๆ ไม่เกินสามทุ่มก็จะกลับ ดื่มไปดื่มมาพอติดลมก็ลากกันไปจนถึงตีหนึ่ง ขากลับฉันดันอ้วกจนสุดทาง แถมตื่นมายังเมาค้างเจ็บท้องหนักจนลุกไปไหนไม่ได้ พอโดนพี่พายุจับได้ คราวนี้ล่ะโดนเทศก์รายตัว แถมพี่พายุยังคาดโทษพวกฉันเอาไว้อีก "แต่คืนนี้ฉลองวันเกิดกูน่ะโว้ย..พวกเราฉลองด้วยกันทุกปี กูว่ามึงลองขอพี่เขาดีดี พี่พายุคงไม่ใจร้ายใจดำขนาดนั้นหรอก : มุกดา "เออน่า...เดี๋ยวกูจัดการเอง พวกมึงไม่ต้องห่วง ยังไงคืนนี้กูต้องได้ไปฉลองวันเกิดกับพวกมึงแน่... ฉันรับปากมุกดาออกไป ก็กะว่าจะลองขออนุญาตพี่พายุดีดี แต่พอคิดอีกทีช่วงนี้พี่เขายุ่งๆ กับงานโปรเจคหุ่นยนต์ของเขา เขาคงไม่มาอะไรมากมายกับฉันหรอก บอกไปก็มีแต่จะทำให้เขาเป็นห่วง ไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี ไปแปปเดียวคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง @คอนโดพระแพง ลมเย็นยามค่ำคืนพัดเบาๆ พาเอากลิ่นถนนเปียกฝนจางๆ ลอยมาแตะปลายจมูก ฉันยืนอยู่หน้าคอนโดใต้แสงไฟสลัวที่ส่องลงมาจากโคมไฟหน้าทางเข้า เสียงเครื่องยนต์ยังอุ่นๆ อยู่หลังจากพี่พายุดับเครื่องและเดินมาส่งฉันจนถึงหน้าประตู ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตพับแขนอย่างลวกๆ ยืนมองฉันด้วยสายตาจริงจังแบบที่ฉันไม่ค่อยชินนัก มันอ่อนโยนแต่ก็แฝงความห่วงใยจนทำให้ใจฉันไหววูบอย่างประหลาด "ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" ฉันส่งยิ้มให้เขาเบาๆ พยายามไม่สบตาเขาตรงๆ เพราะกลัวว่าความรู้สึกผิดจะเผลอไหลออกมาทางแววตา "รีบขึ้นห้อง..แล้วอย่าลืมทานยาด้วยล่ะ..ถ้าไม่ดีขึ้น ให้โทรหาฉัน...อย่าฝืนตัวเอง เข้าใจไหม" น้ำเสียงเข้มแต่แฝงความห่วงใยของเขาทำให้ฉันต้องเม้มริมฝีปากแน่น ก้มหน้าลงเล็กน้อย พลางพยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่าย แม้ในใจจะกำลังตะโกนขอโทษเสียงดังอยู่เงียบๆ "ค่า..รู้แล้วค่า...ถ้าหนูไม่ไหวหนูจะโทรหาพี่เป็นคนแรกเลย...โอเคไหม.." ฉันแกล้งทำเสียงสดใส ใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกผิด ร่างกายขยับไปข้างหน้าเล็กน้อยเหมือนเด็กที่พยายามอ้อนให้ผู้ใหญ่ใจอ่อน "อย่าดื้อ อย่าซนล่ะ ไม่งั้นจะโดนลงโทษ..." เขาขยับเข้ามาใกล้อีกนิด ดวงตาคมสบกับดวงตาฉันตรงๆ แววล้อเลียนผสมจริงจังในแววตานั้นทำให้หัวใจฉันกระตุกแรง เหมือนจะโดนจับได้ "รับทราบค่ะ..พี่กลับได้แล้ว รีบไม่ใช่เหรอ..." ฉันรีบเบือนสายตาออกแล้วถอยหลังหนึ่งก้าว ยกมือผลักแผงอกเขาเบาๆ อย่างขอให้เขากลับได้แล้ว ทั้งที่ลึกๆ ใจก็ยังอยากให้เขาอยู่ต่ออีกนิด...แต่ยิ่งอยู่นาน ฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด "เธอขึ้นไปก่อน...ฉันถึงจะกลับ" ฉันชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ ขยับตัวเตรียมก้าวเข้าไปในตัวอาคาร สองเท้ารู้สึกหนักผิดปกติ เหมือนมีอะไรถ่วงเอาไว้ "โอเคค่ะ...ขับรถดีดีนะคะ" ฉันหันกลับมาโบกมือให้เขาพร้อมรอยยิ้มแบบเดิม พยายามไม่ให้เสียงสั่น ดวงตาเขายังจับจ้องฉันอยู่เหมือนเดิม นิ่งและอุ่นอย่างที่เคยเป็น "ครับ" คำสั้นๆ จากปากเขาทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในตัวอาคาร เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นกระเบื้องดังก้องอยู่ในโถงที่ไร้ผู้คน ฉันหันหลังกลับไปมองอีกครั้งก่อนที่ประตูอัตโนมัติจะปิดลง พี่พายุยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปที่รถของเขาเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น แล้วค่อยๆ เบาลงพร้อมกับแสงท้ายรถที่เคลื่อนตัวห่างออกไปทุกที ฉันยืนนิ่งอยู่พักใหญ่...หัวใจหนักอึ้งเมื่อภาพเหตุการณ์ตลอดเย็นไหลย้อนกลับมาในหัว ตอนแรกพี่พายุบอกจะพาฉันไปทานข้าวเย็น แต่ฉันบอกเขาว่าฉันรู้สึกปวดหัว เหมือนจะไม่ค่อยสบาย เขาเลยบอกให้ฉันรีบกลับบ้านมาพักผ่อน ระหว่างทางพี่พายุแวะซื้อทั้งยาลดไข้ ยาแก้ปวด แถมยังกำชับฉันนักหนาว่าให้โทรหาเขาถ้าเกิดไข้ขึ้นสูง เอาจริงคือฉันโคตรจะรู้สึกผิดเลยอ่ะที่โกหกพี่เขาแบบนั้น...ยิ่งเห็นเขาดีกับฉัน ฉันยิ่งรู้สึกละอายใจ ใจมันเหมือนโดนบีบแน่นๆ จนหายใจไม่ค่อยออก แต่ก็น่ะ...แค่ครั้งเดียว วันเกิดมุกดาเพื่อนรักของฉันทั้งที ปฏิเสธมันไม่ได้จริงๆ ถ้าขอเขา...เขาคงจะไม่ให้ฉันไป หรือไม่ก็คงจะตามไปด้วยแน่ๆ... @ผับ COP 🍻🍻 >> 20.30 น. เสียงเพลงกระหึ่มดังกระแทกโสตประสาท แสงไฟสาดส่องวูบวาบไปทั่วทั้งคลับ เสียงหัวเราะ เสียงชนแก้ว เสียงร้องกรี๊ดของสาวๆปะปนกับบีทดนตรีจังหวะแดนซ์ที่เร็วและเร้าใจ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความสนุกสนาน อิสระ และความเมามายที่ไหลวนอยู่ในอากาศ 🎶🎶 🎶🎶 "ฮู้ ๆๆๆๆ ....." "เอ้า..!..ชนนนนนน...🍻🍻🍻" ฉันยกแก้วขึ้นชนกับเพื่อนสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง ร่างกายเอนเอียงไปตามเสียงเพลง ดวงตาเป็นประกายด้วยความคึกคัก ฉันไม่แม้แต่จะคิดถึงสิ่งอื่นนอกจากความมันส์ตรงหน้าในคืนนี้ "พระแพง....มึงแน่ใจนะว่าพี่พายุจะไม่ว่าอะไรมึงอ่ะ..." เพื่อนสาวในกลุ่มตะโกนถามขณะจับแขนฉันไว้ สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ และเสียงเพลงรอบข้างทำให้ต้องตะโกนแข่งกับบีทจังหวะ "ไม่ว่า.....พี่พายุออกจะใจดีกับกูจะตาย..มึงไม่ต้องห่วงหรอกน่า..กูเคลียร์ได้.." ฉันยักไหล่ ทำท่าชิลล์ ๆ พร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ มั่นใจในคำพูดตัวเองเต็มร้อย ทั้งที่ในใจลึก ๆ ก็มีแววระแวงแทรกอยู่จาง ๆ "แน่นะมึง...มึงขอพี่เขาแล้วใช่ป่ะ..." เสียงถามซ้ำมาพร้อมสายตาจับผิดที่มองตรงมา ทำเอาฉันต้องหลบตาไปนิดหนึ่งก่อนตอบ "เออน่า..ขอไม่ขอ กูก็มากับพวกมึงแล้วไง..ไม่มีปัญหาหรอกน่า..ช่วงนี้พี่เขายุ่ง..ไม่มีเวลามาคุมกูหรอก.." "ให้มันจริงเห่อะ...เกิดพี่เขาจับได้ พวกกูไม่เกี่ยวนะเว้ย" "มึงจะกลัวอะไร ขนาดกูยังไม่กลัวเลย...เลิกพูดได้แล้ว..มาสนุกกันต่อดีกว่า" ฉันหัวเราะร่วน สะบัดหัวเบา ๆ ให้ผมปลิวลู่ลงมา แล้วเริ่มขยับตัวตามจังหวะอีกครั้ง ปล่อยให้เสียงเพลงพาเอาความกลัวออกไปจากหัวใจ "🎶🎶🎶 โย๊ะๆๆๆ.." "ขอเสียงคนโสดหน่อยเร็วววว..." "กรี้ดดด..." ฉันกับเพื่อนๆ กรี๊ดตอบสนองเสียงดีเจด้วยความเมามัน เราต่างเต้นกันอย่างสุดเหวี่ยง แก้วในมือสั่นไหวตามแรงโยก ฉันยกมันขึ้นจิบอีกครั้งอย่างไม่รีบร้อน รสชาติแอลกอฮอล์อ่อนๆ เคลือบปลายลิ้น ปลุกอารมณ์ให้ยิ่งคึกเข้าไปอีก โซนหน้าเวทีเป็นของพวกเราโดยสมบูรณ์ ไม่มีผู้ชายมาวุ่นวาย มีเพียงกลุ่มเพื่อนสาวที่พร้อมเต้นให้ลืมโลก ยิ่งเสียงเพลงดังขึ้น ท่าทางฉันก็ยิ่งโลดโผน ชุดที่ใส่ก็ช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว แต่แล้ว...ทันใดนั้น... เสียงเพลงหยุดลงอย่างกะทันหัน เสียงบีทเงียบลงราวกับถูกปิดสวิตช์ ฉันชะงักทันที ร่างกายที่กำลังโยกไปตามจังหวะหยุดชะงัก เสียงหายใจดังแผ่ว ๆ พรูลมหายใจออกมาด้วยความสงสัย คิ้วขมวด ดวงตากวาดมองไปที่บูธดีเจ "ขอขัดจังหวะความสนุกสักครู่นะครับ..." น้ำเสียงของดีเจหล่อประจำร้านดังก้องผ่านไมค์ พาฉันให้รู้สึกเย็นวูบในอกทันที เหงื่อเย็น ๆ ซึมที่ข้างขมับ "น้องคนไหนชื่อพระแพง ตอนนี้แฟนมาตามแล้วนะครับ...ติดต่อที่โซนวีไอพีโดยด่วนครับ" ฉันตัวแข็งค้างไปชั่ววูบ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะรีบหันไปมองหน้าเพื่อนสนิท "พระแพง...เค้าหมายถึงมึงป่ะ..." : โมบาย เสียงโมบายถามอย่างตะลึง ฉันพยายามฝืนยิ้มแม้จะรู้สึกหน้าชาขึ้นมานิด ๆ หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ "คงไม่หรอกมั้ง..คนชื่อพระแพงมีตั้งเยอะแยะ...คงไม่ใช่กูหรอก..." ฉันแกล้งหัวเราะเบา ๆ สีหน้าฝืน ๆ ดวงตาหลุกหลิกมองไปรอบ ๆ ใจหนึ่งก็พยายามปลอบตัวเองว่าไม่ใช่ แต่อีกใจก็เริ่มปั่นป่วน แล้วเสียงของมุกดาก็ดังขึ้น เสียงตะโกนอย่างตกใจและชัดเจน "ฉิบหาย !!! พระแพงพ่อมึงมา !!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD