“กำลังหัดพับนกกระเรียนค่ะ” เด็กน้อยตอบโดยไม่มองหน้ามารดา สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่มันไม่ได้หน้าตาเหมือนนกกระเรียนสักนิด มันเหมือนกระดาษยับยู่ยี่ใบหนึ่ง
“แล้วหนูจะพับไปทำไมคะ” ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“ลุงเพชรบอกว่าถ้าพับนกกระเรียนแล้วจะขอพรได้ค่ะ พะแพงอยากขอพรค่ะ” เด็กหญิงตอบด้วยความมุ่งมั่น และเธอยังพยายามพับต่อ แม้ว่าจะทำไม่เป็นก็ตาม
“แล้วหนูจะขออะไรล่ะคะ ดูตั้งใจเชียว” แพรวาเอ่ยถามอีกครั้ง แล้วก็ต้องสงสารบุตรสาวมากที่โดนพี่ชายหลอก มันไม่มีอยู่จริงหรอกเรื่องแบบนั้น มันก็เป็นแค่นิทานหลอกเด็กเท่านั้นเอง
“หนูจะขอให้คุณพ่อมาหาหนูค่ะ” เด็กน้อยตอบทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตากับเจ้านกกระเรียนหน้าตาแปลกๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าผู้เป็นมารดาถึงกับสะอึก เมื่อได้ยินสิ่งที่บุตรสาวขอ
“เมื่อก่อนไม่เห็นพะแพงอยากเจอคุณพ่อเลยนี่คะ” แพรวาเอ่ยถามออกมาไปด้วยความสงสัย เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบุตรสาว อยู่ดีๆ ถึงถามหาบิดาทั้งที่ไม่เคยถามหามาก่อน
“แมงปอมาอวดพ่อของแมงปอให้พะแพงฟังค่ะ พ่อแมงปอขับเครื่องบิน พะแพงก็เลยอยากเอาพ่อของพะแพงมาอวดบ้างค่ะ” เด็กหญิงเอ่ยออกมาด้วยความมุ่งมั่น นั่นทำให้ผู้เป็นมารดาถึงกับน้ำตาซึมออกมาด้วยความรู้สึกผิด เธอคิดมาตลอดว่าลูกไม่จำเป็นต้องมีพ่อ ขอเพียงมีความรักจากคนรอบข้างเท่านั้น แค่นั้นก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องมีพ่ออยู่ในชีวิตก็ได้ แต่สิ่งที่เธอคิดมันผิดมหันต์ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ลูกก็ยังต้องการพ่อ แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อเธอไม่ต้องการให้ทั้งสองคนได้เจอกัน
“พ่อของพะแพงไม่อยู่แล้วค่ะ พ่อของพะแพงอยู่บนฟ้า มาหาพะแพงไม่ได้หรอกค่ะ” แพรวาจำใจโกหกบุตรสาวไป แม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดที่ต้องโกหก แต่การบอกแบบนี้มันคงจะทำให้เด็กหญิงพะแพงเลิกถามเรื่องบิดา และเลิกพับนกกระเรียนเพื่อขอพรให้ได้เจอบิดา
“ทำไมพ่อถึงอยู่บนฟ้าเหรอคะ พ่อของพะแพงก็ขับเครื่องบินเหมือนกันเหรอคะ” เด็กน้อยที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่มารดาพูดเอ่ยถามอีกครั้ง