ตอนที่9 ยอมถอย!

1286 Words
เพียงแค่ประตูห้องนอนปิดลงอีกครั้ง ณิชาวีร์ถึงกับเข่าทรุดลงกับพื้นอย่างอดไม่ไหว เสียใจจนหมดแรงที่จะก้าวเดินได้อีกต่อไป ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องมาหย่ากับสามีเร็วมากขนาดนี้ คำว่าเลิกราไม่ได้อยู่ในความคิดของเธอเลยแม้แต่นิด แต่จะให้ทำอย่างไรได้เพราะหัวใจมันรู้สึกเจ็บปวดจนเกินที่จะรับไหว จะรอให้เขานอกกายก่อนแล้วถึงจะยอมก็คงไม่ใช่ เพราะแค่นอกใจกันทุกวันนี้มันก็มากเกินพอ ถ้าจิรภัทรอยากไปเธอจะปล่อยให้เขาได้ไปมีอิสระในชีวิตและตัวเองก็จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับเรื่องแบบนี้อีก @บริษัทภาสกร “ลมอะไรหอบมาถึงนี่อีกวะไอ้ภัทร ฉันไม่ได้เห็นหน้าแกที่นี่ตั้งแต่แกได้เด็กฝึกงานของฉันไปเป็นเมียแล้วนะ” จิรภัทรไม่ได้เข้าบริษัทตัวเองในทันที แต่เขากลับเลือกที่จะแวะเข้ามาหาเพื่อนรักที่สนิทแทน ร่างสูงของจิรภัทรทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวยาว เสียงถอนหายใจดังขึ้นชวนให้เจ้าของห้องหงุดหงิดแทนยิ่งนัก “เป็นบ้าอะไรไปวะเนี่ย” “ฉันกับณิกำลังจะหย่ากัน” “หา!!!! ทำไมเป็นงั้นล่ะ สามปีนี่หมดรักกันแล้วเหรอไวดีแท้วะ! มึงไม่นึกถึงวันที่มาตามจีบน้องเขาต้อย ๆ เลยหรือยังไงไอ้ภัทร?” ภาสกรรีบเดินเข้ามานั่งลงเคียงข้าง จับจ้องมองสายตาเพื่อนรักเพื่อเฝ้ารอคอยในคำตอบที่ตนอยากจะรู้กว่าอะไร “ฉันแต่งงานประชดนิชา ใจจริงฉันไม่ได้รักณิชาวีร์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” “ห่าเอ้ย!!!! นี่มึงพูดจริงไหมวะ?” “จริง แล้วตอนนี้นิชาก็กลับมาแล้ว ฉันให้เขามาเป็นนางแบบโปรโมทงานให้ด้วย” “หื้ม ๆ ๆ กูจะด่ามึงเป็นภาษาอะไรดีวะเนี่ย แต่ณัฐนิชาเขาก็แต่งงานมีสามีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงจะไปเป็นผัวน้อยเขางั้นสิ?” จิรภัทรหันไปมองจ้องหน้าคนที่ถามรู้สึกเคืองหูมากมายนัก ผัวนงผัวน้อยอะไรทั้งที่เขาก็เป็นผัวเธอมาก่อนเหมือนกัน “แต่เขากำลังจะเลิกกับผัว” “มึงก็เลยจะเตรียมหย่าไว้รอ เพื่อจะกลับไปหาคนเก่าที่เคยทิ้งกันไปนี่นะเหรอ มันใช่เหรอวะไอ้ภัทร!” “แกไม่เคยรักใครจริงจังแบบฉัน แกไม่เข้าใจหรอกว่ะกร” ภาสกรได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพราะสิ่งที่อีกคนพูดมันไม่เป็นความจริงเลยสักนิด เพราะถ้าเขาไม่เคยรักใครจริง เขาจะได้ภรรยาที่แสนดีมาเป็นแม่ของลูกอย่างทุกวันนี้หรือไงล่ะ “ในอดีตกูก็เคยทำผิดพลาดนะภัทร กว่าที่จะรู้ใจตัวเองชีวิตก็พังไปเกินเจ็บสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ดีแค่ว่าเมียกูเขารักและยอมให้โอกาสกันอีกครั้ง กูถึงมีความสุขอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ เอาจริง ๆ เลยนะ จากใจคนมีประสบการณ์เลยนะไอ้ภัทร กูไม่อยากเห็นมึงตัดสินใจพลาด ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนเขาจะยอมให้โอกาสผู้ชายเลว ๆ ได้กลับเข้าไปในชีวิตเสมอหรอกนะเว้ย มึงแน่ใจแล้วเหรอว่าที่นิชาเขากลับมาครั้งนี้ เพราะว่าเขาอยากจะคืนมาหามึงจริง ๆ กูไม่เห็นด้วยหรอกนะที่จะแลกผู้หญิงที่ดีอย่างเช่นณิชาวีร์กับผู้หญิงคนที่เคยทิ้งมึง เพื่อไปเอาผัวใหม่ที่รวยมากกว่า ผู้หญิงคนนั้นที่เคยทำให้มึงเสียใจมากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็สุดแล้วแต่ความต้องการของมึงเอง เพราะความสุขและทางเดินของคนเรามันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว กูก็เป็นแค่เพื่อนคิดอะไรแทนไม่ได้หรอกนะภัทร” “แต่ฉันก็ไม่อยากอยู่กับณิชาวีร์แล้วเหมือนกันว่ะ ฉันรู้สึกเบื่อ เวลาอยู่ใกล้ณิชาวีร์ฉันไม่รู้สึกแฮปปี้เหมือนกับที่อยู่ใกล้ณัฐนิชาเลย ไม่ใช่ว่าณิชาวีร์ไม่ดีนะ ออกจะดีมากเสียอีก แต่เหมือนชีวิตมันหมดโพรโมชั่นไหมวะ ความรู้สึกพิเศษมันก็ค่อย ๆ หมดไปทีนิด ๆ ฉันว่ายุติกันไปมันก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีแล้วก็ได้” “งั้นก็เซ็นใบหย่าให้เขา ยอมเสียเพื่อแลกกับอิสระภาพมันก็คงจะคุ้มกันแหละไอ้ภัทร แล้วจะมานั่งเสียดายทำไมวะ เงินทองมันของนอกกายหรือเปล่า เผื่อวันนึงเขามีลูกติดท้องไปด้วย มึงก็คิดซะว่าเป็นค่าเลี้ยงดูบุตรที่ให้กับแม่ของลูกไปตั้งตัวก็แล้วกัน” คำพูดของเพื่อนรักไม่ได้ทำให้จิรภัทรเอามาคิดใส่ใจเลยแม้แต่นิด มันจะเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไรในเมื่อไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว เพิ่งจะมีความลึกซึ้งกันอีกก็แค่เมื่อคืน ถ้าไม่เมาก็ไม่รู้จะได้หรือเปล่าและก็ไม่คิดว่าความสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวจากเมื่อคืนนี้จะก่อกำเนิดอีกหนึ่งชีวิตที่จะมาทำให้วุ่นวายได้ทีหลัง เพราะถ้าณิชาวีร์จะมีลูกเธอก็คงตั้งครรภ์ไปตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนเขาสองคนมีความสัมพันธ์ทางกายกันแทบจะทุกวัน “เพ้อเจ้อไม่จบไม่สิ้น แวะมาหาถูกคนหรือเปล่าวะเนี่ย แทนที่จะได้ความสบายใจกลับไปด้วย ยิ่งทำให้ฉันปวดหัวนะไอ้ภาสกร” “อะไรมันก็เกิดขึ้นได้นี่หว่า ไม่เห็นหรือไงตอนเมียฉัน เขาก็ยังหอบลูกในท้องหนีไปคลอดไกลถึงอเมริกา กว่าฉันจะได้เห็นหน้าลูกอีก ลูกชายฉันก็แทบจะเดินได้แล้ว ฉันไม่อยากให้แกเป็นแบบนั้นนะภัทร ฉันไม่อยากจะเห็นแกต้องมาเสียใจทีหลังในวันที่ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมและอาจจะสายเกินกว่าที่จะแก้ไขได้อีกครั้ง” “มันไม่เกิดหรอกน่า ฉันมั่นใจแบบนั้น ขอบใจนะที่มานั่งรับฟังปัญหาชีวิต ฉันขอตัวก่อนล่ะจะเข้าบริษัทแล้ว” “เออ ขอบใจนะที่เวลามีปัญหาแล้วยังนึกถึง มีอะไรโทรมาก็แล้วกัน ฉันก็ยังเป็นเพื่อนแกเสมอนะภัทร” “เป็นเพื่อนแต่ไม่เคยออกไปเที่ยวด้วยกันเลยนี่นะ ไม่รู้จะคบไว้ทำไม ไม่ไหว ไม่ไหว!” แม้จะอยู่ในความตึงเครียดแต่จิรภัทรก็ยังพูดหยอกเอินเพื่อนรักเล่นอยู่แบบนั้นเป็นเรื่องปกติ “ก็คนมันมีครอบครัวนี่หว่า มีลูกให้ต้องเลี้ยง มีเมียให้ต้องดูแล ฉันเป็นพ่อบ้านที่รักครอบครัว ถ้าเมียไม่อนุญาตให้ออกไปเที่ยวได้ ก็ไม่กล้าไปไหนทั้งนั้นล่ะ” “ปัดโธ่! พ่อบ้านกลัวเมียนี่หว่าแบบนี้ จากเสือกลายเป็นแมว โคตรจะเชื่องเลยว่ะไอ้คุณภาสกร!” “หึหึ!! ถ้าสักวันหนึ่งมึงเป็นแบบกูนะ กูจะล้อยันลูกมึงบวชเลยไอ้ภัทร!” จิรภัทรยิ้มส่ายหน้า ลุกยืนขึ้นเต็มความสูง พร้อมกับโบกมือลาเพื่อนรักและเดินหายออกจากห้องทำงานของภาสกรไป แวะมาหาเพื่อนทีไรแม้จะมีเรื่องหงุดหงิดหัวเสียอยู่มากก็ยังทำให้ยิ้มและหัวเราะได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยสักครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD