“คุณแม่ขา ฟ้าใสขอไปเดินเล่นกับน้าเมย์กับน้องได้ไหม?” เมื่อทานอาหารกันเสร็จเด็กหญิงตัวน้อยก็ออดอ้อนคนเป็นแม่ขึ้นทันที
“ไม่นอนกลางวันก่อนเหรอลูกใกล้จะได้เวลานอนแล้วนะ”
“เดี๋ยวค่อยกลับมานอนได้ไหมคะคุณแม่ ไปเดินย่อยอาหารก่อนพุงโตๆแล้ว” มือน้อยๆรูปท้องตัวเองอย่างน่าเอ็นดู ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารถึงกับหัวเราะ
“แม่อนุญาตก็ได้ค่ะ แต่ห้ามไปไกลนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ ไปกันค่ะน้าเมย์ ไปให้อาหารปลาคราฟกันนะน้องอลิซ” เด็กหญิงตัวน้อยรีบเดินไปดึงมือป้อมๆของน้องสาวให้เดินตาม
“อาอเล็กซ์ไปด้วยกันไหม?” สาวน้อยฟ้าใสไม่ลืมจะหันไปชวนบุคคลที่เธอถูกชะตาด้วยอีกคน
“อยากให้อาไปด้วยเหรอครับ?” เขาก้มหน้ามาถามใกล้ๆ ก่อนที่เด็กหญิงจะพยักหน้างึกๆ
“น้าเมย์ว่าอย่าไปรบกวนคุณอาเขาเลยนะ เราไปกันสามคนก็พอ” อเล็กซานเดอร์ถึงกับมอง พร้อมสะแยะยิ้มออกมาน้อยๆ
“ขอตัวก่อนนะศรัณย์ ขอไปเอาใจหลานสาวคนสวยก่อน ขออนุญาตนะครับลิสา”
“ฝากด้วยนะเพื่อน ฟ้าใสเขาอยู่นิ่งๆไม่เป็น” ศรัณย์บอกพร้อมกับเด็กหญิงฟ้าใสก็มาจูงแขนอเล็กซานเดอร์อีกคน จึงกลายเป็นว่าภาพที่เห็นเหมือนคุณพ่อลูกสองไม่มีผิด
“ดูดีเชียว ถ้านายมีลูกก็คงได้ภาพประมาณนี้อเล็กซ์” ศรัณย์ถึงกับเอ่ยแซวเมื่อเห็นเด็กสาวตัวน้อยสองคนอยู่ตรงกลาง พร้อมกับหนุ่มสาวที่จูงมือน้อยๆคนละฝั่ง
“นายก็ว่าไปนั่น ไปกันครับฟ้าใส ไหนเราต้องไปทางไหนกัน เดินนำหน้าอาไปเลย” เขาก็เดินตามเด็กหญิงที่ลากดึงเขาไปพร้อมกับน้าสาวอย่างเมรินดา จนกระทั่งเดินไปถึงบ่อปลาคราฟ ที่เต็มไปด้วยปลาคราฟตัวใหญ่แหวกว่ายไปมาอยู่ในน้ำ
“ให้อาหารปลาดีๆนะคะฟ้าใส ระวังตกลงน้ำด้วยนะคะ” เมรินดาบอกกับหลานสาวอย่างเป็นห่วงก่อนจะพากันนั่งลงข้างๆสระ พร้อมเมรินดาที่กำลังจับตัวลูกสาวแสนซนไว้ พยายามชวนให้สนใจการให้อาหารปลาเพื่อจะไม่ต้องวิ่งไปไหน
“อาอเล็กซ์มีแฟนหรือยังคะ?” เด็กหญิงหันมาถามคนข้างๆที่กำลังเพลินกับการให้อาหารปลาตัวใหญ่อยู่
“หือ ตัวแค่นี้รู้ด้วยหรือว่าแฟนคืออะไร?” เขายิ้มให้อย่างนึกขำ สี่ขวบทุกวันนี้รู้เรื่องขนาดนี้เชียว
“ฟ้าใส ไม่ใช่เรื่องของเด็กไม่ถามนะคะ” เมรินดาเอ็ดหลานสาวเบาๆ
“อายังไม่มีแฟนหรอกนะ กำลังหาอยู่” เขาหันไปบอกเด็กหญิงที่กำลังยิ้มแป้นให้อย่างน่าเอ็นดู
“ฟ้าใสรู้มากเกินเด็กค่ะ คุณอย่าไปถือสาเลยนะคะ”
“ถ้าอาอเล็กซ์ชอบน้าเมย์ก็ดีสินะคะ น้องอลิซจะได้มีคุณพ่อ” เมรินดาถึงกับหันขวับอย่างไว
“พูดอะไรแบบนั้นคะฟ้าใส น้าเมย์ไม่พูดด้วยแล้วนะโน่นเลยเอาอาหารให้เจ้าเงินเจ้าทองโน่น” เมรินดาถึงกับอายเมื่อหลานสาวพูดออกมาแบบนั้น
“ลูกสาวศรัณย์นี่ได้พ่อมาเยอะเลยนะเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า” ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะออกมา
“ขอโทษแทนฟ้าใสด้วยนะคะ คุณอย่าไปถือสาเด็กนะฟ้าใสก็พูดไปแบบนั้นแหละ พูดไปเรื่อยตามประสา”
“ฉันรู้หรอกหน่า ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดของเด็ก” เมรินดายิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะหันไปสนใจลูกสาวที่ตอนนี้กำลังเดินหนีห่างออกไปเรื่อยๆ
“ฝากฟ้าใสด้วยนะคะ ฉันขอไปตามลูกก่อน” เขาพยักหน้ารับก่อนที่จะหันไปพูดคุยกับเด็กหญิงข้างกายด้วยสีหน้าอารมณ์ดี เขานั่งมองเด็กหญิงที่กำลังให้อาหารพูดคุยกับปลาอย่างนึกขำ เป็นเด็กก็มีความสุขแบบนี้สินะ ไม่ต้องคิดอะไรให้มากและก็ไม่ลืมจะลอบมองอีกคน ที่เธอกำลังยิ้มและหยอกล้อกับลูกสาวอยู่ไม่ห่างไกลออกไปนัก เธอดูเป็นคนรักเด็กมาก ชายหนุ่มได้แต่มองและอมยิ้มตามกับภาพตรงหน้า
“ง่วงนอนแล้วค่ะ กลับบ้านนอนดีกว่า” เด็กหญิงฟ้าใสบอกขึ้นก่อนจะทำทีท่าหาวจนปากหวอ
“อาอเล็กซ์อุ้มฟ้าใสหน่อยค่ะ ฟ้าใสเหนื่อยแล้วเดินไม่ไหว” เด็กหญิงออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดูก่อนจะยกแขนสองข้างขึ้นให้อีกคนอุ้ม ชายหนุ่มร่างโตจึงก้มลงอุ้มขึ้นแนบอก
“หืม...ตัวหนักไม่เบาเลยนะนี่ คุณพ่อคุณแม่อุ้มไหวได้ไงกันนะ” เขาแกล้งถามเด็กหญิง ที่กำลังอิงแอบซบบ่าเขาเหมือนจะหลับจริงๆ เมรินดาเห็นเข้าก็รีบเดินเข้ามาหา
“ให้ฉันอุ้มฟ้าใสก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ลูกเธอเองก็กำลังจะหลับแล้วนั่น เชิญเธอเดินนำหน้าไปก่อนได้เลย” เมรินดามองหน้าลูกสาวที่กำลังเหมือนจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินตามกันไปติดๆ
“ลูกสาวนายหลับแล้วศรัณย์” เขาบอกกับเพื่อนสนิททันทีที่เดินเข้าบ้านมาพร้อมกับเด็กน้อยบนอ้อมอก
“เลี้ยงเด็กเก่งอยู่นะเนี่ยเรา ไปๆช่วยพาขึ้นไปบนห้องนอนเลยนะเพื่อน นี่เล่นน๊อคทั้งพี่ทั้งน้องมาเชียวสงสัยจะวิ่งกันเหนื่อยมากสินะ” ศรัณย์ชะโงกหน้าไปมองอลิซน้อยที่หลับซบบ่ามารดาอย่างเอ็นดู
“ไปค่ะ เดี๋ยวฉันนำขึ้นไปห้องนอนฟ้าใส” เธอเอ่ยปากชวนเพราะถึงอย่างไรก็อลิซก็ต้องไปนอนห้องเดียวกันอยู่แล้ว ชายหนุ่มร่างโตเดินอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นบันไดบ้านตามไปไม่ห่าง
“ขอบคุณนะคะที่อุ้มฟ้าใสขึ้นมาส่ง” เมื่อได้จัดแจงวางลูกสาวตัวน้อยลงบนเตียงกว้าง พร้อมกับเขาที่วางเด็กหญิงฟ้าใสลงบนเตียงอีกฝั่ง เมรินดาก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณอย่างคนมีมารยาทพึงจะทำ
“ไม่เป็นไร ฉันเต็มใจ” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เมรินดาจึงจัดแจงห่มผ้าให้หลานสาวและลูกสาว พร้อมจะลุกขึ้นจากเตียงเช่นกันแต่ทันใดนั้นเธอก็เสียหลักไปชนเขาเข้าจนตัวเองเกือบล้ม ดีที่ว่าแขนแข็งแกร่งโอบรัดเธอไว้ทันก่อนที่จะล้มหัวขมำลงกับพื้น
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ” เธอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างเพียงคืบอย่างตะลึง ชายหนุ่มก็จ้องมองเธออยู่นานเช่นกัน
“ไม่เป็นไร ระวังหน่อยก็ดีหรือว่าเธอตั้งใจจะอ่อยฉัน?” ก่อนที่เมรินดาจะผละออกห่างอย่างไว
“ฉันไม่จำเป็นต้องอ่อยคนอย่างคุณ ขอบคุณนะที่ช่วยไว้” เธอถึงกับหงุดหงิดเขาขึ้นมาทันที
“ลงไปข้างล่างกันเถอะหรือว่าเธออยากทำอย่างอื่นต่อ?” พร้อมกับก้มลงมาใกล้ๆเธออีกครั้ง
“นี่คุณ!!!” เมรินดาผลักหน้าเขาออกห่างอย่างไว เขายิ้มเยาะก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปก่อนอย่างอารมณ์ดี ทำเอาเมรินดายืนมองก่อนจะเอามือทาบอก ที่มันกำลังเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
“ยัยเมย์เอ้ย! ทำไมไม่ระวังนะ ซุ่มซ่ามจริงๆเลยเธอเนี่ย” เสียงหวานบ่นว่าตัวเองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มร่างสูงออกไปติดๆ