ตอนที่ 1
พระอาทิตย์คล้อยต่ำ ทิ้งร่องรอยสีส้มแดงฉาบบนท้องฟ้า บรรยากาศของเมืองเข้าสู่ยามสนธยา เสียงเจื้อยแจ้วของแม่ค้าเริ่มดังระงมเคล้าคลอไปกับกลิ่นหอมกรุ่นของอาหารนานาชนิดที่ลอยมาตามลม นี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าตลาดนัดถนนคนเดินได้พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าแล้ว
ช่วงเย็นวันเสาร์...เส้นทางที่เคยเป็นริมฟุตบาตอันเงียบสงบติดริมฝั่งแม่น้ำ บัดนี้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นโลกอีกใบ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนนับร้อยที่หลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นอาหารเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ ในยามค่ำคืน แผงลอยไม้ชั่วคราวถูกตั้งเรียงรายเป็นทิวแถวเพื่อรอคอยการมาเยือนของผู้คนจากทุกสารทิศ
สายลมเย็นยามพัดเอื่อยโชยกลิ่นอาหาร คลอเคลียไปทั่วบริเวณ ที่มีทั้งของกินของใช้และของขายทั่วไป แสงไฟสีนวลจากหลอดไฟที่ห้อยระโยงระยางขับให้บรรยากาศดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา เดินล้วงกระเป๋าทอดน่องไปเรื่อย ๆ อย่างอารมณ์ดี หลังจากที่เขาได้อาหารสำหรับทานมื้อค่ำแล้ว ก็เดินเล่นต่อไป สายตาคมกริบไล่มองแผงขายของที่ละลานตา พลางสำรวจงานผลงานฝีมือหลากหลายชนิดของแม่ค้าที่นำมาขายกันในค่ำคืนนี้
หัวใจที่เคยเย็นชามานานราวกับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อสายตาของเขาสะดุดเข้ากับภาพวาดสีน้ำภาพหนึ่ง เป็นภาพทิวทัศน์ยามเย็นของถนนริมน้ำ สถานที่ที่ถูกจัดให้เป็นถนนคนเดินอยู่ในตอนนี้ ในภาพดูสงบและงดงามจับใจ องค์ประกอบภาพที่เรียบง่ายทว่าเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึก ดึงดูดให้เขาหยุดยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหาเจ้าของแผง
ภาพตรงหน้าคือหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง ผมยาวสลวยสีดำขลับถูกรวบขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นต้นคอระหง พู่กันในมือของเธอกำลังบรรจงจรดลงบนแก้วกาแฟใบสวยที่วางอยู่บนแท่นหมุนอย่างคล่องแคล่ว แสงไฟสีนวลสะท้อนใบหน้าหวานของเธอ ทำให้ผิวขาวนวลยิ่งดูผุดผ่อง ดวงตากลมโตเป็นประกายทอแววอ่อนโยน ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อคลี่รอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก พลันหัวใจของเขาเต้นระรัว ราวกับมีมนต์สะกดบางอย่าง
“สวัสดีครับ เอ่อ...พอดีพี่สนใจรูปวาดของน้องครับ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ มองไปยังใบหน้าสวยของเด็กสาว ที่ตรึงใจเขาไว้เมื่อสักครู่ เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะวางพู่กันลง ดวงตากลมโตเป็นประกายทอแววฉงนเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มบางๆ จะผลิบานบนใบหน้าหวาน
“สวัสดีค่ะคุณพี่ สนใจภาพไหนเลือกก่อนได้เลยนะคะ” เสียงหวานใสของเธอเอ่ยตอบ จนชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“อื้ม!!!...สวยจังเลยครับ!!!...”
“รูปไหนคะ” เธอถามเพราะเห็นเขาเอาแต่จ้องหน้าเธอ
“.................” เขายืนอึ้งกับความสวยตรงหน้า ที่ราวกับมนต์สะกด
“คุณพี่!!!...สนใจรูปไหนเหรอคะ” เธอย้ำ...พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
“รูปตรงหน้าพี่เนี่ยแหละครับ” เขาตอบคล้ายคนละเมอ
“แหม่!!!..คุณพี่ อย่าล้อเล่นสิคะ” เด็กสาวตอบปนเสียงหัวเราะเบา ๆ
“งั้นพี่เอารูปนี้ก็ได้ครับ” เขาได้สติรีบชี้ไปที่รูปวาดของเธอที่เขาเห็นในตอนแรก เป็นภาพทิวทัศน์ยามเย็นของถนนริมน้ำ
“รูปของน้องสวยทุกรูปเลยครับ พี่เลือกไม่ถูกจริง ๆ “ เขาเอ่ยคำชมนั้นราวกับคนละเมอ ก่อนจะรีบล้วงหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วเอ่ยถามแม่ค้าคนสวยทันที
“เท่าไหร่ครับ”
“ถ้ารูปนั้น 350 บาทค่ะ” เด็กสาวรีบตัดบท เพราะรู้สึกท่าทีแปลก ๆ ของชายหนุ่ม
“พี่สแกนจ่ายได้ไหมครับ...?” เขาถาม หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยพลางหยิบป้ายคิวอาร์โค้ดของเธอ ที่มีอุปกรณ์วาดภาพบังอยู่ออกมา พร้อมกับยื่นให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
“นี่ค่ะ” ธีร์ธวัชนั่งลงบนเก้าอี้เล็ก ๆ ตรงหน้าแผง พลางยื่นโทรศัพท์ขึ้นมาสแกนคิวอาร์โค้ด
“ชื่อเพราะจังเลย...รัญชน์รวี พี่สะกดถูกไหมครับ?” เขาเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม และพยายามจดจำชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ
“ค่ะ” หญิงสาวตอบสั้น ๆ ใบหน้าเริ่มขึ้นสีเรื่อเล็กน้อย ฉับพลันนิ้วเรียวก็กดยืนยันเพื่อโอนเงินให้เธอ
“พี่โอนไปแล้วนะครับ ช่วยเช็กหน่อยสิครับ...ว่าเงินเข้าหรือยัง” เขาพยายามชวนเธอคุย
หญิงสาวพยักหน้ารับคำ เมื่อตรวจสอบยอดเงิน เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตางงงวย
“พี่ชื่อธีร์ธวัชใช่ไหมคะ?” เธอถามกลับ
“เรียกว่าพี่ธีร์ก็ได้ครับ...คนสวย” เขาบอกกับเธอพร้อมรอยยิ้มหวาน
“พี่!!!!...โอนผิดหรือเปล่าคะ ตัวเลข…มันเกิน รูปวาดของหนูราคา 350 บาทเองนะคะ” ใบหน้าหวานฉายแววกังวล
“ไม่ผิดหรอกครับ พี่ตั้งใจโอนให้น้อง 3,500 จริง ๆ แต่พี่จะขอให้น้องช่วยวาดให้พี่อีกภาพได้มั้ยครับ” ธีร์ธวัชเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“ภาพอะไรเหรอคะ...” รัญชน์รวีถามกลับด้วยความสนใจ
“ภาพอนาคตของเรา....ด้ายม้ายคร๊าบบ!!!”
“หื้อ!!..ตลกล่ะพี่..นี่มุกจีบสาวของพี่เหรอคะ” รัญชน์รวียิ้มขำจนตาหยี แต่ก็มีแววระคนสงสัยปนเอ็นดูเล็กน้อยที่อีกฝ่ายกล้าเล่นมุกแบบนี้
“ครับ...พอเคลิ้มมั้ยอะ” ธีร์ธวัชเลิกคิ้วถามอย่างรอคำตอบ
“ม่ายค่ะ!!!...หนูมีแฟนแล้ว” เธอตอบอย่างไร้เยื่อใย แต่เมื่อเห็นแววตาเศร้าสร้อยของอีกฝ่าเธอก็ยิ้มพร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆ ใบหน้าหวานยังคงประดับด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรกับคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย ออกจะรู้สึกขบขันเสียด้วยซ้ำ
“งั้นเอาเป็นว่าเงินที่เกินไป...พี่ขอซื้อรูปที่น้องกำลังวาดค้างเอาไว้ก็ได้ครับ แต่พี่จะมาเอาวันหลัง” เขาชี้ไปที่กระดาษว่างเปล่าที่วางอยู่บนขาตั้ง L-shape ที่เธอกำลังเตรียมเอาไว้
“แต่พี่ยังไม่บอกเลยนะคะ ว่าจะให้หนูวาดภาพอะไร” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย
“น้องวาดอะไรมาก็ได้ครับ แต่ใจจริงพี่อยากให้เป็นภาพอนาคตของเรา”
“พี่คะ...เลิกพยายามเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูโอนเงินคืนให้” รัญชน์รวีบอกเสียงเข้มพร้อมกับถอนหายใจ บ่งบอกว่าเริ่มรำคาญกับมุกเห่ย ๆ ในการจีบสาวของมนุษย์ลุงตรงหน้า และรู้สึกว่าเขาควรจะหยุดหยอกล้อกับเธอได้แล้ว
“ใจเย็น ๆ สิครับ...คนสวย...แหม่!!! ทำใจร้อนไปได้” ธีร์ธวัชรีบแก้ตัวพลางยกมือขึ้นเล็กน้อย แววตาแพรวพราวไปด้วยความขบขัน
“เอาเป็นว่าน้องวาดอะไรมาก็ได้ครับ พี่ยอมรับได้หมด”
“ต้องบอกมาก่อนค่ะ ว่าจะให้หนูวาดภาพอะไร ถ้าไม่บอก...หนูคงรับงานของพี่ไม่ได้หรอกค่ะ”
“เอาเป็นรูปของน้องก็ได้ครับ” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยแววตาทะเล้นก่อนตอบ
“เหอะ!!!..เอาเป็นว่า!!!...เดี๋ยวหนูโอนเงินคืนให้พี่ดีกว่า พี่บอกเลขที่บัญชีมา!!!” รัญชน์รวีถอนหายใจบอกด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย พร้อม ๆ กับแววตาที่มีความหมั่นไส้ฉายชัดขึ้นกับความไม่ลดละของเขา
“ใจเย็น ๆ สิครับคนสวย โถ่ววว!!!..พี่แค่ล้อเล่นเองนะ” ธีร์ธวัชรีบแก้ตัวพลางยกมือขึ้นเล็กน้อย แววตาแพรวพราวไปด้วยความขบขันยังคงไม่จางหาย
“ทำไม!!!...น้องวาดรูปตัวเองไม่ได้เหรอครับ?” เขาถามขึ้นพร้อมกับแววตาที่ท้าทายตรงหน้า
“ก็ได้ค่ะ หนูวาดให้พี่ก็ได้” เด็กสาวรีบบอกเพื่อปัดรำคาญ
“แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่า...หนูจะมาที่นี่แค่เฉพาะวันเสาร์ตอนเย็น คงต้องเป็นอาทิตย์หน้าเลย...กว่าพี่จะได้” รัญชน์รวีรีบบอกอย่างไม่แยแส
“ได้เลยครับ...คนสวย ไม่มีปัญหา” ธีร์ธวัชตอบรับอย่างสบาย ๆ แววตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอตลอดเวลา
“ถ้าเราชอบอะไรสักอย่าง ต่อให้ต้องรอนานแค่ไหน มันก็คุ้มค่าไม่ใช่ครับ” เขาจ้องใบหน้าสวยของเธอ
“พี่หมายถึงอะไรเหรอคะ”
“อ๋อ!!!...พี่หมายถึงรูปไงครับ...รูปที่น้องจะวาดให้พี่...ไง”
“ค่ะ!!” รัญชน์รวีกลืนคำด่าในลำคอ พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาราวกับโล่งอกที่เขาไม่ได้พูดอะไรเกินเลยไปกว่านั้น แต่คิ้วเรียวสวยก็ยังคงขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้ในความกวนโอ๊ยของเขา
“แต่ไม่รับปากนะคะ ว่าหนูจะวาดเสร็จทัน”
“แล้วถ้าพี่ไม่อยากเสียเวลาล่ะก็..” เธอบอกเสียงขุ่นเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรครับ....พี่ไม่เสียดายเวลา...น้องช่วยตามใจลูกค้าอย่างพี่สักคน..ไม่ได้ครับ” ธีร์ธวัชอ้อนวอน แววตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอตลอดเวลา
“เอาเถอะค่ะ แต่หนูบอกไว้ก่อนนะคะว่า...พี่อาจจะเสียเวลาเปล่า ถ้าพี่คิดจะจีบหนู” รัญชน์รวีตอบอย่างตัดบท พร้อมกับกลอกตาขึ้นเล็กน้อยอย่างระอาแต่ก็แฝงรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก