“ไม่ต้องมาเกรงใจ เพื่อนกันไม่มีคำว่าเกรงใจหรอก ลุกขึ้นมาอาบน้ำ เดี๋ยวเราจะพาไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด ถ้าเป็นอะไรจะได้รักษาทัน” ข้าวฟ่างเอ่ยเสียงเข้ม เธอไม่ต้องการให้เพื่อนของเธอรู้สึกเกรงใจอะไร คนเป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยกันดูแลกันยามลำบาก ยิ่งตอนนี้หญิงสาวที่มาจากต่างจังหวัดอย่างแพรวา ไม่มีญาติสักคนอยู่ที่กรุงเทพ พอล้มป่วยลงแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนดูแล แล้วใครจะดูแลเล่า
นี่ยังไม่นับรวมกับเรื่องเลิกกับธีร์ซึ่งแพรวายังไม่กล้าบอกครอบครัวของเธอ เพราะบิดามารดาของเธอนั้นรักธีร์ราวกับลูกในไส้ก็ไม่ปาน แพรวาจึงยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้ เธอได้แต่รอเวลาให้เธอพร้อม แล้วเธอจะบอกบิดามารดาอีกครั้ง
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อน คนเป็นเพื่อนอย่างข้าวฟ่างไม่อาจเพิกเฉยได้ แม้ว่าจะต้องลากเพื่อนลงจากเตียงเพื่อไปหาหมอข้าวฟ่างก็จะทำ
“แต่ฟ่างมีงานสำคัญไม่ใช่เหรอ” แพรวายังโยกโย้ ไม่อยากรบกวนเพื่อน
“เราให้ลูกน้องเราทำก่อนก็ได้ ตัวน่ะรีบลุก อย่ามาต่อรอง ไม่อย่างนั้นเราจะโทรไปบอกพี่ธีร์ให้มาพาตัวไปหาหมอ แล้วเราจะไปทำงาน เราเชื่อนะว่ายังไงพี่ธีร์ก็ต้องมา ถึงเขาจะยุ่งมากแค่ไหนก็ตาม” ข้าวฟ่างขู่เพื่อนของเธอทันที เพราะเธอรู้ว่าแพรวาเป็นคนดื้อ และคนที่จะเอาอยู่ก็คือธีร์เท่านั้น
“พอเลย ไม่ต้องพูดถึงเขาอีก หย่ากันแล้วก็คือคนอื่น เดี๋ยวเราไปกับฟ่างนี่แหล่ะ อย่างเอาชื่อผู้ชายคนนี้มาพูดให้เราได้ยินอีก” แพรวาพยายามลุกขึ้นไปอาบน้ำ เมื่อได้ยินชื่อของธีร์เธอก็ปวดร้าวไปทั้งหัวใจ เธอจะกล้าไปเจอเขาอีกได้ยังไง ในเมื่อเขาและเธอต่างเป็นคนอื่นไปแล้ว หรือตอนนี้เขาอาจจะมีใครอยู่ข้างกายเขาแล้วก็ได้
“ต้องให้ขู่ตลอดจริงๆ คนนี้” ข้าวฟ่างส่ายหน้าน้อยๆ หลังจากที่เพื่อนยอมไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อให้เธอพาไปหาหมอ