นี่มึงอีกแล้วเหรอนังชบา

1726 Words
หน้าบ้านที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้แห้ง กำลังถูกกวาดต้อนเป็นกองเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการตักใส่เข่งแล้วนำไปสาดทิ้งในป่าหลังบ้านอีกที วันนี้อากาศดี หากไม่มีชาวบ้านเข้ามาหาความช่วยเหลือ ผมก็อาจจะเข้าไปเล่นที่บ้านหลังใหญ่ บ้านที่มีพ่อกับแม่อาศัยอยู่ ส่วนสำนักนี้ ผมสร้างขึ้นมาเอาไว้เพื่อรักษาชาวบ้านโดยเฉพาะ ที่ต้องสร้างแยกเอาไว้ เพราะบางครั้งผมก็ต้องปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากคนที่ถูกสิ่งชั่วร้ายเล่นงาน ผมไม่อยากให้สิ่งเหล่านั้นหลุดออกมาแล้วซ่อนตัวหรือสิงอยู่ในบ้านของผม “หิรัญ! หิรัญอยู่บ่” (หิรัญ หิรัญอยู่ไหม) เสียงตะโกนเรียกดังสนั่นดึงความสนใจให้ผมหันไปมอง ถึงได้เห็นว่าเป็นลุงหมาย คนในหมู่บ้านนี้ที่กำลังนั่งรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าเข้ามา สีหน้าตื่นตกใจไม่น้อย “ว่าจังได๋น้อ” (ว่ายังไงครับ) มือที่กำลังกวาดขยะหยุดชะงัก ทั้งที่ตั้งใจจะพักผ่อนสักวัน ดันมีเรื่องเข้ามาแต่เช้าตรู่ “ซอยลูกข่อยแน มันถืกผีเข้า” (ช่วยลูกผมด้วย มันถูกผีเข้า) ลุงหมายน้ำตาคลออย่างใจเสีย ผมเองก็ไม่ได้นิ่งนอน รีบทิ้งไม้กวาดแล้วกลับเข้าไปในบ้าน หยิบถุงสะพายสีขาวประจำกายออกมา และไม่ลืมที่จะปิดประตูสำนัก และล็อกกลอนให้สนิท “ปะ” ผมพยักหน้าบอกแล้วกระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ทันที ลุงหมายก็รีบบิดรถออกไปอย่างรวดเร็ว คงห่วงลูกสาวของเขามาก จริงสิ! ลุงหมายแกมีลูกสาวอยู่สองคน ชื่อบัว กับชบา ใช่ครับ... นังชบา เด็กเมื่อวานซืนที่มันเข้ามาท้าทายผมถึงสำนักเมื่อวันก่อนนั่นแหละ ด้วยความร้อนใจของลุงหมาย ทำให้แกบิดรถมอเตอร์ไซค์พาผมมาจอดที่หน้าบ้านของแกได้อย่างรวดเร็ว รอบข้างเต็มไปด้วยชาวบ้านไม่ต่ำกว่าสิบคนเข้ามามุงดู ทันทีที่เห็นว่าผมมาถึง ชาวบ้านก็ต่างหลีกทางให้ผมได้เดินเข้าไป แปลกจริง? ทำไมถึงสัมผัสไม่ได้ถึงวิญญาณชั่วร้ายหรือสัมภเวสี ตอนนี้เห็นแต่เจ้าที่เจ้าทาง แล้วผีที่ไหนเข้ามาสิงลูกแกล่ะ “หิรัญมาแล้ว” ผู้คนที่มุงดูรีบแหวกออกจากเสากลางบ้าน เผยให้เห็นยัยเด็กชบาที่กำลังถูกมัดตรึงไว้กับต้นเสา แววตาดุดันพลางแสยะแย้มน่าผวา ทว่า... มันไม่ได้ถูกผีเข้านี่ “ออกไป อย่ามายุ่ง นี่ไม่ใช่เรื่องของมึง” เสียงที่ถูกดัดแปลงให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ฟังดูก็รู้ว่าจงใจให้เป็นแบบนี้ หน็อยย... เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้าสร้างเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ คงปล่อยผ่านไม่ได้แล้ว “เอาไม้หวายมา” ผมยื่นมือรับไม้หวายกับลุงหมายขึ้นมาถือ และเริ่มสังเกตได้ถึงสีหน้าที่เป็นกังวลของคนที่แกล้งทำตาขวางบ้างแล้ว “ผีตัวนี้มันแรง ต้องฟาดด้วยหวาย เอาให้หลาบจำ” เพียะ! “กรี๊ดดดด!” ทันทีที่ไม้หวายด้ามใหญ่หวดฟาดกระทบผิวที่ต้นขา คนร่างเล็กก็กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แต่ยังไม่เลิกแสร้งทำเป็นผีเข้า เลยต้องโดนครั้งที่สอง และสามตามมาติด ๆ เพียะ! เพียะ! “ฮืออ เจ็บแล้ว” ร่างที่สั่นระริกทิ้งตัวลงนั่งทั้งที่ยังถูกจับมัดมือไพล่หลังผูกไปกับต้นเสา แววตาที่แข็งกร้าวเริ่มอ่อนลง เหลือเพียงแววตาที่เว้าวอน จนผมเผลอใจอ่อนยอมหยุดตีไปดื้อ ๆ ผมอยากรู้นัก อะไรเป็นเหตุจูงใจให้มันสร้างเรื่องได้แบบนี้ “ทุกคนลงไปข้างล่างก่อน” ผมออกคำสั่งเสียงเรียบ เพียงพริบตาเดียวผู้คนก็หลั่งไหลกันลงไปหมด แม้ว่าบัวจะแสดงสีหน้าเป็นห่วงและอยากอยู่กับน้องของเธอที่ด้านบนนี้ แต่ก็ถูกแม่ลากแขนลงไปด้านล่างเช่นเดิม “ไง... โดนหวายแล้วน้ำตาคลอเลยนะมึง” ผมเดินไปชิดร่างผอมบางแล้วย่อตัวลงนั่งต่อหน้า ถึงได้เห็นว่าตอนนี้แววตาสลดได้หายไปเป็นปลิดทิ้งแล้ว “พ่อหมอก็รู้ว่าฉันไม่ได้โดนผีเข้า! ยังจะมาตีกันอีก ใจร้ายไปไหมฮะ” เธอรีบโวยด้วยน้ำเสียงกึ่งกระซิบ คงกลัวว่าคนที่อยู่ด้านล่างจะได้ยิน “เหอะ นึกว่าจะดื้อด้านไม่ยอมรับว่าแกล้งทำเสียอีก” “ไหน ๆ พ่อหมอก็มาแล้ว ฉันรบกวนช่วยอะไรฉันสักอย่างได้ไหม” “ช่วย?” ได้ฟังคำนี้ทีไรขนลุกตลอด ให้ช่วยแต่ละอย่าง มีแต่เรื่องไม่น่าทำทั้งนั้น “นะพ่อหมอ ช่วยฉันเถอะ ฉันไหว้ล่ะ” เธอเตรียมจะดึงมือมาไหว้ผมอย่างที่ปากพูด แต่ดันติดแหงก เพราะมือทั้งสองยังถูกมัดไพล่หลังเอาไว้อยู่ “ลองพูดมาก่อน ถ้ากูช่วยได้ก็จะช่วย” รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้าจิ้มลิ้ม มึงนี่มันสวยสมกับเป็นที่หมายปองทั่วหมู่บ้านจริง ๆ รอยยิ้มและแววตาที่สุกใส เกือบทำให้ผมลืมถึงความแสบซนที่มันก่อเอาไว้เมื่อวันก่อนไปเสียสนิท “พ่อหมอช่วยลงไปบอกพ่อฉันที ว่าเจ้าที่เจ้าทางเขาไม่พร้อมรับแขก ไม่อยากให้มีการพูดคุยเจรจาหมั้นหมายหรือแต่งงานอะไรทั้งสิ้น ถ้าได้ยินอีก เจ้าที่เจ้าทางเขาจะเอาฉันถึงตาย” “ปัญญาอ่อน” ทันทีที่ฟังความต้องการของยัยเด็กแสบนี้จบ ผมก็มองไม่เห็นความงดงามบนใบหน้านี้อีกเลย เหลือเพียงความเหลืออดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เธอบ้าไปแล้วหรือไงถึงได้ดึงผมไปร่วมสร้างความวุ่นวายด้วย ทั้งที่รู้ว่าผมไม่มีทางทำเรื่องที่เธอร้องขอแน่ “ช่วยฉันเถอะนะพ่อหมอ พ่อหมออยากให้ฉันทำอะไร ฉันยอมให้ได้ทุกอย่าง” “กูละปวดหัวแทนพ่อแม่มึงจริง ๆ เลย” ผมทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เตรียมจะลุกขึ้นแล้วกลับสำนัก เพราะยัยเด็กนี่ทำให้วันดี ๆ ของผมเสียไปหมดแล้ว “พ่อหมอ ช่วยฉันเถอะ ฉันขอร้อง พ่อหมออยากให้ฉันทำอะไรฉันยอมหมดเลย อยากให้ฉันซักผ้า ถูบ้าน ล้างจาน ทำกับข้าว ฉันทำให้ได้หมดเลยนะ ฉันสัญญา ว่าถ้าผ่านวันนี้ไปฉันจะไม่สร้างเรื่องอีก ฉันจะเป็นนังชบาคนดีของพ่อของแม่นะพ่อหมอ” คนตัวเล็กพยายามกระชากแขนออกจากการผูกมัดจนหลุด ก่อนที่เธอจะพุ่งเข้ามาเกาะขาผมแน่น สายตาก็วิงวอนอ้อนขอจนผมเผลอใจอ่อนเป็นครั้งที่สอง “เออ ๆ กูช่วยมึงก็ได้ แต่!” “พูดมาเลยพ่อหมอ ฉันเต็มใจทำให้ทุกอย่าง” “พรุ่งนี้ตอนเก้าโมง มึงต้องเข้าไปหากูที่สำนัก” นังชบายิ้มแฉ่งจนแก้มปริ พลางพยักหน้ารัวรัวด้วยความดีใจขั้นสุด “ขอบคุณมากนะพ่อหมอ บุญคุณครั้งนี้ฉันจะไม่มีทางลืมเลย” ผมไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น เพราะเสียเวลามามากพอแล้ว จึงเดินลงมาที่ชั้นล่าง ระหว่างนี้ก็มีชาวบ้านเข้ามามุงกันเยอะยิ่งกว่าเดิม แต่ที่ทำให้ผมสะดุดตา คงเป็นปลัดวสันที่ยืนอยู่ข้างบัว ทำไมปลัดถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ หรือมันจะเกี่ยวเนื่องกับที่นังชบาแกล้งผีเข้ากันนะ “เป็นจังได๋แน” (เป็นยังไงบ้าง) แม่ของชบารีบถามอย่างร้อนใจ โดยมีสามีของเธอโอบแขนไว้แน่นเพื่อให้ใจเย็นลง “เอ่อ...” ผมอ้ำอึ้ง เกิดมายังไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ผมไม่น่าใจอ่อนคล้อยตามยัยเด็กชบานั่นเลย “ตอนนี้ผีออกไปแล้ว เป็นผีเจ้าที่นี่ล่ะ เพินบ่มักให้มีพิธี ซ่วงนี่ห้ามเด็ดขาด” (ตอนนี้ผีออกแล้ว เป็นผีเจ้าที่นี่แหละ ท่านไม่ชอบให้ทำพิธี ช่วงนี้ห้ามเด็ดขาด) “เอ้า” คนในครอบครัวต่างมองกันอย่างละล่ำละลัก แสดงออกถึงความกังวลจนปิดซ่อนไม่มิด “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยววันหลังผมค่อยเข้ามาใหม่ก็ได้” ปลัดวสันเอ่ยบอกกับพ่อของชบา ก่อนที่พวกเขาจะแยกออกไปคุยกันเพียงลำพัง ชาวบ้านก็เริ่มทยอยกลับไปบ้านของตัวเองแล้ว เหลือแค่ป้าหวา ที่กำลังจะเดินขึ้นบ้านไปดูลูกสาว ที่ตอนนี้มีบัววิ่งขึ้นไปดูก่อนใครเพื่อนเลย “ป้าหวาครับ” “หือ ว่าจังได๋” (ว่ายังไง) “อั่น... กำลังสิมีพิธีอิหยังกันครับ” (เอ่อ... กำลังจะมีพิธีอะไรกันเหรอครับ) ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่ผมอดสนใจไม่ได้จริง ๆ ว่ายัยเด็กชบานั่นแกล้งทำผีเข้าไปเพื่ออะไรกัน “กะคุยธุระเรื่องงานหมั้นงานแต่งนี่ล่ะ ปลัดเพินมาคุยไว้” (ก็คุยเรื่องงานหมั้นงานแต่งนี่แหละ ปลัดแกมาคุยไว้) หือ? คำตอบที่ได้รับทำให้ผมงงงวยหนักเข้าไปใหญ่ ในเมื่อตอนนั้นยัยเด็กชบามาขอให้ผมทำเสน่ห์ใส่ปลัด แล้วทำไมวันนี้ถึงแกล้งผีเข้าเพื่อล้มงานเสียได้ “อีชบากะจักจังได๋ บ่อยากให้เอื้อยแต่งงาน มามื่อนี่ผัดผีเข้าอีกล่ะ ว่าแมนมันเฮ็ดเอาเด้นั่น คันหิรัญบ่บอกว่าผีเข้าอิหลีป้ากะบ่อยากเซือปานได๋” (อีชบาก็ชักยังไง ไม่อยากให้พี่แต่งงาน มาวันนี้ก็ดันผีเข้าอีก ไอ้ตอนแรกก็นึกว่ามันแกล้งทำ ถ้าหิรัญไม่บอกว่าผีเข้าจริง ๆ ป้าคงไม่เชื่อเลยนะ) “...” ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม จริง ๆ แล้วปลัดตั้งใจจะมาหมั้นหมายกับบัว แต่นังชบาดันแกล้งผีเข้าเสียก่อน หน็อย! เสียรู้ยัยเด็กนั่นอีกจนได้ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ผมจะไม่มีทางช่วยเธอแน่นอน เธอนี่มันน่าไม่อายจริง ๆ ชบา อยากได้แม้กระทั่งผัวพี่ คอยดูเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะแก้เผ็ดเธอให้หนัก!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD