เมื่ออาหารค่ำมาถึงศรัณย์ก็ยังชวนเพื่อนรักอย่างอเล็กซ์มาร่วมวงด้วยที่บ้าน อาหารค่ำที่เกือบสองอาทิตย์มานี้ครึกครื้นมากสำหรับเมรินดา แต่มาวันนี้เธอกลับรู้สึกอึดอัดและไม่อยากอยู่ในมื้อค่ำด้วยเลยสักนิด
“นี่เมย์อิ่มแล้วเหรอจ๊ะ ทำไมทานน้อยจังล่ะวันนี้” อลิสาถามน้องสาวทันทีที่อีกคนรวบช้อนวางบนจานอย่างเรียบร้อย
“ค่ะ พอดีวันนี้เมย์ไม่ค่อยหิว ว่าจะขึ้นไปเก็บของเตรียมไว้มะรืนนี้เมย์ว่าจะกลับกรุงเทพฯ”
“ฟ้าใสก็อยากกลับไปกับน้าเมย์ค่ะคุณพ่อ คุณแม่ขาให้หนูไปกับน้องอลิซได้ไหม?” เด็กน้อยหันไปอ้อนบิดามารดาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
“ไว้รอปิดเทอมก่อนค่อยไปเที่ยวหาน้องนะคะฟ้าใส เดี๋ยวน้าเมย์มารับไปอยู่กับคุณยายด้วยดีไหม” เมรินดาหันมาพูดกับหลานสาวที่นั่งข้างๆกันอย่างน่ารัก
“ทำไมกลับเร็ว ไหนว่าอีกเป็นอาทิตย์ไงล่ะยัยเมย์ อย่างนี้พี่ก็คิดถึงอลิซแย่นะสิ” ศรัณย์ถามขึ้น เพราะเขายังไม่อยากให้หลานสาวอลิซน้อยต้องกลับบ้านหาแม่ยาย
“ก็แม่ยายพี่สิคะบอกว่าคิดถึงหลาน เร่งรีบให้กลับตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วด้วย” อลิสาถึงกับพูดด้วยความขบขัน
“แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เราจะพาอลิซมาเที่ยวหาพวกพี่อีกล่ะ?”
“ต้องดูก่อนค่ะพี่ศรัณย์ เมย์มีงานต้องทำนะไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจแบบพี่ซะหน่อย”
“พี่ล่ะไม่เข้าใจเราเลยแม่ยายก็ออกจะมีบริษัทใหญ่โต ทำไมเมย์ต้องไปทำงานให้ที่อื่นด้วยนะ”
“หาประสบการณ์ไงคะพี่ศรัณย์ สั่งสมประสบการณ์อีกสักหน่อยเมย์ถึงจะกลับมาช่วยงานคุณแม่”
“ขอโทษนะครับ คุณเมรินดาทำงานที่ไหนเหรอ?”
ใบหน้าสวยหันมามองอีกคนอย่างไม่พอใจนัก เรื่องส่วนตัวทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย!!
“อยู่บริษัทผลิตและส่งออกจิวเวลรี่ยักษ์ใหญ่ ถ้าจำไม่ผิดนะคงเป็นบริษัทในเครือของนาย ใช่ไหมยัยเมย์?” ศรัณย์หันไปถาม เมรินดาอ้าปากค้างกับสิ่งที่พี่เขยพูดเมื่อครู่นี้
“จริงเหรอเนี่ย บังเอิญจริงๆนะครับ คุณทำอยู่แผนกไหนเหรอเมรินดา?”
“ฉะ..ฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดค่ะ”
เขาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนรักต่อ ทำทีท่าไม่สนใจเมรินดาอีกเลย
“ขอตัวก่อนนะคะทุกคน จะไปดูลูกด้วย”
“จ๊ะ ไปเถอะ” อลิสาหันมายิ้มให้น้องสาวอย่างเอ็นดู ก่อนที่เมรินดาจะเดินตัวลีบออกไปเงียบๆ
ชายหนุ่มอีกคนปรายตามองเป็นระยะๆกระทั่งเธอหายลับตาขึ้นบ้านไป
วันต่อมา..
“คุณพ่อขา อาอเล็กซ์ทำไมยังไม่มาอีก” เสียงเด็กหญิงตัวเล็กถามหาอาหนุ่มคนใหม่ของเธอ
“เดี๋ยวก็มาครับลูก ฟ้าใสวาดรูปรอไปก่อนนะ”
“ค่ะคุณพ่อ” พร้อมกับหันไปสนใจสมุดวาดรูประบายสีของตัวเองต่อ
“เมย์ไปช่วยพี่ลิสาทำอาหารในครัวก่อนนะคะ ฟ้าใสอยู่กับน้องกับคุณพ่อนะคะเดี๋ยวน้าเมย์มา” เสียงหวานรีบบอกเมื่อสาวน้อยไม่ได้สนใจให้เธอเล่นด้วยแล้วในตอนนี้
“ไปเถอะเดี๋ยวพี่ดูฟ้าใสกับอลิซให้เอง”
เมรินดาจึงเดินเข้าไปทางครัวอย่างที่บอกก่อนที่แขกของบ้านจะมาเยือนในไม่กี่นาทีต่อมา
“มาแล้วเหรอเพื่อน มาๆนั่งลงนี่สิ” เมื่อชายหนุ่มฝรั่งหน้าหล่อเดินเข้าบ้านมา ศรัณย์รีบตบที่นั่งข้างกายให้นั่งลงด้วยกันทันที
“ทำอะไรอยู่ครับคนสวย” ชายหนุ่มชะโงกหน้าถาม เมื่อสาวน้อยฟ้าใสกำลังยุ่งกับการระบายสีเจ้าหญิงกับเจ้าชาย
“ระบายสีค่ะ สวยไหมคะอาอเล็กซ์?”
“สวยมากครับ ตัวแค่นี้เก่งจังเลยนะครับ” ฝ่ามือใหญ่ยีหัวเด็กน้อยเล่นอย่างเอ็นดู ก่อนจะไปนั่งลงข้างๆเพื่อนรักอีกครั้ง
“แล้วคนนั้นล่ะทำอะไรอยู่ครับ?” เขาถามเด็กหญิงอลิซที่กำลังเดินสำรวจรื้อค้นข้าวของรอบบ้านอย่างนึกขำ
“ฟ้าใสกับอลิซน่ารักมากเลยนะศรัณย์ เห็นนายมีลูกหลานน่ารักๆแบบนี้ ฉันเองก็อยากมีบ้าง บ้านดูครึกครื้นดีไม่น้อยเชียว”
“ก่อนจะมีลูกมันต้องมีเมียก่อนนะเว้ยเพื่อน” ศรัณย์ว่าอย่างนึกขำ
“ไม่อยากมีเมียแล้วนี่สิ”
“ไม่มีเมียแต่อยากมีลูกนี่นะ คงจะมีหรอกอเล็กซ์เอ้ย”
“มาคิดๆดูแล้วปีนี้ฉันก็จะสามสิบห้าแล้วนะ ถ้าไม่รีบมีลูกตอนนี้จะไปมีตอนแก่เหรอ แล้วฉันจะเลี้ยงลูกไหวไหม?” เขาหันไปถามเพื่อนรักที่เอาแต่นั่งยิ้มอย่างกับเห็นเป็นเรื่องตลก
“กลับไปชวนแองจี้ทำลูกดูไหมเผื่ออะไรๆอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ ยังไงพวกนายก็ยังรักกันมาก”
“ฉันกับเขาไม่ได้รักกันแล้ว แองจี้เองก็ไปมีสามีใหม่แล้ว”
“เฮ้ย! เลิกกับนายปุ๊บแองจี้ก็แต่งงานใหม่เลยเหรอ สุดยอดจริงๆ”
“อืม เขาเป็นคนสวยชาติตระกูลดีนี่นา พ่อแม่เขาหาไว้ให้ตั้งแต่เขายังไม่แต่งกับฉันแล้ว แต่แองจี้เลือกแต่งกับฉันก่อน”
“เอาเถอะๆ ไม่ใช่คู่กันจะเลิกวันนี้หรือวันหน้ามันก็ต้องเลิกเหมือนกันแหละ อย่าคิดมากเลยนะเพื่อน”
“ฉันไม่คิดมากหรอก ฉันดีใจถ้าแองจี้แต่งงานใหม่แล้วมีความสุขมากกว่าตอนอยู่กับฉัน”
“หรือว่านายจะหันมาสนใจสาวไทยดู?” ชายหนุ่มหันมามองเพื่อนรัก
“ได้เหมือนเมียนายก็ท่าจะดีนะศรัณย์ เป็นแม่บ้านแม่เรือนดี”
“สาวไทยส่วนมากก็เป็นแบบนี้แหละเอาใจใส่ครอบครัวมาก พวกเธอรักครอบครัวที่สุด แต่ไม่ใช่ทุกคนนะบอกไว้ก่อนเลย”
“นั่นสิ แล้วฉันจะโชคดีแบบนายหรือเปล่าล่ะศรัณย์”
“โอ้ย! กระผมก็ไม่รู้หรอกครับ ชอบวันไนท์สแตนด์แบบคุณนะ คงหาคนจริงใจด้วยยากมาก” ศรัณย์ประชด ทำเอาเพื่อนหนุ่มถึงกับหันหน้าหนีอย่างไว พร้อมกับถอนหายใจแรงๆ
“ไม่อยากคบใครเป็นตัวเป็นตนหรอก ฉันยังบ้างานอยู่กลัวว่าจะเอาเขามาทนทุกข์แบบแองจี้”
“นายหามาทำไมนะเงิน หามาเยอะๆแล้วไม่มีความสุข ที่นายมีอยู่ตอนนี้มันก็เยอะมากจนไม่รู้ว่าชาตินี้นายจะใช้หมดหรือเปล่า เงินทองมันซื้อทุกอย่างได้ก็จริง แต่มันซื้อความสุขที่แท้จริงในชีวิตไม่ได้หรอกนะ ครอบครัวที่อบอุ่นคือความสุขที่แท้จริง ฉันบอกได้แค่นี้”
ศรัณย์หันไปยิ้มให้กับลูกสาวตัวน้อยที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาระบายสีอย่างไม่สนใจใคร อเล็กซานเดอร์ถึงกับมองภาพตรงหน้าแล้วก็คิดตามคำบอกกล่าวเพื่อนรักอย่างเห็นด้วย
“ป๊ะป๋า ป๊ะป๋า” เสียงเด็กหญิงอลิซเอ่ยเรียกชายฝรั่งข้างๆคนเป็นลุง พร้อมกับเดินเข้าไปหาเหมือนอยากให้เขาอุ้ม เขาจึงยกขึ้นนั่งตักอย่างไว
“ว่ายังไงครับคนสวย?” เขาก้มหน้าลงไปถาม พร้อมกับแอบหอมแก้มย้วยนั้นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“สงสัยจะคิดถึงพ่อ เห็นฉันทีไรก็เรียกป๊ะป๋าแบบนี้แหละนายอย่าถือสานะ” ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆก่อนจะหันไปสนใจเด็กน้อยบนตัก
“อลิซเหมือนตุ๊กตาเลยนะศรัณย์ ดวงตากลมโตสวยเชียว” เขามองดวงตากลมโตสีเทาอย่างรู้สึกดี
“หลานฉันโตขึ้นคงสวยได้แม่ เขาถอดแบบแม่มาหมดเลยนะ แค่ผิวขาวจั๊วที่ได้พ่อมา”
อเล็กซานเดอร์มองเด็กหญิงบนตักที่กำลังฉีกยิ้มให้เขาอย่างตกหลุมรักที่สุด เขาจะมีวาสนาได้ลูกน่ารักๆแบบนี้บ้างหรือเปล่านะ
ไม่นานนักเมรินดาก็เดินออกมาจากในครัวเธอเองถึงกับชะงักที่เห็นเขากำลังเล่นอยู่กับลูกสาวเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆนั่งลงข้างๆกับน้องฟ้าใส
“อลิซมาหาแม่มาลูก” เธอยื่นมือให้ลูกสาวเดินมาหาแต่คนตัวเล็กกลับซบหน้ากอดอีกคนไว้แน่น
“คงคิดว่าเป็นพ่อสินะ หึหึ”
ศรัณย์มองเพื่อนอย่างนึกขำ เอ็นดูหลานสาวที่ไม่ยักจะกลัวคนแปลกหน้าเลยสักนิด
“ขอโทษด้วยนะคะ คุณอเล็กซ์ส่งอลิซมาให้ฉันเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ให้นั่งบนตักนี่แหละ” เมรินดาได้แต่มองลูกสาวตาละห้อย
“อาหารใกล้เสร็จหรือยังยัยเมย์ พี่ชักจะหิวแล้วนะ” เป็นศรัณย์ที่ถามขึ้น
“เหลือทำต้มยำก็เสร็จแล้ว ยังไงเมย์ขอเข้าไปช่วยพี่ลิสายกอาหารออกมาตั้งโต๊ะดีกว่านะคะ”