“คะ?”
เธออุทานออกมาด้วยความงุนงง ตรีศูลยืดลำตัวขึ้นเพื่อแสดงท่าทางเหนือชั้นกว่า เขากดสายตาดูแคลนมองคนตรงหน้า
“รู้เอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำยังไง ฉันก็ไม่มีวันหันไปมอง”
ดารินจ้องเขาตาไม่กระพริบ เธอพอจะเข้าใจว่าพระเอกพูดแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ตรีศูลรู้ว่าดารินคิดยังไงกับตัวเอง เพราะก่อนหน้าที่เขาพาเธอมา ทั้งบิดาของดารินและตัวเธอเองก็ยินยอมจะมาเป็นนางบำเรอเพื่อแลกกับหนี้สิบล้าน ตอนนั้นตรีศูลอยากจะหัวเราะให้ดัง ๆ ว่าเขาไม่ต้องการร่างกายของผู้หญิงคนนี้แม้แต่นิด แค่สองพ่อลูกอ้าปาก เขาก็เห็นลิ้นไก่ และไม่ใช่ว่าดารินไม่เคยอ่อยเขา ที่ผ่านมา ถึงเราสองคนจะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันบ่อยนัก แต่ทุกครั้งที่ตรีศูลเจอกับดาริน...เธอมักจะส่งสายตายั่วยวน ทำท่าทีราวกับอยากจะเสนอตัวให้เขาจนชายหนุ่มดูออก
และคืนนั้นที่เขาเจอกับเธอในผับแห่งหนึ่ง ตรีศูลไปนั่งดื่มกับเพื่อน เขาเจอดารินโดยบังเอิญหรือตั้งใจก็ไม่รู้...แต่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นใคร และพยายามจะยัดเหยียดร่างกายให้กับเขาทว่าตรีศูลเลือกที่จะผลักเธอและเดินออกไปจากร้าน
วันนั้นดารินเมามาก และเธอก็อายมากที่ถูกปฏิเสธ ทว่าหลังจากวันนั้นหญิงสาวก็รู้ตัวว่าตนตกหลุมรักเจ้านายของบิดาจนโงหัวไม่ขึ้น
และเมื่อมารู้ว่าคนที่คอยมาตามจีบเพื่อนสนิทของตัวเองคือเขา ก็ทำให้ดารินเริ่มคิดร้ายกับวาววาตั้งแต่บัดนั้น
ในนิยาย...นับว่าตรีศูลคิดผิดที่เอาดารินมาไว้ข้างตัว เพราะความวุ่นวายและอุปสรรคมากมายก็เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ ตรีศูลจะต้องคิดถูก เพราะดารินคนนี้จะทำให้เขาและเพื่อนสนิทของเธอสมหวังกัน
เธอกล้าเอาหัวมารับประกันเลย!
“รินไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นค่ะ”
“เหรอ?”
“ค่ะ รินนึกว่าคุณไปทำงานแล้ว เลยนุ่งผ้าผืนเดียวออกมาเดินแบบนี้ คราวหลังรินจะระวังค่ะ”
“...”
ตรีศูลหรี่สายตาจับผิดอีกฝ่าย เพราะทั้งน้ำเสียงและท่าทาง รวมทั้งแววตาของผู้หญิงตรงหน้าเขาดูเปลี่ยนไป
เขาจ้องหน้าอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายและเอ่ยออกมา
“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน”
“...”
“เพราะฉันจับตาดูเธออยู่”
ร่างสูงเดินไปหยิบของบางอย่างที่โต๊ะข้างเตียงนอน ราวกับที่เขากลับเข้ามาเพราะลืมของสำคัญ ดารินยืนมองเขาเดินออกไปจากห้องนี้ก็ถอนหายใจออกมา พลางเบ้ปากให้กับท่าทางของพระเอก
“ฉันจับตามองเธออยู่ แหวะ”
เธอทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียนอีกฝ่าย ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย รู้สึกหมั้นไส้พระเอกเหลือเกิน หญิงสาวจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยและรีบออกจากบ้านหลังใหญ่นี้ทันที
เพราะภารกิจมากมายกำลังรอเธออยู่
ดารินออกจากบ้านเพื่อเดินทางมาหาวาววาที่ร้านของอีกฝ่าย
วาววาเปิดร้านเช่าชุดแต่งงาน ชื่อร้านว่า ‘วาววา เวดดิ้ง’ เธอลองเดินทางมาตามพิกัดที่ตัวเองจินตนาการลงไปในนิยาย ในย่านจรัญสนิทวงศ์ ดารินเดินมองหาร้านที่เขียนว่าวาววาเวดดิ้ง ก่อนจะเจออยู่ฝั่งถนนตรงข้าม
“มีจริง ๆ ด้วย!!”
เธอพูดกับตัวเองอย่างตื่นเต้น ทุก ๆ อย่างที่ใส่ในนิยาย มีจริงทุกอย่าง หญิงสาวยกแขนตัวเองขึ้นดูก็พบว่ามันขนลุกขนชัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เธอเป่าลมออกจากปาก ก่อนจะมองหาสะพานลอยก็เจอ
ร่างบางเดินขึ้นสะพานลอยเพื่อไปยังฝั่งตรงข้ามทันที และพอเดินอยู่ด้านบนนี้ เธอก็สวนกับหญิงสาววัยกลางคนที่แต่งตัวดูมอมแมม ผมเผ่ารุงรัง ท่าทางเหมือนคนไร้บ้าน ดารินไม่ได้สนใจอีกฝ่าย ทว่าในจังหวะที่เดินผ่านกันนั้น หญิงไร้บ้านคนนั้นก็คว้าข้อมือของเธอ
“ขอเงินหน่อย”
“คะ?”
เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะรีบชักมือของตัวเองออกมาจากมือสาก ดารินไม่ได้รังเกียจ แต่การที่มาจับเนื้อต้องตัวกันแบบนี้ เธอก็ตกใจเป็นธรรมดา
“ขอเงินหน่อย หิวข้าว”
หญิงไร้บ้านคนนั้นพูดออกมา ใต้ตาดำคล้ำเบิกถลนมองดารินอย่างน่ากลัว ทำให้ดารินรีบหาเงินในกระเป๋าสะพายของตัวเอง เธอมีแบงค์ร้อย ก่อนจะหยิบออกมาและยื่นให้อีกฝ่าย
“ขอบใจนะ แต่นี่ มีอะไรจะบอก”
หญิงมอมแมมยังคงเบิกตาถลนอยู่แบบนั้น ก่อนรอยยิ้มจะค่อย ๆ ปรากฏออกมาบนใบหน้าอีกฝ่าย ดารินตกใจ เธอมองคนตรงหน้าอย่างหวาดกลัว
“บ...บอกอะไรคะ?”
“ระวังนะ”
“...”
“ระวังตายตอนจบ”
“...!!”
เธอขมวดคิ้วแน่น จ้องมองหญิงคนนี้ที่พูดเสร็จก็หัวเราะออกมาดังลั่น ดารินหายใจถี่หนัก
“ตายตอนจบอะไรคะ คุณรู้อะไร?”
“ไม่รู้ ๆ ๆ แต่รู้ว่าถ้าเธอทำไม่สำเร็จ”
“...”
“ก็จะ ตาย ตอน จบ”
ก่อนที่หญิงไร้บ้านจะวิ่งหนีไป ดารินทำท่าจะวิ่งตามแต่อีกฝ่ายกระโดดลงบันไดสะพานลอยอย่างรวดเร็วเหมือนคนไร้สติ ดารินชะโงกมองอีกฝ่ายที่วิ่งหายเข้าไปในซอกซอยแล้ว หญิงสาวกลอกสายตาไปมาอย่างครุ่นคิด
ถ้าทำไม่สำเร็จ ก็จะตายตอนจบงั้นเหรอ
หมายความว่ายังไงกันแน่
ผู้หญิงคนนั้นรู้ได้ยังไงว่าดารินจะตายตอนจบ แล้วทำไม่สำเร็จ มันคือเรื่องอะไร หญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อกลางสะพานลอย
“หรือว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้วาววารักกับตรีศูล”
เธอพึมพำกับตัวเอง เพราะดารินคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรื่องนี้ เธอหันมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่กลางสะพานลอยคนเดียว บนถนนด้านล่างเต็มไปด้วยรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว ข้างหน้านั้นคือร้านของวาววา นางเอกของเรื่อง
เธอคงต้องรีบลงมือทำอะไรสักอย่าง คิดได้แบบนั้นดารินรีบก้าวเท้าไปยังร้านของวาววาทันที
“อ้าว ริน นึกยังไงถึงมา”
“ว...หวัดดีวา”
“เข้ามาสิ”
ณ ร้านเช่าชุดแต่งงานขนาดใหญ่ ‘วาววาเวดดิ้ง’ เป็นร้านของ ‘วาววา’ เพื่อนสนิทของดาริน และอีกฝ่ายคือ ‘นางเอก’ ของนิยายเรื่องผู้หญิงของตรีศูล
ทั้งสองสนิทกันตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย และยังคบหากันอยู่จนถึงตอนนี้ ในนิยาย ก่อนที่ดารินจะรู้ว่าตรีศูลชอบเพื่อนตัวเอง เธอรักวาววามาก แต่พอรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในใจของตรีศูลคือวาววา ดารินก็เปลี่ยนไปทันที แสร้งทำดีกับเพื่อนเหมือนเดิมเพื่อหลอกล่อให้วาววาเจอกับภัยอันตรายอยู่หลายครั้ง ทั้งที่ดารินอยู่เบื้องหลังทุกเรื่องแต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และทุก ๆ ครั้งที่นางเอกเจอกับภัยอันตราย พระเอกก็มักจะมาช่วยนางเอกทันเสมอ เป็นเหตุผลที่พระนางค่อย ๆ รักกัน และเป็นสาเหตุให้นางร้ายร้ายกาจขึ้นเรื่อย ๆ
ทว่าครั้งนี้จะไม่เป็นไปตามบทนิยายอีกต่อไป ดารินมาหาวาววาที่ร้านของเธอ ในร้านกว้างขวางและใหญ่โต มีชุดสวย ๆ มากมายใส่โชว์อยู่ในหุ่น และแขวนเรียงราย วาววาเป็นเจ้าของร้านและมีลูกน้องที่เป็นพนักงานสองคน แม้ที่บ้านของวาววาจะทำธุรกิจขนาดใหญ่ แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะออกมาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ตามสไตล์นางเอกนิยายหลาย ๆ เรื่อง
ดารินเข้าไปในร้านที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ เธอถือถุงขนมร้านดังมาฝากอีกฝ่าย
“พอดีไปช็อปปิ้งมา เลยซื้อขนมมาฝากเธอ เห็นว่าร้านนี้อร่อย”
“ขอบใจนะริน”
วาววารับถุงขนมจากดารินและยิ้มหวานให้เพื่อนตัวเอง ส่วนดารินก็มองนางเอกตาแทบไม่กระพริบ เพราะนางเอกสวยมาก ๆ ไม่แปลกใจที่พระเอกจะตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
จะว่าไป...สวยกว่านางร้ายอย่างเธอหรือเปล่านะ
“วันนี้รินดูแปลก ๆ นะ”
วาววาตั้งถุงขนมลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่ด้านในสุดของร้าน ดารินได้ยินแบบนั้นก็ชะงักเล็กน้อย
“ฉันแปลกตรงไหนเหรอ”
หรือนางเอกจะมองออกกันนะว่าเธอไม่ใช่ดารินคนเดิม
“นึกออกแล้ว ชุดไง”
“...”
“วันนี้รินแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษ ไม่ชินตาเลย”
วาววามองดารินตั้งแต่หัวจรดเท้า พลางทำสีหน้าเหลือเชื่อ ดารินได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแห้ง เพราะก่อนหน้านี้เธอแวะไปช็อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่มาทั้งหมด และก็เปลี่ยนชุดเดิมออกด้วย สไตล์การแต่งตัวของดารินคนใหม่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
“แถมยังแต่งหน้าอ่อนด้วย แปลกตาไปมากเลยริน”
“แหะ ๆ ค...คือฉันอยากเปลี่ยนแนวบ้าง”
“แต่น่ารักมากเลยนะ แนวเดิมก็สวย แนวนี้ก็น่ารัก”
“ชมเกินไปแล้ว”
ดารินยิ้มหวานแก้เก้อ เธอมองหน้านางเอกที่มีแววตาเป็นประกายของคนดี สมแล้วที่เป็นนางเอก ทำอะไรก็สวย น่ามองไปหมด...
“วา คือ ฉันมีเรื่องอยากถามเธอน่ะ”
“อะไรเหรอ”
วาววากับดารินนั่งลงบนโซฟากำมะหยี่ที่ตั้งอยู่หลังร้าน ลูกน้องของวาววาเอาขนมที่ดารินซื้อมาใส่จานและยกมาให้เจ้านายของตัวเอง วาววาเอ่ยขอบคุณลูกน้องก่อนจะจิ้มขนมกิน สายตาก็มองเพื่อนตัวเองไปด้วย
สีหน้าของดารินฉายความกังวลอย่างชัดเจน ราวกับมีอะไรอยู่ในใจ
“เธอรู้ใช่ไหมว่าคุณตรีศูลชอบเธอ”
“แค่ก”
วาววาสำลักขนมในปาก ดารินรีบหยิบแก้วน้ำส่งให้อีกฝ่ายนางเอกดื่มน้ำหลายอึก ใบหน้าก็ฉายความคุกรุ่นไม่ปิดบัง
“อย่าพูดเรื่องผู้ชายคนนั้นให้ฉันได้ยินนะริน”
“ท...ทำไมล่ะ”
“ฉันเกลียดเขา”
“...”
“เธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนดี”
ดารินทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้
วาววาเกลียดพระเอกของจริง แบบนี้ก็งานหินเลยน่ะสิ
“ต...แต่เขาก็ไม่แย่ขนาดนั้นนะ ทำไมเธอไม่ลองเปิดใจดูล่ะ”
ดารินยังคงตะล่อม ส่งผลให้วาววาหันมองเธอ
“ริน วันนั้นเธอบอกว่าเธอชอบคุณตรีศูลไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมวันนี้เธอถึงมาพูดแบบนี้กับฉันล่ะ”
เวรกรรม
นี่ดารินคนเก่าเคยบอกนางเอกว่าชอบตรีศูลแล้วงั้นเหรอ เนื้อหาช่างแตกต่างกับในบทที่เธอเขียนอย่างกับคนละเรื่อง
ดารินหัวจะปวด
“ฉัน...”
“...”
“วันนั้นฉันแค่ล้อเล่น ฉันไม่ได้ชอบเขา”
“...”
“ฉันไม่ได้ชอบคุณตรีศูลจริง ๆ นะวา”
ดารินคนนี้มองตาเพื่อนด้วยความหนักแน่น ก่อนจะทำให้พระเอกนางเอกรักกัน เธอต้องทำให้ทั้งคู่มั่นใจก่อนว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับพระเอกเหมือนดารินคนเก่า
ตอนนี้เธอไม่ใช่นางร้ายอีกต่อไปแล้ว
“ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว เราคุยเรื่องอื่นกันเถอะ”
วาววาเบือนสายตาไปทางอื่น ทว่าเสียงเปิดประตูกระจกของร้านก็ดังขึ้น ทำให้ใบหน้าของวาววาสดใสขึ้นมา
“พี่ภูวินมา”
“หะ!”
วาววาพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นไปหาคนมาใหม่
ภูวิน พระรองของเรื่องนี้
เขาเป็นรุ่นพี่ที่วาววาสนิทมากตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ภูวิน วาววา และดาริน เรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกัน ดารินและวาววายังคงเรียนมหาวิทยาที่เดียวกัน แต่ภูวินเรียนอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง ทว่าเราสามคนก็ยังพูดคุยและไปมาหาสู่กันตลอด...และตลอดมาวาววาก็แอบชอบภูวิน ทว่าภูวินมองวาววาเป็นเพียงน้องสาวที่สนิทคนหนึ่งเท่านั้น และพระรองคนนี้ก็เป็นเสี้ยนหนามหัวใจของพระเอกตัวฉกาจ ดารินลุกขึ้นตามวาววาเดินออกไปหาคนมาใหม่ ส่งผลให้ภูวินตกใจเล็กน้อยที่เจอดารินที่นี่
“อ้าวริน มาหาวาด้วยเหรอ”
“ค่ะ”
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ค่ะพี่วิน ไม่เจอกันนานเลย”
ดารินส่งยิ้มให้อีกฝ่าย ทว่าสายตาของภูวินที่มองมามันแปลก ๆ จนดารินต้องเบือนใบหน้าไปทางอื่น