แต่งงานกับพี่(1)

1489 Words
9 แต่งงานกับพี่ “ซัน คิน ไปไหนกันมา มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” รำไพพรรณผุดลุกจากที่นั่งเมื่อลูกชายทั้งสองเดินผ่านห้องนั่งเล่น จากกำลังหัวเราะร่วนกับซีรีส์จีนแนวคอมเมดี้ก็มีอันต้องเปลี่ยนอารมณ์กะทันหันเมื่อเพียงดาววิ่งมาบอกข่าวร้ายของวิเลิศ “แล้วนี่ไปไงมาไงเราถึงกลับมาด้วยกัน” ภาณุถาม “ผมกินข้าวอยู่ข้างนอกกับเพื่อน และมีคนโทร.บอกว่าพี่ซันเป็นลมให้รีบมารับ” “ตายจริง! ซันเป็นลมเหรอ เกิดอะไรขึ้น” รำไพพรรณเอามือทาบอก พันแสงแข็งแรงสุขภาพดี น้อยครั้งจะเจ็บไข้ได้ป่วย ทว่ายามนี้ถึงขั้นเป็นลมหมดสติ แสดงว่าต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแน่ “ฝากด้วย” พันแสงกระซิบบอกน้อง ดวงตาไร้วิญญาณไม่ปรายมองใครในห้องนั่งเล่น จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดกลับห้องตัวเอง อคิราห์จึงเข้าไปกับสมทบทุกคนในห้องนั่งเล่น “พี่ซันไม่โอเคเลยครับ” “แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่พี่แกถึงเป็นลมเป็นแล้งได้” ภาณุถามขึ้นบ้าง ไม่แคล้วคงเกี่ยวกับเมียสินะ “คืนนั้นที่พ่อทะเลาะกับแก้วมุกดา คือคืนที่พี่ซันเสียทั้งเมียและลูกไป” “ฮะ!? นี่คินพูดอะไร” รำไพพรรณเสียงสั่นหน้าถอดสี เพียงดาวรีบรุดมาประคองมารดา “คืนนั้นมุกโดนรถชน อาการเธอโคม่าจนตอนนี้ผ่านไปเป็นอาทิตย์แล้วเธอก็ยังไม่ได้สติ ที่สำคัญมุกเสียลูกในท้องไป อาของมุกท่านไม่ยอมให้พี่ซันได้เจอเธอ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่พี่ซันเป็นลม เขาช็อกจนหมดสติ” “แล้วทำไมแกต้องมองพ่อแบบนั้นด้วยคิน แกจะหาว่าเรื่องนี้พ่อผิดงั้นเหรอ” “ก็แล้วไม่ใช่เหรอครับ พ่อทำให้คนที่อยู่ต่างวงโคจรมาเจอกัน พ่อทำให้พวกเขารักกัน และสุดท้ายก็เป็นคนที่พรากความสุขจากไป ถ้าคืนนั้นพ่อไม่พูดจาทำร้ายจิตใจมุก วันนี้เธอคงไม่โคม่าและพี่ซันก็คงไม่ใจสลายแบบนี้” “คิน! แกจะลามปามพ่อเกินไปแล้วนะ” ภาณุลุกขึ้นยืน รำไพพรรณที่หลั่งน้ำตาให้ความสูญเสียก็รีบเข้ามากั้นกลาง “ตั้งแต่พ้นช่วงวัยเด็กมา คุณพ่อเคยเห็นพี่ซันร้องไห้ไหมครับ เคยเห็นเขาคุกเข่าไหว้วอนขอโอกาสจากใครอย่างน่าสมเพชไหม การที่คนที่เข้มแข็งแทบจะเย็นชาไร้ความรู้สึกมาคร่ำครวญสะอึกสะอื้นมันต้องเป็นเรื่องที่สาหัสแค่ไหน พี่ซันเขารักมุกจริงๆ นะครับ” “แล้วยังไง แกจะมาโทษว่าเป็นความผิดของฉันไม่ได้ ก็คืนนั้นพี่สะใภ้แกมันปากดีเองนี่ และซันก็เป็นคนไล่เมียมันเอง ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” “ให้ตายเถอะ! พ่อนี่โคตรเหี้ยมเลย” “มึงพูดดีๆ นะคิน” “อย่ามาชี้หน้าลูกฉันนะ” รำไพพรรณปัดมือสามีที่ชี้หน้าอคิราห์ “นับวันคุณยิ่งห่างไกลจากคนเดิมที่ฉันเคยรู้จัก คืนนั้นคุณพูดจาไม่ดีกับหนูมุกจริงๆ เธอเพิ่งเสียแม่และพ่อก็มาโดนคดี เธอพังทลายขนาดนั้นคุณยังกล้าพูดใส่หน้าว่าเธอหมดประโยชน์แล้ว” “ผมเคยดีใจนะที่พี่ซันเขามีความรักอีกครั้ง แต่วันนี้อยากโทษพ่อมากๆ ที่ดึงพวกเขามาเจอกัน ทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันก็ดีอยู่แล้ว กลายเป็นว่าวันนี้พี่ซันเสียทั้งภรรยาและลูกในท้องไป” อคิราห์กล่าวจบก็หมุนตัวออกไปจากห้องท่ามกลางเสียงเอ็ดลั่นของบิดา “เออ! โทษกูนี่แหละ อะไรชั่วๆ ก็โทษกูมาให้หมด พี่มึงนั่นแหละที่ทำร้ายเมียมันเอง เสียทุกอย่างไปก็เพราะตัวมันเอง กูไม่เกี่ยว!” **** คนหัวใจสลายนั่งห่อเหี่ยวน้ำตาไหลอยู่บนเตียงท่ามกลางแสงริบหรี่ที่สาดผ่านม่านหน้าต่าง พันแสงไม่คิดเปิดไฟในห้องเลยสักดวง เนิ่นนานเกือบสิบปีตั้งแต่มีความรักครั้งแรก และหลังเลิกรากันเขาก็ปิดหัวใจไม่รับใครเข้ามาอีกเลย ไม่ได้ฝังใจกับรักแรกที่เกิดขึ้นเพียงสามเดือนแถมยังเป็นรักที่โดนสวมเขา แต่สาเหตุที่ไม่มีใครอีกเลยเพราะพันแสงมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการเรียนและธุรกิจ จวบจนล่วงเข้าปีที่ยี่สิบแปด พ่อแม่ก็จู้จี้ให้เขาแต่งงาน ครั้นพอได้รักอีกครั้งก็ใจสลายเจียนตายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และความรักครั้งนี้ที่พังลงล้วนเป็นเพราะน้ำมือของเขาทั้งสิ้น พันแสงนึกอยากย้ายวิญญาณไปอยู่ในร่างแก้วมุกดาเพื่อจะได้รับเอาความเจ็บปวดจากการรักษามาไว้ที่เขาคนเดียว พันแสงแหงนมองกรอบรูปบานใหญ่ที่แขวนเหนือหัวเตียง ซึ่งเป็นผลงานการแอบถ่ายจากรำไพพรรณในวันที่พันแสงพาผู้ใหญไปสู่ขอแก้วมุกดา ในภาพนั้นเขากำลังสวมแหวนให้เธอท่ามกลางแสงตะวันที่แยงทะลุกิ่งก้านของต้นจามจุรี ทุกอย่างระหว่างเขาและเธอเกิดขึ้นอย่างปุบปับฉับพลัน ทั้งการพบเจอกันและพิธีวิวาห์ เช่นเดียวกับความรักของเขาที่ก่อตัวตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอเธอ “หนูมุกรู้หรือยังจ๊ะว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อสู่ขอหนูมุกให้เจ้าซัน” “สู่... สู่ขอ!” เสียงเล็กตะกุกตะกัก คล้ายว่าลมหายใจถูกใครบางคนพรากไป ดวงตาฉงนแกมตกใจเบนไปยังคนตัวสูงที่ยิ้มให้เธอเล็กน้อยราวกับสงวนมาดอยู่ในที สู่ขออะไรกันก็เธอและเขาไม่ได้อยากแต่งงานเสียหน่อย และคุณแม่น้ำเพชรก็เปลี่ยนใจในเรื่องนี้แล้ว แม้เพิ่งเปลี่ยนใจเมื่อไม่กี่นาทีก่อนที่พวกเขาจะมาก็ตาม และเมื่อวานที่นัดดูตัวกันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากแต่งงาน สงสัยแก้วมุกดาต้องเคลียร์กับพันแสงเสียหน่อยแล้ว “ขอโทษนะคะ หนูขอคุยกับคุณพันแสงตามลำพังสักครู่นะคะ” แก้วมุกดามองหน้าชายหนุ่มแล้วเดินนำออกไปจากบ้าน ครั้นพอเหลียวกลับมายังเห็นเขายืนบื้ออยู่ที่เดิม แก้วมุกดาจึงเลี้ยวกลับไปคว้ามือหนาแล้วลากไปที่สวนหลังบ้าน “ก็ไหนเมื่อวานเราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอคะ” มือเล็กเลื่อนหลุดจากข้อมือหนาเมื่ออยู่ในจุดที่ปลอดจากหูตาผู้ใหญ่ พันแสงตีหน้างงมองคนตัวเล็กที่มีแต่ความไม่พอใจฉายเต็มดวงหน้า แก้วมุกดาดูน่ารักสมวัยในชุดกระโปรงลายดอกกุหลาบสีน้ำตาล เรือนผมสีน้ำตาลประกายชมพูมวยต่ำไว้ท้ายทอยแบบลวกๆ “เมื่อวานเราได้คุยกันแล้วงั้นเหรอ? เราคุยกันรู้เรื่องแล้วจริงเหรอครับ” “ก็... ก็ใช่ไง” ตะกุกตะกักตอบเพราะเริ่มไม่แน่ใจ พอนึกย้อนดูเหตุการณ์ที่ไปกินข้าวเมื่อวาน ก็ไม่มีตอนไหนที่เธอและเขาตกลงเรื่องแต่งงานกันให้กระจ่างเลย “เมื่อวานเราไม่ได้ตกลงอะไรกันเลยนะครับ ตอนกินข้าวน้องก็ไม่คุยกับพี่ พอขับรถมาส่งที่บ้านน้องก็เอาแต่เงียบตลอดทาง” “ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ คุณก็เห็นท่าทีที่ชัดเจนของฉันแล้ว และฉันว่าคุณก็ไม่โอเคกับการคลุมถุงชน แล้วนี่อะไรคะทำไมถึงมีการสู่ขอเกิดขึ้น และคุณแม่ของฉันก็เปลี่ยนใจไม่บังคับแต่งงานแล้วด้วย” “เหรอครับ งั้นทำไมผู้ใหญ่ทางพี่ไม่รู้เรื่องเลยล่ะ” “คุณแม่เพิ่งเปลี่ยนใจเมื่อไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงนี้เองค่ะ” ก่อนจะลงมารับแขกที่แก้วมุกดาก็ไม่รู้ว่าแขกของบิดาคือใคร น้ำเพชรมารดาที่ป่วยระยะสุดท้ายได้เปลี่ยนใจเรื่องแต่งงานให้เป็นการตัดสินใจของลูกสาว เธอเข้าใจแล้วว่าการแต่งงานมิใช่เครื่องหมายการันตีว่าตราบจนชั่วชีวิตจะมีความสุข “แบบนี้ก็ไม่ได้สิครับ คุยกันไว้แล้วจะเปลี่ยนปุบปับได้ยังไง” สิ่งหนึ่งที่พันแสงเกลียดที่สุดคือคำพูดเลื่อนลอยโลเล เขาเป็นนักธุรกิจไม่มีเวลามาเล่นขายของกับใคร และในเมื่อตัดสินใจแล้วเขาจะไม่ยอมรับเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน “ได้สิคะ ในเมื่อเราสองคนไม่ได้รักกัน” “ความรักมาทีหลังได้ครับ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ” “ไม่สำคัญงั้นเหรอ การแต่งงานที่ปราศจากความรักฉันมองเห็นอนาคตได้กระจ่างเลยล่ะค่ะ รับรองว่าต่างฝ่ายต่างไม่มีใครมีความสุขแน่” “แน่ใจอะไรขนาดนั้นครับ ถ้างั้นก็มาแต่งงานกันสิจะได้รู้ว่ามีความสุขจริงหรือเปล่า”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD