“นี่เรา...เราแค่ฝันไปเหรอเนี่ย” ฝันที่ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อย แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข รู้สึกได้ถึงเลือดลมที่สูบฉีดพลุ่งพล่านไปทั้งตัว
“เรา...เรา...ต้องบ้าไปแล้วแน่...ทำไมอยู่ๆถึงฝันถึงคนแก่คราวพ่อ”
เธอกำลังจะลงจากเตียง ถึงได้เห็นว่ากางเกงในตัวบางของเธอเปียกฉ่ำไปทั้งเป้า แม้แต่บนฟูกก็มีร่องรอยของคราบใคร่ราคะที่ความฝันกระตุ้นมันให้ออกมา
“โอว...เปียกหมดเลย...นี่เรา...เรารู้สึกกับลุงธนาขนาดนี้เลยเหรอ” ก็แค่บังเอิญไปเห็นลุงธนาอาบน้ำอยู่ในสวนแล้วช่วยตัวเองอย่างมีความสุข เธอก็เก็บเขามาคิดมาฝันได้เป็นตุเป็นตะ เธอนี่ช่างทะลึ่งตึงตัง คิดอะไรลามกไม่เข้าเรื่อง
“ใยบัว! ตื่นยังลูก สายแล้วนะ วันนี้ลูกจะไปงานปัจฉิมนิเทศที่โรงเรียนไม่ใช่เหรอ”
เสียงของมารดาดังขึ้น หลังจากเคาะประตูอยู่นานแล้วไม่มีเสียงตอบกลับจากคนข้างใน
“ค่ะแม่ ตื่นแล้วค่ะ อีกสิบห้านาทีหนูลงไปค่ะ”
ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้ใส่แบบฟอร์มชุดนักเรียนมัธยมที่เธอรัก เพราะอย่างนั้น วันนี้จะต้องเป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกวันหนึ่งของเธอ ที่เธอจะต้องจดจำไว้ในชีวิต
“เฮ่อ...วันนี้อากาศดีจัง”
เธอเปิดหน้าต่างบานใหญ่ของห้องนอนชั้นบน เพื่อชมทิวทัศน์ของสวนใหญ่หลังบ้าน พื้นที่ขนาดกว่าไร่ มีทั้งสวนดอกไม้ สวนผักและสวนไม้ผล ที่ทำงานของผู้ชายคนนั้น คนที่เธอฝันถึงเมื่อคืนนี้
“เอ๊ะ...”
เมื่อเธอก้มต่ำลงไปยังสวนดอกกุหลาบเบื้องล่าง เธอก็ได้เห็นดวงตาคู่หนึ่งเงยหน้ามองเธออยู่ ไม่รู้ว่าเขามองอยู่นานเท่าไหร่แล้ว แต่สายตาคู่นั้นทำให้เธอร้อนวูบไปทั้งตัว
เธอรีบหลบสายตาเขา ดึงม่านสีขาวปิดหน้าต่างไว้ แล้วเดินกลับเข้าห้องด้วยหัวใจเต้นระทึก
“นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย...เขาแก่คราวพ่อเลยนะ ไปรู้สึกแบบนั้นกับเขาได้ไง...เราเป็นใคร เขาเป็นใคร จำไว้ให้ดีสิใยบัว!”
ธนาเฝ้ามองเด็กสาวที่มักออกมาเปิดหน้าต่างห้องเพื่อสูดอากาศยามเช้าบนชั้นสองของบ้านแทบจะทุกวัน เขาคิดว่าเธอนั้นสวยกว่าอรุณรุ่งยามฟ้าสางเสียอีก
“สาวน้อย...” สาวน้อยที่เริ่มโตเป็นสาวอย่างเต็มตัวและเต็มกาย สาวน้อยที่กำลังจะกลายเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อมทั้งรูปทรัพย์และเงินทอง “เจ้าหญิงใยบัว”
ธิดานุชเป็นเจ้าหญิงของทุกคนในบ้าน แต่สำหรับเขา เธอเปรียบดั่งนางฟ้าจุติมาเกิด นางฟ้าที่คนชั้นต่ำอย่างเขาคงมีสิทธิ์เพียงแค่เฝ้ามองจากบนพื้นดินเท่านั้น
“ลุงธนา!” เสียงเรียกจากอารีย์ สาวใช้คนหนึ่งของบ้าน ซึ่งเป็นลูกสาวของโฉมฉาย หัวหน้าแม่บ้าน หญิงหม้ายร้างผัววัยเกือบห้าสิบที่มักย่องเข้าหาเขาตอนดึก ๆเสมอ “แม่ให้มาตามไปกินข้าวเช้าที่ครัวด้วยกัน”
“ไม่ล่ะ ขอบใจ ข้ายังทำงานไม่เสร็จ เดี๋ยวเรื่องปากท้องข้า ข้าจัดการเอง”
เขาก็เพียงแค่ช่วยให้แม่หม้ายคลายเหงาคลายเ****นก็เท่านั้น แต่ไม่ได้ผูกมัดด้วยหัวใจ เจ้าหล่อนก็น่าจะรู้ข้อนี้ดี แต่ก็ยังพยายามทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ชอบแสดงออกให้คนรับใช้และคนงานในบ้านรู้ว่าได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้เองที่ทำให้เขาถอยห่าง ไม่ยอมให้เจ้าหล่อนลอบเข้าห้องได้ง่าย ๆอีกแล้ว ไม่ใช่เพราะหวงเนื้อหวงตัวอะไรหรอก แต่เขาไม่ชอบการผูกมัดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่อย่างนั้น คงไม่อยู่เป็นโสดมาจนถึงป่านนี้