ตอนที่ 3 เทียนหอมไม่เคยยอมแพ้ 2

1048 Words
“เทียนหอม!” น้ำหวานเพื่อนในคณะเรียกชื่อเทียนหอมเสียงดังฟังชัด เทียนหอมมองไปยังหญิงสาวหน้าตาสวยที่เป็นต้นเสียงและเป็นคนเรียกชื่อเธอ น้ำหวานเพื่อนสาวคนรวยเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูรำคาญเล็กน้อย พร้อมกับกระเป๋าแบรนด์เนมใบใหญ่ที่ดูโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ “ช่วยเราทำงานที่จะส่งวันนี้หน่อยสิ เมื่อเช้าเรามาไม่ทันก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน” เทียนหอมรู้ทันทีว่าการช่วยของน้ำหวานคือการจ้าง เธอพยายามยิ้มอย่างสุภาพแม้ในใจจะรู้สึกเหนื่อยล้าจากงานที่ต้องทำ ตอนนี้เธอเหลือเวลาอีกไม่มากเพราะเธอจะต้องไปทำงานล้างจานที่ร้านอาหารต่ออีก “น้ำหวาน รายงานวันนี้มีข้อมูลค่อนข้างเยอะนะ ต้องใช้เวลาเขียนนานมากเลย” เทียนหอมตอบพลางวางงานที่กำลังทำอยู่แล้วมองหน้าเพื่อนร่วมคณะด้วยท่าทางคิดหนัก “เรารู้ว่าเทียนหอมเก่งอยู่แล้ว เดี๋ยวเราจ่ายเงินให้เหมือนเดิมจะเอาเพิ่มอีกสองเท่าก็ได้หรือถ้ามันยากเราเพิ่มให้เป็นสามเท่าเลยก็ได้นะ ขอแค่ให้เสร็จทันเวลาก็พอ” น้ำหวานเชิดหน้าถอนหายใจแรงๆ ตามสไตล์คนรวยที่มักจะใช้เงินแก้ปัญหา เทียนหอมมองน้ำหวานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล เธอไม่อยากปฏิเสธงาน เพราะรู้ว่าเงินจำนวนนี้จะช่วยให้เธอแบ่งเบาภาระในชีวิตได้ แต่การรับจ้างแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนต้องยอมรับความจริงว่าเธอไม่มีทางเลือก เพราะอะไรที่ทำแล้วได้เงินเธอก็ต้องทำ “โอเค เดี๋ยวเทียนจัดการให้นะ” น้ำเสียงของเทียนหอมฟังดูสุภาพ แต่ก็แฝงไปด้วยความอดทน น้ำหวานยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหยิบเงินสดออกมาวางบนโต๊ะโดยไม่คิดแม้แต่จะเสียดายเงินจำนวนนี้เลยสักนิด “นี่ค่าแรงล่วงหน้า เราเชื่อใจเทียนหอมอยู่แล้วว่าทำได้ดีแน่นอน” เทียนหอมรับเงินมาอย่างเงียบๆ พลางพยักหน้ารับ แม้ในใจจะรู้สึกว่าชีวิตของเธอช่างแตกต่างกับน้ำหวานเหลือเกิน แต่เธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร นอกจากตั้งใจทำงานต่อเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง หญิงสาวนั่งทำงานของตัวเองและงานของน้ำหวานอย่างเร่งรีบ เพราะเธอต้องทำให้เสร็จและไปส่งอาจารย์ที่ห้อง ก่อนที่เธอจะต้องรีบไปทำงานล้างจานต่อ หลังจากที่เทียนหอมทำงานส่งอาจารย์เสร็จ เธอก็รีบเดินทางไปที่ร้านอาหารที่เธอรับจ้างล้างจานอยู่เป็นประจำ เพื่อที่จะได้เงินเพิ่มมากขึ้น “ขอโทษที่มาช้านะคะ” เทียนหอมยกมือขอโทษเจ้าของด้วยความเกรงใจที่วันนี้มาทำงานช้า “รีบๆ เลยวันนี้ลูกค้าเยอะ” เจ้าของร้านกำลังวุ่นวายกับอาหารที่จะเสิร์ฟให้ทันลูกค้า เทียนหอมรีบสวมผ้ากับเปื้อนคู่ใจแล้วทำหน้าที่ของตัวเองทันที เธอต้องทำหน้าที่ทั้งเสิร์ฟและล้างจาน เกิดเป็นเทียนหอมก็ต้องสู้ เพราะเทียนหอมไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้ว ร่างบางทั้งล้างจานและเสิร์ฟอาหารจนหมดเวลางาน แม้จะเหนื่อยล้าแต่มือที่เปียกน้ำและรองเท้าที่เต็มไปด้วยคราบเหนอะหนะก็ไม่ได้ทำให้เธอหมดกำลังใจ เพราะเธอรู้ว่าความพยายามในวันนี้คือสิ่งที่จะนำเธอไปสู่เป้าหมายในอนาคตที่ดีได้ แต่เมื่อเดินเข้าไปในบ้านที่มืดและเงียบผิดปกติ หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงมากขึ้นทุกวินาที “ยาย! ยายอยู่ไหนคะ?” เทียนหอมเรียกยายตั้งแต่อยู่หน้าประตู แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ เธอรีบเดินสำรวจทั่วบ้าน แต่ก็ไม่พบยายนวลจันทร์และมีเพียงบ้านที่ว่างเปล่า หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวสติก็หลุดลอยไปไกล ในสมองก็คิดกลัวขึ้นมา เทียนหอมยืนนิ่งอยู่กลางบ้านทำตัวไม่ถูกไม่รู้เลยว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน “ยาย!” เทียนหอมเรียกยายเพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ในใจก็คิดกังวลไปไกล เธอรวบรวมสติที่มีอยู่น้อยนิดแล้วตัดสินใจเดินไปถามบ้านข้างๆ “ป้าคะ ป้าเห็นยายของหนูไหม?” น้ำเสียงของเทียนหอมสั่นเครือด้วยความกังวล “ยายหนูไม่สบายมาก ป้าก็เลยโทรเรียกรถโรงพยาบาลให้มารับไปเมื่อช่วงบ่าย” หญิงสูงวัยที่อยู่บ้านข้างๆ หันมามองเทียนหอมด้วยใบหน้าเศร้าและพูดเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่สงสารจับใจ “ป้าคะ ยายเป็นอะไรหรือเปล่า? ป้าพอจะรู้ไหมคะ?” เทียนหอมยืนอึ้ง น้ำตาเริ่มคลอเบาๆ “ป้าก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นยายเดินตัวเซเหมือนจะหมดแรง เลยคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าถ้าได้ไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล” ป้าที่อยู่ข้างบ้านรีบตอบ “ขอบคุณป้ามากนะคะ” เทียนหอมรีบพูดขอบคุณแล้ววิ่งออกไปทันที ใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความห่วงใย เธอวิ่งตรงไปที่ป้ายรถประจำทาง แล้วขึ้นรถโดยสารไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ระหว่างทางเธอพยายามโทรไปยังโรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อมูล แต่ก็ไม่มีใครรับสาย เมื่อเทียนหอมมาถึงโรงพยาบาลเอกชน เธอวิ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้วยหัวใจที่เต้นแรงจากความกังวล “ขอโทษค่ะ พอดีคุณยายของหนูถูกส่งตัวมาที่นี่เมื่อตอนบ่าย หนูอยากทราบว่าตอนนี้ยายอยู่ที่ไหนคะ?” “คุณยายชื่ออะไรคะ?” พนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ถามพร้อมรอยยิ้ม “คุณยายนวลจันทร์ พินิจกุลค่ะ” “สักครู่นะคะ” พนักงานพิมพ์ชื่อเพื่อค้นหาข้อมูลในระบบ “คุณยายของคุณอยู่ในห้องฉุกเฉินค่ะ ยังไม่มีญาติมาติดต่อ เราเลยยังไม่สามารถจัดการอะไรเพิ่มเติมได้” พนักงานตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความวิตกกังวล “ขอบคุณค่ะ” เทียนหอมรีบขอบคุณแล้วรีบเดินตรงไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลทันที .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ🙏🏼
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD