บทที่ 5 บ้านวรจินดา 2/2

1182 Words
“นี่แก...!” ปิ่นปักที่รู้สึกจุกเพราะแรงกระแทกทำให้ไม่สามารถพูดอะไรออกมาอีกได้ จนปุญญาต้องเข้าไปพยุงลูกสาวให้ลุกขึ้น แต่เมื่อลุกขึ้นได้แล้ว คนที่แค้นฝังหุ่นอย่างปิ่นปักมีหรือจะยอมเจ็บตัวฝ่ายเดียว เธอวิ่งเข้าไปหมายกระซากหัวของปานมุกเข้ามาตบสั่งสอนแต่ทว่า... “อ่า...ฮึก...อึก...! แก” ไวเท่าความคิด ปานมุกที่เคลื่อนไหวคล่องตัวกว่าหลบไปอีกฝั่งแล้วก็จับคอของปิ่นปักบีบเน้นตรงสร้อยเพชรให้ฝั่งเข้าเนื้อปิ่นปักอย่างเจ็บปวด “ปานมุกหยุดนะ...จะทำอะไรน้อง” นิกุลมองดูปานมุกทำร้ายปิ่กปักจนทนไม่ไหวแล้วเช่นกันจึงเอ่ยขึ้นอย่างเสียไม่ได้ “ทำอะไรงั้นเหรอ...ฉันแค่ป้องกันตัว หากคุณไม่ตาบอดคงจะเห็นว่าฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม” ยิ่งนิกุลออกหน้าแทนปิ่นปัก เธอก็ยิ่งออกแรงบีบมากขึ้น “นี่ปล่อยนะ...ปล่อยน้อง” ปิ่นปักได้รับอิสรภาพอีกครั้ง แต่ทว่าเมื่อทรงตัวได้แล้วเธอก็ยกแขนวาดมือไปหมายจะตบหน้าปานมุกเพื่อเอาคืนที่ทำเธอเจ็บปวด เพียะ! เพียะ! ปานมุกเห็นอยู่แล้วว่า สันดานหมาลอบกันมันต้องทำเช่นนี้แน่ เธอจึงวาดมือตบสั่งสอนปิ่นปักไปหนึ่งที แล้วก็ลามไปตบปุญญาอีกหนึ่งที โทษฐานที่ไม่รู้จักสั่งสอนลูก “นี่แก...ตบแม่ฉันเหรอ” ปิ่นปักหน้าชาเอามือลูบปรอยแต่เมื่อเห็นว่าปานมุกตบแม่เธอก็เดือดด่านขึ้นมาอีก “สันดานลูกเมียน้อย ก็เมียน้อยทั้งโคตรจริง ๆ ” “นี่แก...!” “หรือเถียงว่าไม่จริง ถามแม่เธอดูว่าตาของเธอเป็นใคร” ปุญญาเก็บงำความลับนี้ไว้ตั้งนาน ไม่เคยบอกใครให้รับรู้ด้วยซ้ำว่า เธอก็คือลูกเมียน้อยเช่นเดียวกัน แต่ก่อนที่ปุณณิกาจะตายเธอได้พลั้งปากบอกกับเธอไป แต่คนตายจะพูดได้ยังไง! “หมายความว่าไง พูดบ้าอะไรของเธอ” ปิ่นปักตะโกนด่า เธอไม่รู้เรื่องที่ปานมุกพูดด้วยซ้ำ “คุณอาคะ คดีฆาตกรรมมีอายุความกี่ปีคะ” “ 20 ปีครับ” “เช่นนั้นก็มีเวลาอีก 5 ปี” เมื่อได้ยินลูกเลี้ยงพูดเช่นนั้น มือของปุญญาสั่นผับ ๆ เกรงกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิด เธอมั่นใจว่าเก็บหลักฐานไปหมดไม่มีใครรู้แน่ว่าเป็นคนทำ “ปานมุก พูดอะไรนี่พ่องงไปหมด” “อย่าเรียกตัวเองว่าพ่อ หากยังทำตัวเป็นแมงดา ใช้เงินผู้หญิง ผลาญเงินแม่ฉันโดยที่ฉันแทบไม่ได้รับการดูแลที่ดี” ดวงตาวาวโรจน์โกรธผู้เป็นบิดา ตอนอยู่ในบ้านเธอแทบไม่มีที่ยืน เมื่อแต่งงานสามีก็โดนปลุกปั่นจนเข้าหอก็ยังไม่เคย “ปานมุก...อย่าหยาบคาย” “หยาบคายงั้นเหรอ ถามตัวเองก่อนไหมที่ฉันพูดนะจริงหรือเปล่า” นิกุลไม่อาจจะแย้งได้ ที่เธอพูดมาล้วนจริงทุกประการ แต่เพราะว่าทรัพย์สินทั้งหมดนั้นควรจะเป็นของเขาต่างหาก เพราะแต่งงานกับปุณณิกามาดังนั้นของของเมียก็เหมือนของของผัว “คุณคงยังไม่ทราบ ตอนแต่งงานมาคุณมาแต่ตัว และทรัพย์สินของคุณปุณณิกาถูกแยกไว้แล้วว่าทรัพย์สินใดเป็นสินส่วนตัวเกิดก่อนแต่งงาน บ้านหลังนี้ หุ้นของวรจินดา เงินสดในบัญชี เงินในตู้เซฟ เครื่องเพชรทุกชิ้นล้วนขึ้นบัญชีไว้แล้วทั้งหมด นับว่าคุณฉลาดน้อยที่รินอกใจคุณปุณณิกา หากเธอไม่ท้องคุณปานมุก ตอนนี้คุณคงใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน” นิกุลใบหน้าซีดเผือด เพราะวรจินดาเตือนเขาเรื่องทรัพย์สินของเมียไว้แล้ว และเขาก็ละเมิดข้อตกลงทั้งหมด เงินในตู้เซฟก็เอาออกมาใช้ เงินในบัญชีของลูกก็เอาออกมาใช้ ทุกอย่างเขาทำจริงทั้งหมด “ทุกอย่างฉันก็ทำเพื่อเลี้ยงยายปานมุก” “แต่จากการสอบถาม เรื่องค่าเล่าเรียน ที่บังคับให้เรียนโรงเรียนรัฐแต่เบิกค่าเล่าเรียนออกปีละห้าล้าน ผมว่ามันฟังดูขัดแย้งนะครับ” “ค่ากินค่าอยู่” “ฟังไม่ขึ้น เพราะเด็กผู้หญิงคนเดียวไม่น่าจะใช้เงินมากมายขนาดนั้น ยังไม่นับเงินสดอื่น ๆ อีก” ไม่ว่าจะตอบอะไรมาก็โดนอภิธารปัดตกไปหมด จนนิกุลเริ่มหน้าซีด “สร้อยในคอปิ่นปักนั่นเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของฉันหรือเปล่าคะ” เธอแสร้งทำเป็นถามไปอย่างนั้น แต่รู้อยู่แล้วว่าเครื่องประดับที่สองคนแม่ลูกนี้ยักยอกไปของแม่เธอทั้งหมด “ไม่...ไม่ใช่...นี่ของฉัน” “ฉันว่าสร้อยทับทิมล้อมเพชรนี่เป็นสมบัติคุณยาย นะเหมือนคุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่าได้ตอนฉันเกิดมา และมีสลักอักษรของวรจินดา” ใบหน้าของปิ่นปักซีดเผือด เพราะมันเป็นสร้อยในตู้เซฟที่เธอแอบไปขโมยมา ยิ่งเสียงฝีเท้าของปานมุกค่อย ๆ ใกล้เข้ามาเธอก็ยิ่งจับสร้อยเพชรนั้นอย่างหวงแหน “ไม่...อย่าเข้ามานะ...ไม่...อย่าของฉัน” ปิ่นปักส่ายหน้าระรัวนึกย้อนไปเรื่องที่เธอบอกว่าจะมาทวงคืนทุกอย่างนั้นไม่เกินจริงเลยสักนิด “สร้อยเส้นนี้ไม่เหมาะที่จะอยู่บนคอกาฝากอย่างเธอกับแม่หรอก” เธอเอื้อมมือไปกระชากสร้อยเส้นนี้กลับคืนมาแล้วก็ล้วงเอากระดาษทิชชูห่อมันไว้ราวกับกลัวว่าจะมีสิ่งสกปรกติดมือ “เธอไม่มีงาน จะมีปัญญาที่ไหนเอาเงินไปซื้อสร้อยมูลค่าเป็นสิบ ๆ ล้าน” “พ่อซื้อให้ฉัน” ปิ่นปักยังเลือกโกหกเช่นเคย “อ่อ...ถ้าอย่างนั้นขอดูใบเสร็จหน่อยสิ” เธอหันหน้าไปมองคนที่อ้างตัวว่าเป็นบิดา แต่ขาดการดูแลสั่งสอนบุตรสาวไม่ให้ริเป็นขโมย “พอได้แล้วปานมุก” นิกุลไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาใช้เงินของแม่ปานมุกทั้งนั้น จะซื้อสร้อยเพชรมูลค่าสิบล้านได้ยังไงกัน “ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก...ปานมุก” “แจ้งเลย ให้ตำรวจมาที่บ้าน เพราะมีต้องผู้ต้องหาอยากพบตำรวจอยู่หลายคน” ปานมุกพูดเป็นความในส่งสายตามองไปยังแม้เลี้ยงจิตใจโหดเหี้ยม “เอ่อ...แม่ว่า” “อย่าไปยอมค่ะแม่” “ดี...ฉันจะได้แจ้งตำรวจจับด้วยว่าเธอเป็นขโมย หลักฐานน่าจะยังอยู่ครบตอนนี้” ปานมุกรอชั่วอึดใจแต่ก็ไม่เห็นปิ่นปักขยับโทรหาตำรวจ “คุณอาคะ รบกวนคุณอาโทรหาตำรวจให้มุกหน่อยนะคะ” “พ่อยืนบื้อทำอะไรอยู่คะ พูดอะไรบ้างสิ ให้มันฉีกหน้าอยู่ฝ่ายเดียวได้ยังไง” เสียงโวยวายของปิ่นปักทำให้คนที่กำลังใช้ความคิดอย่างนิกุลเสียสมาธิจนต้องตะโกนให้เงียบเสียง “หุบปากหากยังอยากมีที่ซุกหัวนอน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD