ตอนบ่ายของวัน
“เทียนหอม!” เสียงของน้ำหวานเอ่ยทักเมื่อเห็นเทียนหอมเดินเข้ามาใกล้
“เมื่อวานเทียนส่งงานให้แล้วนะ” เทียนหอมรีบบอกเมื่อเธอทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อยและทันเวลา
“ดีมาก นี่เงินค่าจ้างส่วนที่เหลือ” น้ำหวานหยิบเงินส่วนที่เหลือออกมาจ่ายอย่างไม่ลังเล
“ขอบใจนะ” เทียนหอมรับเงินมาพร้อมกับคำขอบคุณ ถึงเงินจำนวนนี้จะเป็นเพียงแค่เศษเงินของคนอื่น แต่สำหรับเธอแล้วมันมีค่ามากพอที่จะต่อชีวิตเธอไปได้อีกหลายวัน
“อ้อ! อาจารย์ที่ปรึกษาบอกให้เทียนไปหาที่ห้องทะเบียน” เมื่อนึกขึ้นได้น้ำหวานก็ไม่ลืมที่จะบอกเทียนหอม
“มีอะไรหรือเปล่า?” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย ทำไมอาจารย์ที่ปรึกษาถึงได้เรียกเธอไปพบที่ห้องทะเบียน
“ไม่รู้สิ ลองไปถามอาจารย์ที่อยู่ห้องทะเบียนดูนะ” น้ำหวานบอกก่อนจะเดินออกไปเมื่อหมดธุระของเธอแล้ว
เทียนหอมเดินตรงไปยังห้องทะเบียนของมหาวิทยาลัยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและความกังวลในเวลาเดียวกัน เธอยังนึกไม่ออกเลยว่าทำไมอาจารย์ที่ปรึกษาถึงได้ให้เธอมาหาที่ห้องทะเบียน
“สวัสดีค่ะหนูมาพบอาจารย์นารีนาชค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องเทียนหอมก็รีบถามถึงอาจารย์ที่ปรึกษาทันที
“ชื่อเทียนหอมใช่ไหม?” เจ้าหน้าที่ในห้องทะเบียนเอ่ยถามกลับ
“ใช่ค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” เทียนหอมพยักหน้าตอบ ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยด้วยความกลัวว่าจะมีปัญหา
เจ้าหน้าที่ลุกขึ้นเดินไปหยิบแฟ้มเอกสารของนักศึกษาทั้งหมดมาเพื่อที่จะตรวจสอบข้อมูล
“เทอมสุดท้ายของน้องเกรดไม่ถึงตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของทุนค่ะ ดังนั้นน้องต้องจ่ายค่าเทอมเองถึงจะมีสิทธิ์สอบพร้อมเพื่อนได้” เจ้าหน้าที่อธิบาย
คำพูดของเจ้าหน้าที่เหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจของเทียนหอม เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“แต่ว่า... หนูใช้ทุนเรียนมาตลอดหนิคะ ทำไมหนูต้องจ่ายค่าเทอมด้วย...” เทียนหอมพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเล็กน้อย
“ในเงื่อนไขของทุนระบุไว้ว่าผู้ได้รับทุนต้องรักษาเกรดให้อยู่ในระดับที่กำหนด แต่น้องไม่สามารถทำได้ในเทอมสุดท้ายค่ะ” เจ้าหน้าที่พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่จริงจัง
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ