บทที่ 5 บ้านวรจินดา 1/2

1224 Words
“เข้าไม่ได้นะคะ...ห้ามเข้า” เสียงแม่บ้านหวีดร้องเมื่อปานมุกเดินมุ่งเข้าไปในตัวบ้าน หากคุณนายรู้ล่ะก็เธอได้หางานใหม่แน่ ยิ่งช่วงนี้งานยิ่งหายากอยู่ด้วย “ทำไมจะเข้าไม่ได้ หลีกไป” ปานมุกจับร่างของแม่บ้านเหวี่ยงไปทีเดียวก็กระเด็นไปด้านข้าง ทั้งเธอและอภิธารมุ่งตรงเข้าไปยังในตัวบ้าน โดยไม่ได้ถอดรองเท้าด้วยซ้ำ เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอกระทบกับพื้นหินอ่อน อิตาลีดังก้องกังวาลไปทั่วห้องโถง เรียกให้คนทั้งสามที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกหันมองไปยังต้นเสียง “ปานมุก!” ปุญญาใบหน้าตื่นตกใจราวกับตัวเองได้เห็นผีสางตอนกลางวันก็ไม่ปาน “ว่ายังไงคะ น้าปุญ ไม่เจอกันไม่ทันไร จำลูกเลี้ยงคนนี้ไม่ได้แล้วเหรอ” ปานมุกพูดด้วยสีหน้าเย็นชา ดวงตามองไปยังปุญญาอย่างเอาเรื่อง ปุญญากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อเห็นปานมุกราวกับเห็นปุญณิกาในตอนนั้น ทั้ง ๆ ที่ผ่านช่วงเวลาแต่งงานไปเพียงแค่ 6 เดือน เธอไม่คิดว่าปานมุกจะฉายแววเหมือนปุณณิกามากถึงเพียงนี้ แม่เลี้ยงคนสวยรู้สึกถึงความเย็นเหยียบที่สันหลัง ดวงตาอาฆาตคู่นั้นเธอจำได้ดี ก่อนที่ปุณณิกาจะตาย เธอเข้าไปสารภาพกับว่าเป็นคนวางยาและแย่งสามีเธอไป ส่วนทรัพย์สมบัติก็จะช่วยใช้ให้เอง ให้เธอตายอย่างสงบ แต่เมื่อเห็นใบหน้าปานมุก ความสงบสุขตลอด 15 ปีเริ่มจะสั่นคลอน และมีลางสังหรณ์บางอย่างในการกลับมาของปานมุกครั้งนี้ เธอมองไปยังลูกสาวสุดที่รัก และต้องการหาคำตอบเรื่องที่ปานมุกโดนจับโยนออกจากบ้าน เธียรธีรา แต่ลูกสาวกลับส่ายหน้าเช่นเดียวกัน นั่นทำให้ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของปานมุกในวันนี้คืออะไร “ปานมุก...กลับมาแล้วเหรอ” เสียงสั่นเล็ก ๆ พูดกับเธอทั้งที่พยายามควบคุมไม่ให้มันสั่นแล้ว แต่ว่า... ปานมุกก้าวมายืนเผชิญหน้ากับปุญญาในระยะห่างไม่ถึงคืบแล้วก้มกระซิบบอก “ใช่ ฉันกลับมาแล้ว และจะอยู่บ้านวรจินดา บ้านที่เป็นนามสกุลของฉัน” ปุญญาเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง ห้องที่เคยเป็นห้องของเธอถูกแปรสภาพเป็นห้องของปิ่นปักไปแล้ว รวมทั้งเสื้อผ้าข้าวของของปานมุกล้วนถูกปิ่นปักเผาทิ้งแล้วทั้งหมด จะเหลืออะไรให้กลับมาอีกล่ะ! ปุญญาไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับปานมุก เพราะว่าแววตาที่เหมือนปุณณิการาวกับถอดแบบมา ทั้งท่าทางไม่เกรงกลัวผู้ใดเหมือนแต่ก่อนที่อ่อนแอ ให้ใครจูงจมูกก็ได้นั้นหายไป ปุญญายอมรับว่ากลัวปานมุกในตอนนี้นัก “อยู่กันครบเลยสินะ...ก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ร่างเล็กที่เดินนวยนาดอย่างองอาจเข้าไปนั่งไขว่ห้างตรงโซฟา หลุยส์กลางบ้าน ทำให้ทั้งหมดที่ยืนอยู่ขมวดคิ้วรอดูว่าเธอจะมาไม้ไหนกันแน่ “เดี๋ยวให้คนทำความสะอาดห้องฉันไว้เลยนะ ฉันจะนอนห้องของฉัน” เสียงสั่งคนรับใช้ของเธอเรียกความหมั่นไส้ให้กับปิ่นปักเป็นอย่างยิ่ง เธอทำตัวเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของบ้านทั้งที่คุณพ่อยังยืนหัวโด่อยู่ได้ยังไง เสียงกัดฟันกรอดของปิ่นปักเรียกรอยยิ้มอย่างเย้นหยันของปานมุกได้เป็นอย่างดี “จำที่ฉันเคยบอกได้ไหมล่ะน้องสาว” เสียงนั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ทำให้ปิ่นปักรีบโผงออกมาทันที “จำ...จำอะไร...!” “จุ๊! ๆ เวลาแค่สามวันความจำสั้นขนาดนั้นเลย ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ” รอยยิ้มที่แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ส่งไปให้น้องสาว ทำเอาคนที่คอยมองดูอย่างอภิธารพึงพอใจในลูกสาวของปุณณิกาไม่น้อย เริ่มแล้วสินะ! “คิดเสียว่าสงสารก็แล้วกัน ฉันจะทวนความจำให้ ที่บอกว่าจะมาทวงคืนนะ เธอลืมแล้วเหรอ” “ทวงคืน?” เมื่อนึกถึงคำนี้ความกลัวก็พุ่งขึ้นในใจของปิ่นปักทันที เธอไม่รู้ว่าปานมุกจะมาทวงอะไร ในเมื่อไม่มีสิทธิ์ใดในบ้านหลังนี้แล้วด้วยซ้ำ เพราะแต่งออกไปแล้ว ในมือปิ่นปักกำสร้อยทับทิมล้อมเพชรที่มีมูลค่าสูง ที่เอาออกมาโชว์ให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ได้ดูว่าตนเองจะใส่สร้อยเส้นนี้ไปดินเนอร์กับอัสนี “อุ๊ย...! สร้อยในมือดูท่าทางแพงไม่น้อยนะ อย่ากำมันแรงนะ เดี๋ยวเลือดชั่วมันจะแปดเปื้อนสร้อยเส้นนั้น” ปิ่นปักได้ยินดังนั้นก็รีบนำสร้อยนั้นสวมใส่ทันที เพราะสร้อยเส้นนี้เป็นของเธอ และปานมุกก็ไม่มีสิทธิ์ทวงคืนทั้งสิ้น “ปานมุก...ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว อย่าให้ต้องไล่” ปิ่นปักรีบออกปากก่อน เพราะเธอต้องกันผู้หญิงคนนี้ออกให้ห่างจากบ้านวรจินดา “ที่นี่บ้านวรจินดา เป็นบ้านแม่ของฉัน ทำไมฉันต้องออกไป” เธอตวาดลั่นทั้งหันไปทางบิดาที่ยืนเงียบเหมือนเป่าสาก แมงดาตัวผู้ กับปลิงตัวเมีย เหมาะสมกันดี! “ปานมุก...จะมาเสียงดังในบ้านฉันแบบนี้ไม่ได้นะ” “ฉันให้คุณพูดใหม่อีกครั้งค่ะ คุณนิกุล” “สามหาว ฉันพ่อแกนะ” “ได้ยินว่าตัดขาดฉันไปตั้งแต่ฉันแต่งงานแล้วนี่นา จะมานับญาติอะไรตอนนี้ไม่ทราบ” แค่ชื่อเธอยังไม่อยากเรียกด้วยซ้ำ กลัวเป็นเสนียดปาก “ออกไปนะ...แกออกไป” ปิ่นปักที่อดรนทนไม่ได้จำต้องออกไปไล่แทนบิดา “ที่นี่บ้านของคุณปานมุก วรจินดา เธอมีสิทธิ์จะอยู่หรือไล่ใครออกไปก็ได้” เสียงนุ่มเย็นของอภิธารเอ่ยขึ้นหลังจากดูครอบครัวสุขสันต์แสดงงิ้วให้ดูพักใหญ่ ก็สมควรที่เขาต้องสอดปากมาช่วยพูดให้กับปานมุกแล้ว “สาระแน...ใครถามความเห็น” ปิ่นปักด่ากราดอภิธารเรื่องที่สอดเข้ามายุ่งเรื่องในครอบครัว อภิธารที่ควบคุมอารมณ์ได้ดี เพราะเขาเป็นทนายความมานาน ยิ้มย่องอ่อนน้อมไม่มีทีท่าหยิงผยองเหมือนคนที่กำลังจะถูกไล่ออกจากบ้าน “ผมเป็นทนายประจำตัวคุณปานมุก ผมมีสิทธิ์พูด” “หึ...หายไปสามวัน ไปอุปโลกน์คนขับวินมอเตอร์ไซค์ที่ไหนมาใส่สูทแล้วก็เอามาเป็นทนายงั้นเหรอ หึ...ผัวแกตอนที่โดนลากไปข่มขืนหรือไง” ปิ่นปักพ่นคำดูถูกดูแคลนพ่นคำด่าทอออกมา ทั้งกล่าวหาว่าทั้งสองคนเป็นคู่ผัวตัวเมียกัน ปานมุกยิ้มให้กับคำด่าของปิ่นปัก แล้วก็พยักหน้าให้กับคุณอาสิงห์ เธอจะได้เริ่มขั้นต่อไป “ออกไปได้แล้วปานมุก...อย่าให้ต้องไล่เป็นครั้งที่สาม” ปิ่นปักพูดจบก็เข้าไปฉุดกระชากแขนของปานมุกให้ออกจากบ้านของเธอไป แต่ทว่าแค่ปานมุกสะบัดเธอกลับกระเด็นไปไกล ราวกับเธอมีพลังวิเศษ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD